คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 290

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 301 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3607/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความบังคับคดี: การดำเนินการตามขั้นตอนครบถ้วนภายใน 10 ปี มิได้เพียงแค่การร้องขอ
การร้องขอให้บังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา271เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆของการบังคับคดีให้ครบถ้วนภายในกำหนด10ปีคือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีขั้นต่อไปต้องให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้วจากนั้นเจ้าหนี้ต้องแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำแถลงการที่ผู้ร้องเพียงแต่ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีอย่างเดียวเท่านั้นโดยมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปอีกจนพ้นกำหนดเวลา10ปีนับแต่วันมีคำพิพากษาผู้ร้องจึงหมดสิทธิที่จะบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของจำเลยเพราะขาดอายุการบังคับคดีและผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์จากทรัพย์สินของจำเลยเพราะการขอเฉลี่ยทรัพย์เป็นการบังคับคดีอย่างหนึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3607/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความบังคับคดี: เจ้าหนี้ต้องดำเนินการครบถ้วนภายใน 10 ปี มิฉะนั้นขาดสิทธิเรียกร้อง
การร้องขอให้บังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา271 เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ของการบังคับคดีให้ครบถ้วนภายในกำหนด 10 ปี คือ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี ขั้นต่อไปต้องให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้วจากนั้นเจ้าหนี้ต้องแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำแถลงการที่ผู้ร้องเพียงแต่ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีอย่างเดียวเท่านั้น โดยมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปอีกจนพ้นกำหนดเวลา 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา ผู้ร้องจึงหมดสิทธิที่จะบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของจำเลยเพราะขาดอายุการบังคับคดีและผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์จากทรัพย์สินของจำเลยเพราะการขอเฉลี่ยทรัพย์เป็นการบังคับคดีอย่างหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3341/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดพิจารณาและการยื่นบัญชีพยาน: ความแตกต่างระหว่างวันนัดพิจารณาและวันสืบพยาน
ผู้ร้องยื่นคำร้องอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยทั้งสองขอเฉลี่ยเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยตามส่วนศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำร้องว่านัดพิจารณาสำเนาให้โจทก์จำเลยเช่นนี้วันนัดพิจารณาคือวันที่ศาลชี้สองสถานสืบพยานทำการไต่สวนฟังคำขอต่างๆหรือฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาเป็นต้นส่วนวันสืบพยานคือวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานวันที่ศาลนัดพิจารณาอาจจะมิใช่วันสืบพยานผู้ร้องและโจทก์จึงไม่จำต้องยื่นบัญชีพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา88.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3341/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดพิจารณาคำร้องและการยื่นบัญชีพยาน: ศาลชั้นต้นวินิจฉัยคลาดเคลื่อนเรื่องวันนัดพิจารณาและวันสืบพยาน
ผู้ร้องยื่นคำร้องอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยทั้งสองขอเฉลี่ยเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยตามส่วน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำร้องว่า นัดพิจารณา สำเนาให้โจทก์จำเลย เช่นนี้ วันนัดพิจารณาคือวันที่ศาลชี้สองสถาน สืบพยานทำการไต่สวน ฟังคำขอต่าง ๆ หรือฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาเป็นต้นส่วนวันสืบพยานคือวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยาน วันที่ศาลนัดพิจารณาอาจจะมิใช่วันสืบพยาน ผู้ร้องและโจทก์จึงไม่จำต้องยื่นบัญชีพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเฉลี่ยทรัพย์ของเจ้าหนี้ภาษีอากร และการโต้แย้งหนี้โดยบุคคลภายนอก
ประมวลรัษฎากรมาตรา12ให้อำนาจกรมสรรพากรผู้ร้องเพื่อให้ได้รับชำระค่าภาษีอากรค้างให้มีสิทธิที่จะสั่งยึดและสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรได้โดยไม่ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาลสิทธิดังกล่าวถือได้ว่าเป็นสิทธิอื่นๆซึ่งบุคคลภายนอกอาจขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินได้ผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องขอเฉลี่ยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา287,290 ในกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามประมวลรัษฎากรยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดจากจำเลยนั้นโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกย่อมมีสิทธิที่จะโต้แย้งคัดค้านได้ว่าหนี้ที่ผู้ร้องขอเฉลี่ยนั้นไม่ชอบผู้ร้องไม่มีสิทธิเข้าเฉลี่ยและศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยตามประเด็นที่ว่าจำเลยเป็นหนี้ผู้ร้องโดยชอบหรือไม่เพื่อวินิจฉัยให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยได้หรือไม่ข้อวินิจฉัยศาลดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินซึ่งยังคงผูกพันจำเลยอยู่และเมื่อศาลวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงว่าหนี้อันเกิดจากการหลอกลวงของจำเลยเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานประเมินประเมินให้จำเลยเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามคำร้องก็ชอบที่ศาลจะยกคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรมสรรพากรขอเฉลี่ยทรัพย์สิน และการวินิจฉัยหนี้ที่ไม่ชอบของศาล
ประมวลรัษฎากร มาตรา 12 ให้อำนาจกรมสรรพากรผู้ร้องเพื่อให้ได้รับชำระค่าภาษีอากรค้างให้มีสิทธิที่จะสั่งยึดและสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรได้โดยไม่ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาล สิทธิดังกล่าวถือได้ว่าเป็นสิทธิอื่นๆ ซึ่งบุคคลภายนอกอาจขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินได้ ผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องขอเฉลี่ยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287, 290
ในกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามประมวลรัษฎากรยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดจากจำเลยนั้น โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกย่อมมีสิทธิที่จะโต้แย้งคัดค้านได้ว่าหนี้ที่ผู้ร้องขอเฉลี่ยนั้นไม่ชอบ ผู้ร้องไม่มีสิทธิเข้าเฉลี่ยและศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยตามประเด็นที่ว่าจำเลยเป็นหนี้ผู้ร้องโดยชอบหรือไม่ เพื่อวินิจฉัยให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยได้หรือไม่ ข้อวินิจฉัยศาลดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินซึ่งยังคงผูกพันจำเลยอยู่ และเมื่อศาลวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงว่าหนี้อันเกิดจากการหลอกลวงของจำเลยเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานประเมินประเมินให้จำเลยเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามคำร้อง ก็ชอบที่ศาลจะยกคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเฉลี่ยทรัพย์ของเจ้าหนี้ภาษีอากร และอำนาจศาลในการวินิจฉัยความชอบของหนี้
ป.รัษฎากรมาตรา12ให้อำนาจกรมสรรพากรผู้ร้องเพื่อให้ได้รับชำระค่าภาษีอากรค้างให้มีสิทธิที่จะสั่งยึดและสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรได้โดยไม่ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาลสิทธิดังกล่าวถือได้ว่าเป็นสิทธิอื่นๆซึ่งบุคคลภายนอกอาจขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินได้ ผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องขอเฉลี่ยได้ตามป.วิ.พ.มาตรา287,290 ในกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตาม ป.รัษฎากรยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดจากจำเลยนั้นโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกย่อมมีสิทธิที่จะโต้แย้งคัดค้านได้ว่าหนี้ที่ผู้ร้องขอเฉลี่ยนั้นไม่ชอบผู้ร้องไม่มีสิทธิเข้าเฉลี่ยและศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยตามประเด็นที่ว่าจำเลยเป็นหนี้ผู้ร้องโดยชอบหรือไม่เพื่อวินิจฉัยให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยได้หรือไม่ข้อวินิจฉัยศาลดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินซึ่งยังคงผูกพันจำเลยอยู่และเมื่อศาลวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงว่าหนี้อันเกิดจากการหลอกลวงของจำเลยเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานประเมินประเมินให้จำเลยเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามคำร้องก็ชอบที่ศาลจะยกคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4524-4525/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ในการขอเฉลี่ยทรัพย์เมื่อลูกหนี้มีรายได้ในอนาคตไม่แน่นอนและไม่สามารถชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิง
ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 5 ตามคำพิพากษาจำนวนเงิน175,322 บาท 63 สตางค์ พร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยที่ 5มีรายได้สุทธิจากกิจการของจำเลยที่ 5 เพียงปีละ 60,000 บาท โดยรายได้ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ในอนาคตไม่แน่นอนผู้ร้องจึงไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิงในขณะยื่นคำร้อง จึงมีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์ยึดทรัพย์จำเลยที่ 5 ไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3181/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับก่อนหลังการบังคับคดีและการฟ้องล้มละลาย: เงินจากการขายทอดตลาดเป็นของเจ้าหนี้ก่อนศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
เมื่อได้มีการบังคับคดีแพ่งโดยขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยและมีผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ภายในกำหนด 14 วันนับแต่วันขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยตามบทบัญญัติมาตรา 290 วรรคสามแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและภายในกำหนด 14 วันดังกล่าวยังไม่มีการสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยนี้ในคดีล้มละลายย่อมถือได้ว่าการบังคับคดีได้สำเร็จบริบูรณ์แล้วก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้จึงไม่มีอำนาจโอนเงินในคดีแพ่งมาในคดีล้มละลายได้ตามนัย มาตรา 110 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483. มาตรา 111 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 เป็นเพียงบทบัญญัติที่วางวิธีปฏิบัติของเจ้าพนักงานบังคับคดีให้เป็นไปตามมาตรา 110 เท่านั้น
ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องขอเฉลี่ยของผู้ร้องขอเฉลี่ยไม่ถูกต้องและยังไม่มีการไต่สวนคำร้องดังกล่าว ศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบที่จะพิพากษาให้ผู้ร้องขอเฉลี่ยและโจทก์ได้รับการเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยที่ได้จากการขายทอดตลาดไปเลยทีเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3181/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการบังคับคดีและการดำเนินการในคดีล้มละลาย: เจ้าหนี้มีสิทธิรับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดก่อนศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์
เมื่อได้มีการบังคับคดีแพ่งโดยขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลย และมีผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ภายในกำหนด 14 วันนับแต่วันขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยตามบทบัญญัติมาตรา 290 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและภายในกำหนด 14 วันดังกล่าวยังไม่มีการสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยนี้ในคดีล้มละลาย ย่อมถือได้ว่าการบังคับคดีได้สำเร็จบริบูรณ์แล้วก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้จึงไม่มีอำนาจโอนเงินในคดีแพ่งมาในคดีล้มละลายได้ตามนัย มาตรา 110 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483. มาตรา 111 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 เป็นเพียงบทบัญญัติที่วางวิธีปฏิบัติของเจ้าพนักงานบังคับคดีให้เป็นไปตามมาตรา 110 เท่านั้น
ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องขอเฉลี่ยของผู้ร้องขอเฉลี่ยไม่ถูกต้องและยังไม่มีการไต่สวนคำร้องดังกล่าว ศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบที่จะพิพากษาให้ผู้ร้องขอเฉลี่ยและโจทก์ได้รับการเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยที่ได้จากการขายทอดตลาดไปเลยทีเดียว
of 31