พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิป่าไม้และการชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต การซื้อขายที่ดินไม่ครอบคลุมสิทธิในป่า
มีผู้ยกคันนาทั้ง 3 ด้านล้อมนาและป่าที่มีต้นสักขึ้นอยู่ไว้เพียงเท่านี้ ยังหาทำให้ผู้นั้นเป็นเจ้าของป่าและไม้สักได้ตามกฎหมายไม่ ฉะนั้นแม้ผู้นั้นจะขายที่ดินทั้งหมดให้แก่ผู้อื่น โดยมีเจ้าพนักงานไปรังวัดและไม่มีผู้คัดค้านก็ดีการซื้อขายนั้นก็ไม่ทำให้ผู้รับซื้อมีกรรมสิทธิในที่ป่าและต้นสักนั้น ฉะนั้นผู้ใดตัดต้นสักในที่นั้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ จึงย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ฟ้องของโจทก์หาว่าจำเลยชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต อ้าง พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 มาตรา 39 ซึ่งบัญญัติถึงการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ต้องมีใบอนุญาตเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับไปด้วยและจำเลยก็เข้าใจข้อหาข้อนี้ดีแล้ว ถือว่าไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องของโจทก์หาว่าจำเลยชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต อ้าง พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 มาตรา 39 ซึ่งบัญญัติถึงการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ต้องมีใบอนุญาตเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับไปด้วยและจำเลยก็เข้าใจข้อหาข้อนี้ดีแล้ว ถือว่าไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์หลังชำระหนี้ด้วยที่ดิน
โจทก์เอาที่ดิน (มีโฉนดแต่ยังเป็นชื่อคนอื่น ยังไม่ได้โอน) ของโจทก์ยกให้บิดาจำเลยเป็นการตีใช้หนี้เงินกู้บิดาจำเลยก็รับชำระและยึดถือครอบครองที่ดินนั้นมาเกิน 10 ปีแล้วดังนี้ ฝ่ายจำเลยย่อมได้กรรมสิทธิในที่พิพาทในทางครอบครอง โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกที่พิพาทคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสิทธิการจับจองที่ดินเมื่อไม่ทำประโยชน์ตามกำหนด และผลกระทบต่อสิทธิเดิม
ขอใบเหยียบย่ำแล้วไม่ทำประโยชน์ใน 2 ปี ย่อมสิ้นสิทธิแห่งการจับจองที่ดินนั้นแล้วเมื่อเจ้าพนักงานออกใบเหยียบย่ำในที่ดินนั้นให้ผู้อื่นจับจองต่อไปผู้ได้รับ ใบเหยียบย่ำเดิมจะขัดขวางไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินมีเอกสิทธิ์ตามกฎหมายที่ดิน ไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ป่าไม้ การตัดไม้ในที่ดินนั้นจึงไม่เป็นความผิด
ที่ดินที่ได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมายที่ดินแล้ว ย่อมไม่เป็นป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 4(1) ผู้ใดตัดไม้ประเภทหวงห้ามในที่ดินนั้น จึงย่อมไม่ติดตามพระราชบัญญัติป่าไม้
พฤติการณ์ที่ถือว่า ได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ดินแล้ว
พฤติการณ์ที่ถือว่า ได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ดินแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินแล้วทิ้งร้าง ผู้ครอบครองมีสิทธิเหนือกว่า
ซื้อที่ดินจากผู้อื่นโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่อำเภอ แต่ก็ได้ทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าหลายปีจนมีผู้มาขอจับจองเจ้าพนักงานผู้ไปทำการรังวัดก็เห็นเป็นที่ว่างเปล่า จึงได้ออกใบเหยียบย่ำให้ แล้วผู้นั้นได้เข้าครอบครอง ดังนี้ผู้ขอจับจองและเข้าครอบครองจึงมีสิทธิดีกว่าผู้ซื้อ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินก่อนย่อมได้สิทธิเหนือผู้เข้ามาภายหลัง แม้จะมีการขอใบเหยียบย่ำ
เข้าจับจองที่ดินซึ่งมีผู้ก่อสร้างครอบครองอยู่ก่อนแล้วใบเหยียบย้ำส่วนที่ทับที่ผู้อื่นครอบครองอยู่ก่อนแล้ว จึงใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย
ก่อสร้างถางป่าทำเป็นนาขึ้น แล้วไปค้าขายต่างถิ่น แต่บุตรภรรยายังคงทำนาอยู่ ได้ชื่อว่าบุตรภรรยาครอบครองแทน ไม่เรียกว่าได้สละการครอบครองแล้ว
ก่อสร้างถางป่าทำเป็นนาขึ้น แล้วไปค้าขายต่างถิ่น แต่บุตรภรรยายังคงทำนาอยู่ ได้ชื่อว่าบุตรภรรยาครอบครองแทน ไม่เรียกว่าได้สละการครอบครองแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 849/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินว่างเปล่า ไม่ถือเป็นเจ้าของสิทธิเหนือที่ดิน แม้เคยเลี้ยงสัตว์
เพียงแต่เคยเอาโคกระบือกมาเลี้ยงในที่ว่างเปล่าเท่านั้น จะเถียงสิทธิกับผู้ที่ได้รับใบเหยียบย่ำในที่นั้นมาโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องเรียกทรัพย์คืนจากการซื้อขาย และภาระการพิสูจน์การครอบครองเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายที่ดินมีโฉนดให้ และโจทก์ได้ครอบครองมา 10 ปีกว่าแล้ว ขอให้จำเลยโอนแก้ทะเบียนให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขายหรือใไ้ถอนชื่อจำเลยออกใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดแทน จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบที่ดินให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ประเด็นตกเป็นหน้าที่โจทก์นำสืบก่อน เพราะภาระการพิสูจน์ว่า การครอบครองของโจทก์ได้เป็นไปโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของยังคงตกอยู่แก่โจทก์ ทั้งนี้เพราะการอ้างถึงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 1382 สหรับที่ดินที่มีหนังสือสำคัญ แสดงกรรมสิทธิว่าเป็นของผู้อื่นอยู่แล้วนั้น ผู้อ้างจะต้องแสดงหลักฐานให้เป็นที่พอใจต่อศาลจึงจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแสดงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิเพื่อการจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) 2486 มาตรา 14 และกฎกระทรงมหาดไทยลงวันที่ 1 มกราคม 2486 ข้อ 1
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแต่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้ อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา 10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแต่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้ อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา 10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้าหลวงจังหวัดมีสิทธิขัดทรัพย์ ยึดที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่ได้
ที่สาธารณะของแผ่นดิน อันอยู่ในความดูแลปกครองของข้าหลวงประจำจังหวัด ข้าหลวงประจำจังหวัดมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ในคดีที่มีผู้นำยึดที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสัญญาให้ที่ดินและการเรียกคืนกรรมสิทธิ ถือเป็นการเรียกทรัพย์คืน
โจทก์ ฟ้องอ้างว่าโจทก์ได้ให้ที่ดินแก่จำเลยไปแล้ว โจทก์ขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาให้ ดังนี้ ความประสงค์ก็คือเอากรรมสิทธิ ซึ่งโจทก์ว่าได้โอนไปให้ แล้วกลับคืนมานั่นเอง ดังจะเห็นได้จากคำขอที่ให้ถอนชื่อจำเลยออกเสียจากโฉนด คงชื่อไว้แต่โจทก์ผู้เดียวนั้น เป็นเรื่องเรียกทรัพย์คืน และเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์ อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้.