พบผลลัพธ์ทั้งหมด 219 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีแก่ทรัพย์นอกจำนอง: สัญญาจำนองเปิดช่องให้ยึดทรัพย์นอกจำนองได้หากทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้
ในสัญญาจำนองที่โจทก์นำมาฟ้องมีข้อความว่า ถ้าทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ที่จำนอง ผู้จำนองยอมให้เอาทรัพย์นอกจำนองมาชำระหนี้จำนองได้เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองไปแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้จำนองโจทก์ก็ย่อมมีสิทธิขอให้บังคับคดีแก่ทรัพย์นอกจำนองได้(แม้ในกรณีที่ตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์โจทก์มิได้ขอว่าถ้าขายทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอให้ศาลยึดทรัพย์อื่นนอกจำนองขายทอดตลาดเอาเงินใช้หนี้จำนองด้วยและศาลชั้นต้นก็มิได้พิพากษาว่า ถ้าขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอใช้หนี้จำนองแล้ว ให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์จนครบหนี้จำนอง )
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการบังคับคดีแก่ทรัพย์นอกจำนองเมื่อทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ ตามสัญญาจำนองที่ตกลงกันไว้
ในสัญญาจำนองที่โจทก์นำมาฟ้องมีข้อความว่า ถ้าทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ที่จำนอง ผู้จำนองยอมให้เอาทรัพย์นอกจำนองมาชำระหนี้จำนองได้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองไปแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้จำนอง โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิขอให้บังคับคดีแก่ทรัพย์นอกจำนองได้ (แม้ในกรณีที่ตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ ๆ มิได้ขอว่า ถ้าขายทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอให้ศาลยึดทรัพย์อื่นนอกจำนองขายทอดตลาดเอาเงินใช้หนี้จำนองด้วย และศาลชั้นต้นก็มิได้พิพากษาว่า ถ้าขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอใช้หนี้จำนองแล้ว ให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์จนครบหนี้จำนอง)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 953/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการนำสืบของผู้รับจำนองในการคดีที่เจ้าหนี้อื่นยึดทรัพย์จำนอง ผู้รับจำนองต้องแสดงสิทธิของตน
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนองที่ดินไว้จากจำเลยมิได้ฟ้องผู้จำนอง (จำเลย) เพื่อเอาทรัพย์ (ที่ดิน) จำนองหลุด แต่ได้ร้องเข้ามาในคดีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา(โจทก์) ได้ยึดที่ดินนั้นเพื่อเอาชำระหนี้เช่นนี้ ผู้ร้องจะว่าเป็นหน้าที่ของผู้จำนองจะต้องนำสืบว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนเงินอันค้างชำระ ฟังไม่ได้เพราะไม่ใช่คดีระหว่างผู้รับจำนองกับผู้จำนอง
เมื่อผู้ร้องต้องการเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิ เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและยึดทรัพย์สินนั้นไว้ ผู้ร้องก็ต้องแสดงสิทธิของตนให้ปรากฎ โจทก์โต้แย้งอยู่ว่าราคาทรัพย์สินไม่ท่วมจำนวนหนี้ของผู้ร้อง ซึ่งศาลรับฟังเป็นประเด็นข้อพิพาท เมื่อผู้ร้องไม่นำสืบ ก็แสดงสิทธิที่จะเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิตาม ป.วิ.แพ่ง ม.289 ไม่ได้.
