พบผลลัพธ์ทั้งหมด 301 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเฉลี่ยทรัพย์สินของลูกหนี้: ฎีกาไม่อาจวินิจฉัยได้เนื่องจากข้ออ้างไม่ชัดเจนและขาดการสืบพยาน
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดทรัพย์สินของจำเลย ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษาในคดีสำนวนอื่นของจำเลยขอเฉลี่ยทรัพย์อ้างว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกแล้วนอกจากที่โจกท์นำยึดเท่านั้น
โจทก์ฎีกาคัดค้าน เมื่อฎีกาของโจทก์คลุมเครือไม่แจ้งชัดว่าหมายถึงเจ้าหนี้รายใด (ผู้ร้องขอเฉลี่ยหลายราย) และข้ออ้างว่ากระไร ดังนี้ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยให้ได้
โจทก์ฎีกาคัดค้าน เมื่อฎีกาของโจทก์คลุมเครือไม่แจ้งชัดว่าหมายถึงเจ้าหนี้รายใด (ผู้ร้องขอเฉลี่ยหลายราย) และข้ออ้างว่ากระไร ดังนี้ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเฉลี่ยทรัพย์สินของจำเลยระหว่างเจ้าหนี้หลายราย ศาลฎีกาไม่สามารถวินิจฉัยได้เนื่องจากฎีกาโจทก์ไม่ชัดเจน
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดทรัพย์สินของจำเลยผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีสำนวนอื่นของจำเลยขอเฉลี่ยทรัพย์ อ้างว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกแล้วนอกจากที่โจทก์นำยึดเท่านั้น
โจทก์ฎีกาคัดค้าน เมื่อฎีกาของโจทก์คลุมเครือไม่แจ้งชัดว่าหมายถึงเจ้าหนี้รายใด(ผู้ร้องขอเฉลี่ยหลายราย)และข้ออ้างว่ากระไร ดังนี้ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยให้ได้
โจทก์ฎีกาคัดค้าน เมื่อฎีกาของโจทก์คลุมเครือไม่แจ้งชัดว่าหมายถึงเจ้าหนี้รายใด(ผู้ร้องขอเฉลี่ยหลายราย)และข้ออ้างว่ากระไร ดังนี้ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดทรัพย์ที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่อาจใช้ยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายได้
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือแจ้งการอายัดในหุ้นของลูกหนี้ ซึ่งได้ชำระค่าหุ้นแล้วไปยังบริษัทเมื่อปรากฎว่าในหุ้นนั้นอยู่ในครอบครองของลูกหนี้และแจ้งการอายัดปืนไปยังนายทะเบียนปืน ในเมื่อปืนอยู่ในความครอบครองของเจ้าของหรือผู้อื่นนั้น ไม่ถือว่าเป็นการยึดหรืออายัดตาม ป.ม.วิ.แพ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงย่อมเรียกร้องยึดเอาทรัพย์ที่อายัดไม่ถูกต้องนั้นมาเข้ากองล้มละลายได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 110
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดทรัพย์สินไม่สมบูรณ์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิเรียกคืนได้
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือแจ้งการอายัดใบหุ้นของลูกหนี้ซึ่งได้ชำระค่าหุ้นแล้วไปยังบริษัทเมื่อปรากฏว่าใบหุ้นนั้นอยู่ในครอบครองของลูกหนี้และแจ้งการอายัดปืนไปยังนายทะเบียนปืน ในเมื่อปืนอยู่ในความครอบครองของเจ้าของหรือผู้อื่นนั้น ไม่ถือว่าเป็นการยึดหรืออายัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงย่อมเรียกร้องยึดเอาทรัพย์ที่อายัดไม่ถูกต้องนั้นมาเข้ากองล้มละลายได้ตาม พระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 110
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องเงินจากการบังคับคดี: ลำดับสิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและเจ้าหนี้อื่น
เมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ของลูกหนี้เพื่อขายทอดตลาดแล้ว ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 278 ให้ทรัพย์ที่ยึดและเงินที่ขายทอดตลาดตกอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดี ลูกหนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์ไม่มีอำนาจจะกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียต่อการบังคับคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เช่นลูกหนี้ทำสัญญายกเงินที่ขายทอดตลาดให้แก่ผู้ใด ผู้นั้นก็หามีอำนาจที่จะยกสิทธินั้นมาอ้างเพื่อขัดขวางสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่บังคับคดีหรือขอเฉลี่ยทรัพย์ ได้ไม่ และเมื่อปรากฎว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ยึดทรัพย์ลูกหนี้ขายทอดตลาดแล้วเจ้าหนี้อื่นก็ไม่มีสิทธิขัดขวางสิทธิของเจ้าหนี้ที่ได้ดำเนินการบังคับดคีนั้น ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 290 ก็อนุญาตเฉพาะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอเฉลี่ยในเงินที่ขายทอดตลาดได้เท่านั้นจะไปขอยึดทรัพย์นั้นโดยวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ก็หาทำให้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจบังคับคดีและการขัดขวางสิทธิเจ้าหนี้หลังยึดทรัพย์
เมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ของลูกหนี้เพื่อขายทอดตลาดแล้ว ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 278 ให้ทรัพย์ที่ยึดและเงินที่ขายทอดตลาดตกอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดี ลูกหนี้ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์ไม่มีอำนาจจะกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียต่อการบังคับคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เช่นลูกหนี้ทำสัญญายกเงินที่ขายทอดตลาดให้แก่ผู้ใด ผู้นั้นก็หามีอำนาจที่จะยกสิทธินั้นมาอ้างเพื่อขัดขวางสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่บังคับคดีหรือขอเฉลี่ยทรัพย์ ได้ไม่ และเมื่อปรากฏว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ยึดทรัพย์ลูกหนี้ขายทอดตลาดแล้วเจ้าหนี้อื่นก็ไม่มีสิทธิขัดขวางสิทธิของเจ้าหนี้ที่ได้ดำเนินการบังคับคดีนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ก็อนุญาตเฉพาะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอเฉลี่ยในเงินที่ขายทอดตลาดได้เท่านั้น จะไปขอยึดทรัพย์นั้นโดยวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ก็หาทำให้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเฉลี่ยทรัพย์ตามมาตรา 290: ระยะเวลาการยื่นคำขอและการอายัติทรัพย์ก่อนมีคำพิพากษา
ในกรณีร้องขอเฉลี่ยทรัพย์มาตรา 290 วรรค 4 บัญญัติห้ามมิให้ยื่นคำขอช้ากว่า 3 เดือนนับแต่วันอายัต นั้น มีความหมายถึงการอายัตตามคำพิพากษาเท่านั้น หาใช่มุ่งหมายให้นับแต่วันอายัติก่อนมีคำพิพากษาไม่
ภรรยาได้รับความยินยอมจากสามีให้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเรียกหนี้สิน จนศาลพิพากษาให้จำเลยใช้หนี้แล้ว เมื่อจำเลยถูกเจ้าหนี้อื่นยึดและอายัตทรัพย์ไว้ก่อนแล้ว ภรรยาผู้เป็นโจทก์ก็มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้ โดยในชั้นขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยผู้นี้ ภรรยาไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามีซ้ำอีก
คำว่า " ลูกหนี้ตามคำพิพากษา " ในมาตรา 290 นั้นหมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดทรัพย์ ไม่หมายความว่ามีทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาคนอื่นๆอยู่อีก
ภรรยาได้รับความยินยอมจากสามีให้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเรียกหนี้สิน จนศาลพิพากษาให้จำเลยใช้หนี้แล้ว เมื่อจำเลยถูกเจ้าหนี้อื่นยึดและอายัตทรัพย์ไว้ก่อนแล้ว ภรรยาผู้เป็นโจทก์ก็มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้ โดยในชั้นขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยผู้นี้ ภรรยาไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามีซ้ำอีก
คำว่า " ลูกหนี้ตามคำพิพากษา " ในมาตรา 290 นั้นหมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดทรัพย์ ไม่หมายความว่ามีทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาคนอื่นๆอยู่อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเฉลี่ยทรัพย์: เริ่มนับระยะเวลาหลังอายัดตามคำพิพากษา และสิทธิของโจทก์ที่ได้รับความยินยอมจากสามี
