คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 60

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 436 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5339/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของกรรมการบริษัท: การตีความหนังสือมอบอำนาจ
แม้หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีจะมีข้อความในตอนต้นระบุไว้เพียงว่า " ช.ขอมอบอำนาจให้ส. เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของข้าพเจ้าโดยให้มีอำนาจฟ้องและดำเนินคดีกับกรมศุลกากรตามใบขนสินค้าขาเข้า..." โดยมิได้ระบุไว้ในตอนนี้ว่า ช. ได้มอบอำนาจในฐานะใดก็ตาม แต่เมื่อ ช. ซึ่งเป็นกรรมการแต่ผู้เดียวที่มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ได้โดยต้องประทับตราของบริษัทเป็นสำคัญด้วยได้ลงลายมือชื่อในช่องผู้มอบอำนาจนั้น และได้มีการประทับตราของโจทก์ไว้ในช่องที่ ช. ลงลายมือชื่อด้วย ซึ่งกิจการที่มอบให้กระทำตามใบมอบอำนาจนี้ก็เป็นกิจการของโจทก์ จึงไม่มีกรณีที่จะแปลใบมอบอำนาจนี้เป็นอย่างอื่นได้นอกเหนือจาก ช. ในฐานะผู้แทนของโจทก์มอบอำนาจให้ ส. กระทำการตามที่ปรากฏในใบมอบอำนาจแทนโจทก์ก็ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5339/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของกรรมการบริษัท: การมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนโจทก์โดยประทับตราบริษัท
ช.กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ซึ่งเป็นบริษัทได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ ส.ดำเนินคดีต่อจำเลยโดยระบุว่า"ช.ขอมอบอำนาจให้ ส.เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของข้าพเจ้าโดย ให้มีอำนาจฟ้องกรมศุลกากร..." มิได้ระบุว่า ช. ได้มอบอำนาจในฐานะใด แต่เมื่อช.ได้ลงลายมือชื่อและประทับตราของโจทก์ไว้ ในช่องลายมือชื่อผู้มอบอำนาจ และกิจการที่มอบให้ ส.ฟ้อง ก็เป็นกิจการของโจทก์ ดังนี้ ถือว่าโจทก์เป็นผู้มอบอำนาจให้ ส.ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3887/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อความเสียหายของสินค้า, การยกเว้นความรับผิด, และขอบเขตค่าเสียหายที่ต้องชดใช้
โจทก์บรรยายฟ้องถึงการที่จำเลยที่ 1 ยินยอมให้จำเลยที่ 2ที่ 3 เข้าร่วมและประกอบกิจการเป็นผู้ขนส่งในนามของจำเลยที่ 1เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน และบรรยายถึงวันเวลาที่จำเลยที่ 1 ที่ 2ที่ 3 ร่วมกันขนส่งกระจกของโจทก์ พฤติการณ์ของคนขับรถของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ขับรถจนทำให้กระจกของโจทก์ได้รับความเสียหายฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่แสดงโดยชัดแจ้งถึงการกระทำของจำเลยและการร่วมกิจการของจำเลยทั้งสามแล้ว จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เมื่อ ศ. กรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของโจทก์ มอบอำนาจให้ ส. ดำเนินคดีแทน โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง เมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้ขนส่งสืบไม่ได้ว่าสินค้าที่ขนส่งเสียหายเพราะเหตุสุดวิสัยหรือเพราะความผิดของโจทก์ผู้ส่ง จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ เอกสารที่จำเลยทำขึ้นเป็นเอกสารสั่งจ่ายรถยนต์ของจำเลยเองแม้จะมีข้อจำกัดความรับผิดของจำเลยไว้ แต่ก็หาใช่ใบรับ ใบตราส่งหรือเอกสารอื่นทำนองนั้น ซึ่งจำเลยออกให้โจทก์และโจทก์ได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดตามป.พ.พ. มาตรา 625 ไม่ กระจกของโจทก์ที่ให้จำเลยรับขนเป็นทรัพย์สินที่แตกหักได้ง่ายมิใช่ของมีค่าอย่างอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 620 ประกอบกับตัวแทนของโจทก์ได้แจ้งสภาพแห่งของให้เจ้าหน้าที่ของจำเลยทราบแล้วจำเลยจึงไม่อาจอ้างประกาศอัตราค่าขนส่งของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบก ที่จำกัดความรับผิดในค่าเสียหายของจำเลยมาใช้กับโจทก์ได้ การที่จำเลยรับขนกระจกของโจทก์แต่จำเลยทำกระจกของโจทก์แตกเสียหายจนโจทก์ต้องไปว่าจ้างบุคคลอื่นให้ติดตั้งกระจกชั่วคราวที่ศูนย์การค้าของโจทก์ เพื่อให้เสร็จก่อนกำหนดพิธีเปิด ค่าติดตั้งกระจกดังกล่าวมิใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ ซึ่งจำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายในการออกของและค่าภาษีอากรขาเข้านั้น