พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทนายมีหน้าที่ยื่นฎีกาแทนจำเลยที่เสียชีวิตแล้วได้ตามกฎหมาย
ทนายจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วยื่นฎีกาแทนจำเลยภายในอายุความฎีกา ปรากฏต่อมาว่า ตัวจำเลยได้ตายไปแล้วตั้งแต่ก่อนได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ทนายจำเลยฟัง ดังนี้ กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 828 ทนายจำเลยมีหน้าที่ต้องจัดการดำเนินคดีเพื่อปกปักษ์รักษาประโยชน์ของจำเลยตามความในบทกฎหมายดังกล่าว ฉะนั้น การที่ทนายจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วยื่นฎีกาภายในกำหนด 1 เดือนนับแต่วันฟังคำพิพากษา จึงชอบด้วยกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 31/2505)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 31/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตัวแทนบังคับคดีหลังตัวการเสียชีวิต: ทายาทยังไม่เป็นผู้จัดการมรดก
ตัวการได้มอบอำนาจให้ตัวแทนเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ของตัวการ ศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย คดีถึงที่สุด ในระหว่างดำเนินการขอบังคับคดี ตัวการถึงแก่กรรม ดังนี้ การที่ตัวแทนดำเนินการร้องขอบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาต่อไป จึงเป็นการกระทำเพื่อปกปักรักษาประโยชน์อันตัวการได้มอบหมายแก่ตัวแทนโดยสมควร ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 828 แล้ว
ทายาทของตัวการซึ่งได้ถึงแก่กรรมแล้ว กำลังพิพาทกับตัวแทนเกี่ยวด้วยแย่งกันเป็นผู้จัดการมรดกของตัวการอยู่ดังนี้ ยังถือว่าทายาทของตัวการยังมิได้เป็นผู้จัดการมรดก และยังหาอาจเข้ามาดำเนินการขอบังคับคดีซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในศาลก่อนตัวการถึงแก่กรรมอย่างใดไม่
ทายาทของตัวการซึ่งได้ถึงแก่กรรมแล้ว กำลังพิพาทกับตัวแทนเกี่ยวด้วยแย่งกันเป็นผู้จัดการมรดกของตัวการอยู่ดังนี้ ยังถือว่าทายาทของตัวการยังมิได้เป็นผู้จัดการมรดก และยังหาอาจเข้ามาดำเนินการขอบังคับคดีซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในศาลก่อนตัวการถึงแก่กรรมอย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตัวแทนขอบังคับคดีหลังตัวการเสียชีวิต: ทายาทยังมิได้เป็นผู้จัดการมรดก
ตัวการได้มอบอำนาจให้ตัวแทนเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ของตัวการ ศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย คดีถึงที่สุด ในระหว่างดำเนินการขอบังคับคดี ตัวการถึงแก่กรรม ดังนี้ การที่ตัวแทนดำเนินการร้องขอบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาต่อไป จึงเป็นการกระทำเพื่อปกปักรักษาประโยชน์อันตัวการได้มอบหมายแก่ตัวแทนโดยสมควร ตาม ป.พ.พ. มาตรา 828 แล้ว
ทายาทของตัวการซึ่งได้ถึงแก่กรรมแล้ว กำลังพิพาทกับตัวแทนเกี่ยวด้วยแย่งกันเป็นผู้จัดการมรดกของตัวการอยู่ ดังนี้ ยังถือว่าทายาทของตัวการยังมิได้เป็นผู้จัดการมรดก และยังหาอาจเข้ามาดำเนินการขอบังคับคดีซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในศาลก่อนตัวการถึงแก่กรรมอย่างใดไม่
ทายาทของตัวการซึ่งได้ถึงแก่กรรมแล้ว กำลังพิพาทกับตัวแทนเกี่ยวด้วยแย่งกันเป็นผู้จัดการมรดกของตัวการอยู่ ดังนี้ ยังถือว่าทายาทของตัวการยังมิได้เป็นผู้จัดการมรดก และยังหาอาจเข้ามาดำเนินการขอบังคับคดีซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในศาลก่อนตัวการถึงแก่กรรมอย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจยื่นคำขอรับชำระหนี้หลังเลิกบริษัท: การให้สัตยาบันโดยผู้ชำระบัญชีทำให้คำขอรับชำระหนี้ไม่เสียไป
บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงมีมติให้เลิกบริษัทและตั้งผู้ชำระบัญชีเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2495 ส่วนสาขาในประเทศไทยได้จดทะเบียนเลิกกิจการเมื่อ พ.ศ.2496 ในระหว่างระยะเวลาดังกล่าวต้องถือว่า สาขาในประเทศไทยยังคงดำเนินกิจการในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่ ถ้าเป็นเวลาก่อนที่สาขาในประเทศไทยได้ไปจดทะเบียนเลิกกิจการ นายจูกงซี ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากบริษัทที่ฮ่องกงให้เป็นผู้จัดการสาขาในประเทศไทยก่อนบริษัทเลิกและให้ชำระบัญชี ย่อมมีอำนาจโดยสมบูรณ์ที่จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ในฐานะยังเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่
แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ภายหลังที่สาขาในประเทศไทยได้เลิกกิจการไปแล้ว อันเป็นผลให้การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจเพราะเหตุที่บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงได้เลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นแล้วด้วยก็ดี แต่ผู้ชำระบัญชีก็ได้มีหนังสือแต่งตั้งให้นายจูกงซีมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซ้ำมาอีก เป็นการให้สัตยาบันแก่การที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลแพ่งจะได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ คำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีย่อมไม่เสียไป
แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ภายหลังที่สาขาในประเทศไทยได้เลิกกิจการไปแล้ว อันเป็นผลให้การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจเพราะเหตุที่บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงได้เลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นแล้วด้วยก็ดี แต่ผู้ชำระบัญชีก็ได้มีหนังสือแต่งตั้งให้นายจูกงซีมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซ้ำมาอีก เป็นการให้สัตยาบันแก่การที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลแพ่งจะได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ คำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีย่อมไม่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจยื่นคำขอรับชำระหนี้ของตัวแทนบริษัทที่เลิกกิจการและการให้สัตยาบันโดยผู้ชำระบัญชี
บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงมีมติให้เลิกบริษัทและตั้งผู้ชำระบัญชีเมื่อวันที่ 8 เม.ย.2495 ส่วนสาขาในประเทศไทยได้จดทะเบียนเลิกกิจการเมื่อ พ.ศ.2496 ในระหว่างระยะเวลาดังกล่าวต้องถือว่า สาขาในประเทศไทยยังคงดำเนินกิจการในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่ ถ้าเป็นเวลาก่อนที่สาขาในประเทศไทยได้ไปจดทะเบียนเลิกกิจการ นายจูกงซี ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากบริษัทที่ฮ่องกงให้เป็นผู้จัดการสาขาในประเทศไทย ก่อนบริษัทเลิกและให้ชำระบัญชี ย่อมมีอำนาจโดยสมบูรณ์ที่จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายในฐานะยังเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่
แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ภายหลังที่สาขาในประเทศไทยได้เลิกกิจการไปแล้ว อันเป็นผลให้การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจ เพราะเหตุที่บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงได้เลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นแล้วด้วยก็ดี แต่ผู้ชำระบัญชีก็ได้มีหนังสือแต่งตั้งให้นายจูกงซีมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซ้ำมาอีก เป็นการให้สัตยาบันแก่การที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลแพ่งจะได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ คำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีย่อมไม่เสียไป
แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ภายหลังที่สาขาในประเทศไทยได้เลิกกิจการไปแล้ว อันเป็นผลให้การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจ เพราะเหตุที่บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงได้เลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นแล้วด้วยก็ดี แต่ผู้ชำระบัญชีก็ได้มีหนังสือแต่งตั้งให้นายจูกงซีมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซ้ำมาอีก เป็นการให้สัตยาบันแก่การที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลแพ่งจะได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ คำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีย่อมไม่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนพ้นหน้าที่ต้องส่งคืนทรัพย์สิน การครอบครองโดยปรปักษ์ใช้ไม่ได้ ผู้รับโอนรู้เห็นสภาพการครอบครอง
ตัวแทนเมื่อพ้นหน้าที่เป็นตัวแทน จะต้องส่งมอบทรัพย์สินที่ตนปกครองดูแลคืนให้ตัวการโดยสิ้นเชิง ทรัพย์สิ่งใดที่ตัวแทนยังคงยึดถือครอบครองไว้ ไม่ส่งคืนให้ตัวการโดยตัวการไม่ทราบนั้น ตัวแทนจะอ้างว่าเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์เพื่อเอาเป็นของตนเสียมิได้ ต้องถือว่ายังคงยึดถือครอบครองไว้แทนตัวการและผู้อื่นที่เข้าครอบครองโดยตัวแทนแบ่งให้ เมื่อทราบว่าตัวแทนไม่มีอำนาจเอาทรัพย์นั้นมาแบ่งให้ตนแล้ว การที่ผู้อื่นเข้าครอบครอง จึงตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ครอบครองแทนตัวการเช่นเดียวกับตัวแทนนั้น ซึ่งจะอ้างการครอบครองมาใช้ยันตัวการไม่ได้ จนกว่าจะได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1381 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบทรัพย์สินหลังพ้นหน้าที่ตัวแทนและการครอบครองโดยไม่สุจริตของผู้รับโอน
ตัวแทนเมื่อพ้นหน้าที่เป็นตัวแทน จะต้องส่งมอบทรัพย์สินที่ตนปกครองดูแลคืนให้ตัวการโดยสิ้นเชิง, ทรัพย์สิ่งใดที่ตัวแทนยังคงยึดถือครอบครองไว้ ไม่ส่งคืนให้ตัวการ โดยตัวการไม่ทราบนั้น ตัวแทนจะอ้างว่าเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์เพื่อเอาเป็นของตนเสียมิได้ ต้องถือว่ายังคงยึดถือครอบครองไว้แทนตัวการและผู้อื่นที่เข้าครอบครองโดยตัวแทนแบ่งให้เมื่อทราบว่าตัวแทนไม่มีอำนาจเอาทรัพย์นั้นมาแบ่งให้ตนแล้ว การที่ผู้อื่นเข้าครอบครอง จึงตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ครอบครองแทนตัวการเช่นเดียวกับตัวแทนนั้นซึ่งจะอ้างมาใช้ยันตัวการไม่ได้ จนกว่าจะได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการครอบครองแห่งการครอบครองตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1381, 93 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของตัวแทนหลังตัวการเสียชีวิต และการขอเป็นโจทก์แทน
ตัวแทนฟ้องเรียกหนี้มรดก ต่อมาตัวการตาย ตัวแทนก็คงมีอำนาจดำเนินคดีต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 828 แม้ตัวแทนเป็นบุตรของตัวการก็ไม่ทำให้สิ้นอำนาจ เพราะตัวการอาจทำพินัยกรรมตั้งผู้อื่นจัดการมรดกหรือยกทรัพย์มรดกให้คนอื่นได้
คดีที่ตัวแทนดำเนินคดีแทนตัวการซึ่งตายไปแล้วนั้นผู้จัดการมรดกร้องขอเข้าเป็นโจทก์แทนได้
คดีที่ตัวแทนดำเนินคดีแทนตัวการซึ่งตายไปแล้วนั้นผู้จัดการมรดกร้องขอเข้าเป็นโจทก์แทนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องหนี้สินของตัวแทนหลังตัวการเสียชีวิต กรณีไม่มีทายาทหรือผู้แทน
ตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจัดการเกี่ยวกับหนี้สินและให้ฟ้องความได้นั้นถ้าตัวการตายแล้วไม่มีทายาทหรือผู้แทนเข้าปกปักษ์รักษาผลประโยชน์และหนี้สินนั้นจะขาดอายุความ ตัวแทนก็ย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกหนี้สินนั้นได้ตามอำนาจในมาตรา 828
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของตัวแทนเมื่อตัวการเสียชีวิตและไม่มีผู้สืบสิทธิ คดีหนี้สินขาดอายุความ
ตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจัดการเกี่ยวกับหนี้สินและให้ฟ้องความได้นั้น ถ้าตัวการตายแล้วไม่มีทายาทหรือผู้แทนเข้าปกปักรักษาผลประโยชน์และหนี้นั้นจะขาดอายุความ ตัวแทนก็ย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกหนี้สินนั้นได้ตามอำนาจในมาตรา 828