คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 289

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 219 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ภาษีการค้าไม่ใช่บุริมสิทธิ ศาลยกคำร้องขอรับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จากเงินที่ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยก่อนเจ้าหนี้รายอื่นโดยอ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ค่าภาษีการค้าที่จำเลยค้างชำระอยู่ อันเป็นหนี้บุริมสิทธิเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า หนี้ค่าภาษีการค้าที่ค้างชำระนั้นเป็นหนี้สามัญ ศาลก็ต้องยกคำร้องของผู้ร้องเสีย โดยไม่ต้องพิจารณาว่าตามคำร้องเป็นกรณีขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 290ด้วยหรือไม่ เพราะเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นในคดีนี้
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ก่อนโดยอาศัยอำนาจแห่งบุริมสิทธิตาม ป.วิ.พ.มาตรา 289 ซึ่งเป็นคดีมีทุนทรัพย์ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ผู้ร้องต้องเสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 (1) ท้าย ป.วิ.พ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการขอรับชำระหนี้จากทรัพย์สิน ศาลยกคำร้องเนื่องจากหนี้เป็นหนี้สามัญ ไม่ใช่หนี้บุริมสิทธิ
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จากเงินที่ขายทอดตลาดทรัพย์สิน ของจำเลยก่อนเจ้าหนี้รายอื่นโดยอ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ค่าภาษีการค้าที่จำเลยค้างชำระอยู่ อันเป็นหนี้บุริมสิทธิเมื่อ ทางพิจารณา ได้ความ ว่า หนี้ค่าภาษีการค้าที่ค้างชำระนั้นเป็นหนี้สามัญ ศาล ก็ ต้อง ยกคำร้อง ของผู้ร้องเสีย โดยไม่ต้องพิจารณาว่าตามคำร้องเป็น กรณี ขอเฉลี่ยทรัพย์ ของจำเลยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 290 ด้วยหรือไม่ เพราะเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นในคดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ก่อนโดยอาศัยอำนาจแห่ง บุริมสิทธิตาม ป.วิ.พ. มาตรา 289 ซึ่งเป็นคดีมีทุนทรัพย์ตามจำนวน ทุนทรัพย์ ที่เรียกร้อง ผู้ร้องต้องเสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1(1) ท้าย ป.วิ.พ..

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6187/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลบังคับจำนอง: ศาลฎีกาตัดสินคืนเงินส่วนเกินจากการเรียกค่าขึ้นศาลเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และยืนตามศาลล่างที่ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียม
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนองได้ยื่นคำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 ถือเสมือนหนึ่งว่าผู้ร้องได้ฟ้องบังคับจำนองจำเลยนั่นเอง ตามข้อ 1(ค) แห่งตาราง 1 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งระบุไว้ว่า ให้เรียกค่าขึ้นศาลในอัตราร้อยละ 1 แต่ไม่ให้เกิน 100,000 บาท ต่อเมื่อจำเลยให้การต่อสู้คดีจึงให้เรียกค่าขึ้นศาลในอัตราร้อยละ 2.5 แต่คดีนี้จำเลยมิได้คัดค้านหรือสู้ คดีแต่อย่างใด การที่โจทก์คัดค้านจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามข้อนี้ ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลเกินมา 100,000 บาท เห็นควรคืนให้แก่ผู้ร้อง แม้ผู้ร้องจะมิได้ฎีกาขึ้นมาโดยตรงก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
ผู้ร้องร้องขอให้เอาเงินที่ขายทอดตลาดทรัพย์จำนองได้ชำระหนี้ผู้ร้องก่อนเจ้าหนี้อื่น เสมือนหนึ่งผู้ร้องฟ้องบังคับจำนองต่อจำเลยแล้ว จำเลยก็มีหน้าที่จะต้องใช้ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้แทนผู้ร้อง หรือนัยหนึ่งให้ไปเรียกเอาจากกองทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดได้ และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 ซึ่งบัญญัติเรื่องความรับผิดชั้นที่สุดในค่าฤชาธรรมเนียมไว้นั้น ก็เป็นดุลพินิจของศาลที่จะให้ใช้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6187/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลบังคับจำนอง: ศาลเรียกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และความรับผิดค่าฤชาธรรมเนียม