เป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นและถือว่าเป็นค่าเสียหายโดยตรงอันจำเลยต้องรับผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3605/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดี: ศาลฎีกาให้รับฟังการมอบอำนาจตามเอกสารท้ายฟ้อง แม้ไม่มีอากรแสตมป์ และจำกัดขอบเขตการพิจารณาตามอุทธรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่าได้มอบอำนาจให้ น. เป็นผู้รับมอบอำนาจและแต่งทนายโจทก์จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้งว่าโจทก์มิได้มอบอำนาจดังกล่าวไว้ คดีจึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย เรื่องการมอบอำนาจ ไม่มีกรณีต้องใช้หนังสือมอบอำนาจเป็นพยานหลักฐานแม้หนังสือมอบอำนาจจะไม่มีการขีดฆ่าอากรแสตมป์ก็รับฟังได้ คดี จึงต้องฟังว่า น. เป็นผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาเพียงในข้อที่ขอให้ยกคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางเท่านั้น มิได้ยกข้อพิพาทในเนื้อหาของคดีขึ้นมาในอุทธรณ์ และมิได้ขอให้พิพากษาตามคำขอของโจทก์ดังที่ฟ้องมาศาลฎีกาจึงไม่อาจใช้ดุลพินิจพิจารณาข้อพิพาทในส่วนที่นอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องอุทธรณ์ได้ และกรณีไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3605/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจและการรับฟังพยานหลักฐาน แม้ไม่มีอากรแสตมป์ก็ใช้ได้ หากจำเลยไม่โต้แย้ง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าได้มอบอำนาจให้ น. เป็นผู้รับมอบอำนาจและแต่งทนายโจทก์จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้งว่าโจทก์มิได้มอบอำนาจดังกล่าวไว้ คดีจึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยเรื่องการมอบอำนาจ ไม่มีกรณีต้องใช้หนังสือมอบอำนาจเป็นพยานหลักฐาน แม้หนังสือมอบอำนาจจะไม่มีการขีดฆ่าอากรแสตมป์ก็รับฟังได้ คดีจึงต้องฟังว่า น.เป็นผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาเพียงในข้อที่ขอให้ยกคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางเท่านั้น มิได้ยกข้อพิพาทในเนื้อหาของคดีขึ้นมาในอุทธรณ์ และมิได้ขอให้พิพากษาตามคำขอของโจทก์ดังที่ฟ้องมา ศาลฎีกาจึงไม่อาจใช้ดุลพินิจพิจารณาข้อพิพาทในส่วนที่นอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องอุทธรณ์ได้ และกรณีไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2720/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทนายทราบวันนัดแล้ว แต่จำเลยไม่มาศาล ศาลไม่ถือเป็นการขาดนัด และไม่สามารถขอพิจารณาคดีใหม่ได้
ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์จนหมดพยานแล้วเลื่อนไปนัดสืบพยานจำเลย ทนายจำเลยทราบนัดแล้ว ถึงวันนัดฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดมาศาลศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานและหรือไม่มีพยานมาสืบ จึงพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี กรณีดังกล่าวถือว่าทนายจำเลยเป็นตัวแทนของจำเลย แม้จะฟังว่าทนายจำเลยมิได้แจ้งวันนัดให้จำเลยทราบก็ตามแต่เมื่อทนายจำเลยทราบวันนัดตามกฎหมาย ก็ต้องถือว่าจำเลยทราบวันนัดด้วยแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งว่าคดีเสร็จสำนวนโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ มิใช่กรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาแล้วได้พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีนั้นไปฝ่ายเดียว จำเลยจึงไม่อาจนำบทบัญญัติเรื่องขาดนัดพิจารณามาใช้เพื่อขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีใหม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5919/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายหลังคู่ความถึงแก่กรรม: การระงับสัญญาตัวแทนและระยะเวลาปกปักรักษาประโยชน์