ในกรณีร้องขอเฉลี่ยทรัพย์มาตรา 290 วรรคสี่ บัญญัติห้ามมิให้ยื่นคำขอช้ากว่า 3 เดือนนับแต่วันอายัด นั้นมีความหมายถึงการอายัดตามคำพิพากษาเท่านั้น หาใช่มุ่งหมายให้นับแต่วันอายัดก่อนมีคำพิพากษาไม่
ภรรยาได้รับความยินยอมจากสามีให้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเรียกหนี้สิน จนศาลพิพากษาให้จำเลยใช้หนี้แล้ว เมื่อจำเลยถูกเจ้าหนี้อื่นยึดและอายัดทรัพย์ไว้ก่อนแล้วภรรยาผู้เป็นโจทก์ก็มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้ โดยในชั้นขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยผู้นี้ ภรรยาไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามีซ้ำอีก
คำว่า 'ลูกหนี้ตามคำพิพากษา' ในมาตรา 290 นั้นหมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดทรัพย์ ไม่หมายความว่ามีทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาคนอื่นๆอยู่อีก
ภรรยาได้รับความยินยอมจากสามีให้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเรียกหนี้สิน จนศาลพิพากษาให้จำเลยใช้หนี้แล้ว เมื่อจำเลยถูกเจ้าหนี้อื่นยึดและอายัดทรัพย์ไว้ก่อนแล้วภรรยาผู้เป็นโจทก์ก็มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้ โดยในชั้นขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยผู้นี้ ภรรยาไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามีซ้ำอีก
คำว่า 'ลูกหนี้ตามคำพิพากษา' ในมาตรา 290 นั้นหมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดทรัพย์ ไม่หมายความว่ามีทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาคนอื่นๆอยู่อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 962/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเฉลี่ยทรัพย์จากสัญญาสมยอม: ศาลพิจารณาความประสงค์ของผู้ฟ้องที่จะตัดสิทธิจำเลยจากการได้รับส่วนเฉลี่ย
จำเลยสมยอมกันทำสัญญากู้แล้วนำมาฟ้องศาล ทำสัญญายอมความกันแล้วจำเลยผู้ชนะคดี มายื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในคดีที่โจทก์เป็นเจ้าหนี้ยึดทรัพย์มา โจทก์จึงฟ้องจำเลยทั้งสองขอให้เพิกถอนสัญญากู้ สัญญายอมความ อีกทั้งคำพิพากษาตามยอม และขอให้จำเลยถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เสียนั้นความประสงค์อันแท้จริงของโจทก์ ก็คือจะไม่ให้จำเลยมีสิทธิได้รับส่วนเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์ได้ยึดไว้ ฉะนั้นศาลจึงพิพากษาแต่เพียงว่า จำเลยจะอ้างสิทธิตามสัญญากู้และสัญญายอมความอีก ทั้งคำพิพากษาตามยอมในคดีที่สมยอมกันนั้นมาขอเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์ยึดในอีกคดีหนึ่งไม่ได้ไม่จำเป็นต้องเพิกถอนสัญญาตามคำขอของโจทก์ เพราะผลคำพิพากษาในคดีของจำเลยนั้นเป็นเรื่องระหว่างจำเลยด้วยกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 962/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเฉลี่ยทรัพย์จากสัญญากู้สมยอม: ศาลจำกัดสิทธิเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องโดยตรง
จำเลยสมยอมกันทำสัญญากู้แล้วนำมาฟ้องศาล ทำสัญญายอมความกัน แล้วจำเลยผู้ขนะคดีมายื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในคดีที่โจทก์เป็นเจ้าหนี้ยึดทรัพย์มาโจทก์จึงฟ้องจำเลยทั้งสองขอให้เพิกถอนสัญญากู้ สัญญายอมความอีกทั้งคำพิพากษาตามยอมและขอให้จำเลยถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เสียนั้น ความประสงค์อันแท้จริงของโจทก์ ก็คือจะไม่ให้จำเลยมีสิทธิได้รับส่วนเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์ได้ยึดไว้ ฉะนั้นศาลจึ่งพิพากษาแต่เพียงว่า จำเลยจะอ้างสิทธิตามสัญญากู้และสัญญายอมความอีกทั้งคำพิพากษาตามยอมในคดีที่สมยอมกันนั้นมาขอเฉลี่ย ทรัพย์ที่โจทก์ยึดในอีกคดีหนึ่งไม่ได้ไม่จำเป็นต้องเพิกถอนสัญญาตามคำขอของโจทก์ เพราะผลคำพิพากษาในคดีของจำเลยนั้นเป็นเรื่องระหว่างจำเลยด้วยกัน