เมื่อผู้ร้องต้องการเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิ เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและยึดทรัพย์สินนั้นไว้ ผู้ร้องก็ต้องแสดงสิทธิของตนให้ปรากฎ โจทก์โต้แย้งอยู่ว่าราคาทรัพย์สินไม่ท่วมจำนวนหนี้ของผู้ร้อง ซึ่งศาลรับฟังเป็นประเด็นข้อพิพาท เมื่อผู้ร้องไม่นำสืบ ก็แสดงสิทธิที่จะเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิตาม ป.วิ.แพ่ง ม.289 ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 953/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเอาทรัพย์จำนองหลุดในคดีที่เจ้าหนี้อื่นยึดทรัพย์ ผู้ร้องต้องแสดงสิทธิและพิสูจน์ราคาทรัพย์
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนองที่ดินไว้จากจำเลยมิได้ฟ้องผู้จำนอง (จำเลย)เพื่อเอาทรัพย์ (ที่ดิน) จำนองหลุด แต่ได้ร้องเข้ามาในคดีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา(โจทก์)ได้ยึดที่ดินนั้นเพื่อเอาชำระหนี้เช่นนี้ผู้ร้องจะว่าเป็นหน้าที่ของผู้จำนองจะต้องนำสืบว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนเงินอันค้างชำระ ฟังไม่ได้เพราะไม่ใช่คดีระหว่างผู้รับจำนองกับผู้จำนอง
เมื่อผู้ร้องต้องการเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและยึดทรัพย์สินนั้นไว้ผู้ร้องก็ต้องแสดงสิทธิของตนให้ปรากฏโจทก์โต้แย้งอยู่ว่าราคาทรัพย์สินไม่ท่วมจำนวนหนี้ของผู้ร้อง ซึ่งศาลรับฟังเป็นประเด็นข้อพิพาทเมื่อผู้ร้องไม่นำสืบ ก็แสดงสิทธิที่จะเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา289 ไม่ได้
เมื่อผู้ร้องต้องการเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและยึดทรัพย์สินนั้นไว้ผู้ร้องก็ต้องแสดงสิทธิของตนให้ปรากฏโจทก์โต้แย้งอยู่ว่าราคาทรัพย์สินไม่ท่วมจำนวนหนี้ของผู้ร้อง ซึ่งศาลรับฟังเป็นประเด็นข้อพิพาทเมื่อผู้ร้องไม่นำสืบ ก็แสดงสิทธิที่จะเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา289 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในการยึดทรัพย์ของผู้ต้องชำระหนี้ แม้ผู้ร้องอ้างเป็นเจ้าของ แต่ขาดหลักฐาน
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดสังหาริมทรัพย์อันจำเลยครอบครองใช้สอยอยู่เป็นประจำ แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอ้างว่าซื้อจากจำเลย แต่ก็หามีหลักฐานอ้างอิงไม่ ย่อมต้องถือว่าทรัพย์นั้นยังเป็นของจำเลยอยู่
รถจักรยาน 3 ล้อ ซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดแม้ผู้ร้องจะรับจำนำไว้ก็ดี ผู้ร้องก็หามีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์นี้ได้ไม่ คงเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตาม ก.ม.ว่าด้วยการนั้นเท่านั้น
รถจักรยาน 3 ล้อ ซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดแม้ผู้ร้องจะรับจำนำไว้ก็ดี ผู้ร้องก็หามีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์นี้ได้ไม่ คงเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตาม ก.ม.ว่าด้วยการนั้นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเหนือทรัพย์สินของจำเลย แม้มีผู้อ้างสิทธิซื้อขาย แต่ขาดหลักฐาน
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดสังหาริมทรัพย์อันจำเลยครอบครองใช้สอยอยู่เป็นประจำ แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอ้างว่าซื้อจากจำเลยแต่ก็หามีหลักฐานอ้างอิงไม่ ย่อมต้องถือว่าทรัพย์นั้นยังเป็นของจำเลยอยู่
รถจักรยาน 3 ล้อซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดแม้ผู้ร้องจะรับจำนำไว้ก็ดี ผู้ร้องก็หามีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์นี้ได้ไม่ คงเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นเท่านั้น