การแต่งตั้งทนายความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 60 เป็นการตั้งตัวแทนตาม ป.พ.พ. ลักษณะ 15 ว่าด้วยตัวแทน เมื่อโจทก์ผู้แต่งตั้งถึงแก่กรรม กรณีจึงต้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 828 คือแม้สัญญาตัวแทนจะระงับไป แต่ทนายโจทก์ยังมีอำนาจและหน้าที่จัดการดำเนินคดีเพื่อปกปักรักษาประโยชน์ของโจทก์ต่อไป จนกว่าทายาทหรือผู้แทนของโจทก์จะเข้าปกปักรักษาประโยชน์นั้น ๆ โดยการเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะตาม ป.วิ.พ. มาตรา 42 เมื่อปรากฏว่าโจทก์ถึงแก่กรรมในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แต่ก็ไม่มีทายาทหรือผู้แทนของโจทก์ขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ทำคำพิพากษาและศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้ทนายโจทก์ฟังเมื่อโจทก์ถึงแก่กรรมเกิน 1 ปีแล้ว จึงถือได้ว่าเป็นการล่วงพ้นระยะเวลาที่ตัวแทน หรือทนายโจทก์จะจัดการดำเนินคดีเพื่อปกปักรักษาประโยชน์ของโจทก์แล้ว ทนายโจทก์จึงไม่มีอำนาจดำเนินคดีแทนโจทก์ต่อไป เมื่อทนายโจทก์ยื่นฎีกาคดีนี้ในขณะที่หมดอำนาจแล้ว ฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5919/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายหลังคู่ความถึงแก่กรรม: ระยะเวลาและขอบเขตการดำเนินคดีแทน
การที่คู่ความแต่งตั้งทนายความให้ว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน เป็นการแต่งตั้งตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 15 ว่าด้วยตัวแทนแม้สัญญาตัวแทนจะระงับไปเมื่อโจทก์ถึงแก่กรรม ทนายโจทก์ก็ยังมีอำนาจหน้าที่จัดการดำเนินคดีเพื่อปกปักกรักษาผลประโยชน์ของโจทก์ต่อไป จนกว่าทายาทหรือผู้แทนของโจทก์จะเข้ามาปกปักรักษาผลประโยชน์ของโจทก์โดยการเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ
โจทก์ถึงแก่กรรมขณะที่คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์แต่ไม่มีการร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะภายใน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ถึงแก่กรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 42 จนกระทั่งได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ทนายโจทก์ฟัง ถือได้ว่าเป็นการล่วงพ้นสระยะเวลาที่ตัวแทนหรือทนายโจทก์จะจัดการดำเนินคดีเพื่อปกปักรักษาประโยชน์ของโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 824 แล้ว และไม่มีอำนาจดำเนินคดีแทนโจทก์ต่อไป ทนายโจทก์ยื่นฎีกาหลังจากที่ทนายโจทก์หมดอำนาจแล้ว ฏีกาโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5513/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจ & เช็ค: การมอบอำนาจฟ้องคดีและผลผูกพันของผู้สลักหลังเช็ค
แม้หนังสือมอบอำนาจจะมิได้ระบุโดยตรงว่าห้างโจทก์เป็นผู้มอบอำนาจให้ ม. ฟ้องคดีแทน แต่ในตอนต้นของหนังสือมอบอำนาจระบุว่า ข้าพเจ้านาย ป. และมีข้อความต่อมาว่า ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามผูกพันห้างโจทก์-------------------------------------และในช่องผู้มอบอำนาจ นอกจากนาย ป. หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างโจทก์จะได้ลงลายมือชื่อแล้วยังได้ประทับตราของห้างโจทก์อีกด้วย ดังนี้ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้มอบอำนาจให้ ม. ฟ้องคดีแทนโจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาท เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงจำเลยที่ 1 จะอ้างว่าจำเลยที่ 1 ไม่เคยเป็นหนี้โจทก์จึงไม่มีมูลหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์หาได้ไม่ เพราะการที่จำเลยที่ 1เข้าสลักหลังเช็คพิพาทย่อมก่อให้เกิดมูลหนี้ในเช็คอยู่ในตัว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5341/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีสิทธิบัตร: หนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องและสิทธิในแบบผลิตภัณฑ์เป็นสำคัญ
หนังสือมอบอำนาจประกอบกับหนังสือรับรองหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวซึ่งได้ทำขึ้นก่อนวันที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ ได้ระบุให้อำนาจด. ผู้รับมอบอำนาจมีสิทธิยื่นคำขอรับสิทธิบัตรในประเทศไทยซึ่งสิทธิบัตร/แผนแบบ เหยือก หรือสิ่งที่คล้ายคลึงกัน รวมทั้งทำการยื่นฟ้องต่อศาลในประเทศไทยเกี่ยวกับคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์เหยือก หรือสิ่งที่คล้ายคลึงกันของโจทก์ผู้มอบอำนาจได้และในวันยื่นคำขอรับสิทธิบัตร โจทก์มีสิทธิในแบบผลิตภัณฑ์ของโจทก์แล้ว ดังนั้น ด. ผู้รับมอบอำนาจของโจทก์จึงมีอำนาจยื่นคำขอรับสิทธิบัตรและฟ้องคดีนี้แทนโจทก์
หนังสือของผู้ช่วยเลขานุการบริษัทโจทก์ เป็นเพียงหลักฐานเป็นหนังสือที่แสดงว่าได้มีการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้เท่านั้นมิใช่ใบมอบอำนาจ ไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้.
of 44