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนองได้ยื่นคำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 ถือเสมือนหนึ่งว่าผู้ร้องได้ฟ้องบังคับจำนองจำเลยนั่นเอง ตามข้อ 1(ค) แห่งตาราง 1ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งระบุไว้ว่า ให้เรียกค่าขึ้นศาลในอัตราร้อยละ 1 แต่ไม่ให้เกิน 100,000 บาท ต่อเมื่อจำเลยให้การต่อสู้คดีจึงให้เรียกค่าขึ้นศาลในอัตราร้อยละ 2.5 แต่คดีนี้จำเลยมิได้คัดค้านหรือสู้ คดีแต่อย่างใด การที่โจทก์คัดค้านจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามข้อนี้ ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลเกินมา 100,000 บาท เห็นควรคืนให้แก่ผู้ร้อง แม้ผู้ร้องจะมิได้ฎีกาขึ้นมาโดยตรงก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ผู้ร้องร้องขอให้เอาเงินที่ขายทอดตลาดทรัพย์จำนองได้ชำระหนี้ผู้ร้องก่อนเจ้าหนี้อื่น เสมือนหนึ่งผู้ร้องฟ้องบังคับจำนองต่อจำเลยแล้ว จำเลยก็มีหน้าที่จะต้องใช้ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้แทนผู้ร้อง หรือนัยหนึ่งให้ไปเรียกเอาจากกองทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดได้ และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 ซึ่งบัญญัติเรื่องความรับผิดชั้นที่สุดในค่าฤชาธรรมเนียมไว้นั้น ก็เป็นดุลพินิจของศาลที่จะให้ใช้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3748/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีทุจริตโครงการสร้างงานฯ เหตุไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง และไม่มีหน้าที่รับผิดชอบโครงการ
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 24 กันยายน 2514 ข้อ 10 ทวิ กำหนดให้โจทก์มีหน้าที่เกี่ยวกับราชการทางการเมือง หาได้กำหนดให้โจทก์มีหน้าที่เกี่ยวกับโครงการสร้างงานในชนบทไม่ และตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยโครงการสร้างงานในชนบท พ.ศ.2425 ข้อ 6 วรรคสอง ซึ่งกำหนดว่า "ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการ กสช." ก็หมายถึงให้โจทก์ทำหน้าที่ในด้านธุรการเกี่ยวกับโครงการสร้างงานในชนบทเท่านั้น หาได้กำหนดให้โจทก์มีหน้าที่รับผิดชอบหรือควบคุมการดำเนินการตามโครงการสร้างงานในชนบทไม่ และตามระเบียบฯ ดังกล่าวข้อ 40 ยังได้กำหนดว่า หากมีข้อร้องเรียนหรือพฤติการณ์ที่แสดงว่ามีการทุจริตหรือมีการปฏิบัติฝ่าฝืนระเบียบนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการสอบสวนเพื่อทราบข้อเท็จจริง แล้วรายงานประธาน กสช. ทราบโดยเร็ว ไม่ได้กำหนดให้รายงานให้โจทก์ทราบแต่อย่างใด ทั้งเงินที่ถูกทุจริตละเมิดเอาไปไม่ใช่เงินที่อยู่ในความรับผิดชอบของโจทก์ โจทก์ไม่ได้รับความเสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้องของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยให้มีผลถึงจำเลยที่ขาดนัดยื่อคำให้การและขาดนัดพิจารณาได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4069/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลคำฟ้องบังคับจำนอง: ศาลฎีกาวินิจฉัยอัตราค่าขึ้นศาลที่ถูกต้องเมื่อจำเลยไม่ต่อสู้คดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอต่อศาลให้เอาเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์มาชำระหนี้ให้แก่ผู้ร้องก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ โดยอาศัยอำนาจแห่งการจำนองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา289 คำร้องดังกล่าวถือได้ว่าเป็นคำฟ้องบังคับจำนองด้วย เมื่อจำเลยผู้จำนองไม่ให้การต่อสู้คดีหรือคัดค้าน ผู้ร้องก็ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ (1)(ค) ในอัตราร้อยละหนึ่ง แต่ไม่เกินหนึ่งแสน บาทแม้โจทก์จะได้ยื่นคำคัดค้านก็ถือว่าเป็นการโต้แย้งในชั้นบังคับคดีเท่านั้น ไม่ใช่ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการบังคับจำนองโดยตรงและถือไม่ได้ว่าคำคัดค้านเป็นคำให้การต่อสู้คดีแทนจำเลยตามความหมายของตาราง 1 ค่าขึ้นศาล แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2889/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จำนอง: คำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์จากเจ้าหนี้บุริมสิทธิที่ยื่นหลังการขายทอดตลาด
จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันหนี้ทั้งหลายที่จำเลยมีต่อโจทก์หรือผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันต่อมาโจทก์และผู้ร้องได้แยกฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้และบังคับจำนองเป็นคดีนี้ กับอีก 2 คดีตามที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนอง ดังนั้น คำร้องทั้งสองฉบับดังกล่าวของผู้ร้องหาใช่เป็นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองจากการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาโดยอาศัยอำนาจแห่งการจำนองซึ่งผู้ร้องมีบุริมสิทธิในการที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 289 ซึ่งผู้ร้องจะต้องยื่นคำร้องขอก่อนเอาทรัพย์นั้นออกขายทอดตลาดตามมาตรา 289 วรรคสองไม่ แต่เป็นคำร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์จำนองดังกล่าว ตามมาตรา 287 และเป็นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในฐานะผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเช่นเดียวกับโจทก์จากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยตามมาตรา 290.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2889/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับจำนองและการเฉลี่ยทรัพย์: คำร้องของผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันหนี้ทั้งหลายที่จำเลยมีต่อโจทก์หรือผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันต่อมาโจทก์และผู้ร้องได้แยกฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้และบังคับจำนอง เป็นคดีนี้กับอีก 2 คดีตามที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนอง ดังนั้น คำร้องทั้งสองฉบับดังกล่าวของผู้ร้องหาใช่เป็นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองจากการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาโดยอาศัยอำนาจแห่งการจำนองซึ่งผู้ร้องมีบุริมสิทธิ์ในการที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289ซึ่งผู้ร้องจะต้องยื่นคำร้องขอก่อนเอาทรัพย์นั้นออกขายทอดตลาดตามมาตรา 289 วรรคสองไม่ แต่เป็นคำร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์จำนองดังกล่าวตามมาตรา 287 และเป็นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในฐานะผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเช่นเดียวกับโจทก์จากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยตามมาตรา 290

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2889/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้จำนอง: การบังคับจำนองและการเฉลี่ยทรัพย์
จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันหนี้ทั้งหลายที่จำเลยมีต่อโจทก์หรือผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันต่อมาโจทก์และผู้ร้องได้แยกฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้และบังคับจำนองเป็นคดีนี้ กับอีก 2 คดีตามที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนอง ดังนั้น คำร้องทั้งสองฉบับดังกล่าวของผู้ร้องหาใช่เป็นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองจากการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาโดยอาศัยอำนาจแห่งการจำนองซึ่งผู้ร้องมีบุริมสิทธิในการที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 289 ซึ่งผู้ร้องจะต้องยื่นคำร้องขอก่อนเอาทรัพย์นั้นออกขายทอดตลาดตามมาตรา 289 วรรคสองไม่ แต่เป็นคำร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์จำนองดังกล่าว ตามมาตรา 287 และเป็นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในฐานะผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเช่นเดียวกับโจทก์จากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยตามมาตรา 290

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้จำนองในการขอรับชำระหนี้ก่อนการขายทอดตลาด หากเจ้าพนักงานบังคับคดียังไม่ได้แจ้งหนี้อื่น
ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองเฉพาะ เจ้าหนี้ผู้รับจำนองอสังหาริมทรัพย์ หรือเจ้าหนี้ผู้ทรงบุริมสิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์อันได้ จดทะเบียนไว้เท่านั้นที่ต้อง ร้องขอรับชำระหนี้เข้ามาก่อนที่จะมีการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ส่วนในกรณีอื่น ๆ ให้ยื่นคำร้องขอเสียก่อนเจ้าพนักงานบังคับคดีส่งคำบอกกล่าวตาม ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 319 เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ดำเนินการตาม บทบัญญัตมาตรา 319 ผู้ร้องซึ่ง เป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองสังหาริมทรัพย์จึงยังมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่น.
of 22