รถจักรยาน 3 ล้อซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดแม้ผู้ร้องจะรับจำนำไว้ก็ดี ผู้ร้องก็หามีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์นี้ได้ไม่ คงเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ของจำเลย แม้ผู้ร้องอ้างเป็นเจ้าของ แต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน ศาลจึงไม่ปล่อยทรัพย์
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดสังหาริมทรัพย์อันจำเลยครอบครองใช้สอยอยู่เป็นประจำ แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอ้างว่าซื้อจากจำเลยแต่ก็หามีหลักฐานอ้างอิงไม่ ย่อมต้องถือว่าทรัพย์นั้นยังเป็นของจำเลยอยู่
รถจักรยาน 3 ล้อซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดแม้ผู้ร้องจะรับจำนำไว้ก็ดี ผู้ร้องก็หามีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์นี้ได้ไม่ คงเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นเท่านั้น
รถจักรยาน 3 ล้อซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดแม้ผู้ร้องจะรับจำนำไว้ก็ดี ผู้ร้องก็หามีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์นี้ได้ไม่ คงเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2086/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้บุริมสิทธิจำนองและการบังคับชำระหนี้จากสินสมรส/สินบริคณห์
1. เดิมคู่ความฝ่ายหนึ่งยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่น ต่อมายืนคำร้องอีกฉบับเตือนให้ศาลเร่งพิจารณาวินิจฉัยคำร้องฉะบับเดิมศาลนัดพร้อมคู่ความฝ่ายที่ยื่นขาดนัด ศาลสั่งยกคำร้องฉบับที่เตือนเสีย ฟังไม่หมายความถึงให้ยกคำร้องเดิมที่ขอรับชำระหนี้นั้นด้วย
2. ผู้รับจำนองย่อมเป็นเจ้าหนี้มีบุริมสิทธิชอบที่จะร้องขอรับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าหนี้ที่มีคำพิพากษา ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมนั้น เมื่อคู่ความอีกฝ่ายมิได้โต้แย้งมาแต่ศาลชั้นต้น ศาลก็ไม่วินิจฉัยให้
3. คำสั่งของศาลที่ชี้ขาดว่าผู้ร้องขอรับชำระหนี้จำนองของจำเลยมีสิทธิจะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นได้นั้น หาเป็นการลบล้างคำพิพากษาของศาลในคดีอื่น (คดีแดงที่ 1472/2497 ) ที่ผู้ฎีกา (ผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์อีกรายหนึ่ง) ฟ้องขอให้แยกสินบริคณห์ระหว่างจำเลยกับสามีไม่
4. เมื่อคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงที่จะอ้างอิงเอกสารฉบับใด ให้ยื่นบัญชีแสดงเอกสารต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน แต่ถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ แม้จะฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าว
2. ผู้รับจำนองย่อมเป็นเจ้าหนี้มีบุริมสิทธิชอบที่จะร้องขอรับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าหนี้ที่มีคำพิพากษา ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมนั้น เมื่อคู่ความอีกฝ่ายมิได้โต้แย้งมาแต่ศาลชั้นต้น ศาลก็ไม่วินิจฉัยให้
3. คำสั่งของศาลที่ชี้ขาดว่าผู้ร้องขอรับชำระหนี้จำนองของจำเลยมีสิทธิจะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นได้นั้น หาเป็นการลบล้างคำพิพากษาของศาลในคดีอื่น (คดีแดงที่ 1472/2497 ) ที่ผู้ฎีกา (ผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์อีกรายหนึ่ง) ฟ้องขอให้แยกสินบริคณห์ระหว่างจำเลยกับสามีไม่
4. เมื่อคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงที่จะอ้างอิงเอกสารฉบับใด ให้ยื่นบัญชีแสดงเอกสารต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน แต่ถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ แม้จะฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2086/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้บุริมสิทธิจำนองและการบังคับชำระหนี้จากสินสมรส/สินบริคณห์
1. เดิมคู่ความฝ่ายหนึ่งยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่น ต่อมายื่นคำร้องอีกฉบับเตือนให้ศาลเร่งพิจารณาวินิจฉัยคำร้องฉบับเดิม ศาลนัดพร้อมคู่ความฝ่ายที่ยื่นขาดนัด ศาลสั่งยกคำร้องฉบับที่เตือนเสีย ดังนี้ไม่หมายความถึงให้ยกคำร้องเดิมที่ขอรับชำระหนี้นั้นด้วย 2. ผู้รับจำนองย่อมเป็นเจ้าหนี้มีบุริมสิทธิชอบที่จะร้องขอรับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าหนี้ที่มีคำพิพากษา ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเมื่อคู่ความอีกฝ่ายมิได้โต้แย้งมาแต่ศาลชั้นต้น ศาลก็ไม่วินิจฉัยให้ 3. คำสั่งของศาลที่ชี้ขาดว่าผู้ร้องขอรับชำระหนี้จำนองของจำเลยมีสิทธิจะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นได้นั้นหาเป็นการลบล้างคำพิพากษาของศาลในคดีอื่น (คดีแดงที่ 1472/2497) ผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์อีกรายหนึ่ง) ฟ้องขอให้แยกสินบริคณห์ระหว่างจำเลยกับสามีไม่ 4. เมื่อคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงที่จะอ้างอิงเอกสารฉบับใด ให้ยื่นบัญชีแสดงเอกสารต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน แต่ถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ แม้จะฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนำทรัพย์สิน: สิทธิบุริมสิทธิของผู้รับจำนำไม้สัก กรณีจำเลยมีสิทธิใช้ประโยชน์ทรัพย์
ผู้รับจำนำยื่นคำร้องต่อศาลว่าทรัพย์ที่โจทก์ขอให้ศาลยึดนั้นเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้จำนำต่อผู้ร้องไว้ผู้ร้องมีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์นั้นขอให้เอาเงินที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรัพย์นั้น ชำระหนี้แก่ผู้ร้องก่อนเจ้าหนี้อื่นรวมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนหนึ่งดังนี้ คดีปรับเข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150คือคำขอคำนวณเป็นราคาเงินได้ ผู้ร้องต้องเสียค่าขึ้นศาลตามอัตราของทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง
จำเลยทำตั๋วสัญญาใช้เงินให้ธนาคารผู้ร้อง 500,000 บาทขอเปิดบัญชีอีก200,000 บาท ได้ทำสัญญามอบไม้สักและไม้ซุงซึ่งอยู่ ณ โรงเลื่อยจำเลยให้ผู้ร้องเป็นประกันผู้ร้องได้เอาตราธนาคารตีประทับบนไม้ และทำหนังสือให้คนดูแลโรงเลื่อยจำเลยเป็นผู้ดูแลรักษา แต่จำเลยมีสิทธิที่จะนำไม้เหล่านี้ไปเลื่อยและขายได้ โดยขออนุญาตผู้ร้องแต่ต้องหามาทดแทนดังนี้ยังไม่พอที่จะให้ถือว่าทรัพย์อยู่ในความครอบครองของผู้รับจำนำหรือบุคคลภายนอกผู้ใดตามกฎหมาย เพราะผู้จำนำจะนำไม้ที่จำนำไปเลื่อยหรือขายก็ได้ฉะนั้นธนาคารผู้ร้องจะอ้างบุริมสิทธิว่าเป็นการจำนำถูกต้องตามกฎหมายมิได้
จำเลยทำตั๋วสัญญาใช้เงินให้ธนาคารผู้ร้อง 500,000 บาทขอเปิดบัญชีอีก200,000 บาท ได้ทำสัญญามอบไม้สักและไม้ซุงซึ่งอยู่ ณ โรงเลื่อยจำเลยให้ผู้ร้องเป็นประกันผู้ร้องได้เอาตราธนาคารตีประทับบนไม้ และทำหนังสือให้คนดูแลโรงเลื่อยจำเลยเป็นผู้ดูแลรักษา แต่จำเลยมีสิทธิที่จะนำไม้เหล่านี้ไปเลื่อยและขายได้ โดยขออนุญาตผู้ร้องแต่ต้องหามาทดแทนดังนี้ยังไม่พอที่จะให้ถือว่าทรัพย์อยู่ในความครอบครองของผู้รับจำนำหรือบุคคลภายนอกผู้ใดตามกฎหมาย เพราะผู้จำนำจะนำไม้ที่จำนำไปเลื่อยหรือขายก็ได้ฉะนั้นธนาคารผู้ร้องจะอ้างบุริมสิทธิว่าเป็นการจำนำถูกต้องตามกฎหมายมิได้