คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 60

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 436 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3533/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างประเทศ, ใบมอบอำนาจ, การลงนามสัญญาที่ไม่ถูกต้อง, อายุความหนี้, การยอมรับผลงาน
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแม้จะมิได้ระบุว่าให้ฟ้องคดีในศาลประเทศไทยผู้รับมอบอำนาจก็มีอำนาจฟ้องคดีได้
สาระสำคัญของสัญญามีความว่า โจทก์ตกลงจะให้คำแนะนำช่วยเหลือจำเลยในการก่อตั้งโรงงานทอกระสอบและช่วยฝึกฝนพนักงานของจำเลยในด้านเทคนิคและบริหารโรงงานทอกระสอบของจำเลย โดยจำเลยตกลงให้ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายที่โจทก์เสียไปแก่โจทก์ เป็นงานที่โจทก์ตกลงจะทำให้จำเลยหลายสิ่งหลายอย่างทั่ว ๆ ไปและไม่กำหนดให้งานนั้นสำเร็จอย่างไรเมื่อใด จึงไม่มีลักษณะเป็นการจ้างทำของอันจะต้องเสียอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร
กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยลงนามในสัญญาพิพาทเพียงคนเดียวและไม่ประทับตามของบริษัท ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัท แต่หลังจากทำสัญญาแล้วโจทก์ได้ส่งพนักงานของโจทก์มาช่วยเหลือแนะนำจำเลยตามสัญญา จนการก่อตั้งโรงงานทอกระสอบของจำเลยสำเร็จเรียบร้อยเปิดดำเนินการได้ และจำเลยได้ยอมรับเอาผลงานของโจทก์ไว้เป็นประโยชน์แล้วตลอดมา จำเลยจึงต้องผูกพันรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาพิพาทนั้น
กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลย เป็นผู้ติดต่อกับโจทก์ตลอดมาเกี่ยวกับการดำเนินงานตามสัญญา ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลย และจำเลยก็ยอมรับเอาผลงานของโจทก์แล้ว เมื่อผู้แทนโจทก์มาเจรจาเรื่องหนี้ตามสัญญาพิพาท กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยก็เป็นผู้เจรจากับผู้แทนโจทก์ตามพฤติการณ์ดังกล่าวจึงถือได้ว่าบริษัทจำเลยเชิดกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลย
การที่กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยมีหนังสือลงวันที่ 24 เมษายน 2514 ในนามบริษัทจำเลยถึงโจทก์รับรองจะชำระเงินค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายให้แก่โจทก์ตามสัญญาพิพาทนั้น เป็นการยอมรับสภาพหนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่า กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยพ้นจากตำแหน่งหรือไม่มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทจำเลยแล้วแต่อย่างใด จำเลยจึงต้องผูกพันรับผิดต่อโจทก์ตามหนังสือรับสภาพหนี้นับแต่วันที่ 24 เมษายน 2514ซึ่งเป็นวันรับสภาพหนี้ถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปี คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องรวมในหนังสือมอบอำนาจ: ไม่จำกัดเฉพาะคู่ความที่ระบุ
ช.ผู้รับมอบอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ย่อมมีความหมายรวมอยู่ในอำนาจที่โจทก์มอบให้ ช.ดำเนินคดีแพ่งทั้งปวงเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินตามฟ้อง ดังที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจ ไม่จำเป็นต้องระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องใครโดยชัดแจ้งทุกรายไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3243/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจครอบคลุมการแก้ฟ้องแย้ง สิทธิเช่าที่ดินเป็นไปตามการจดทะเบียน
หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ระบุให้ ส.ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจตั้งทนายความเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆในศาล ย่อมมีความหมายรวมถึงให้ตั้งทนายความแก้ต่าง และให้การแก้ฟ้องแย้งด้วย โจทก์มีอำนาจฟ้องและให้การแก้ฟ้องแย้ง
โจทก์จดทะเบียนเลิกการเช่าที่ดินกับ ช. และวันเดียวกันโจทก์ได้จดทะเบียนการเช่าให้ ป. แม้ต่อมาภายหลังจำเลยจะซื้อบ้านจาก ช. และโจทก์ทำหนังสือยินยอมให้จำเลยมีสิทธิการเช่าที่ดินสืบต่อจาก ช. ดังนี้ สิทธิการเช่าของจำเลยเป็นเพียงหลักฐานการเช่าแต่ไม่ได้จดทะเบียน ป.มีสิทธิยิ่งกว่าจำเลยในการเช่าที่ดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 543 จำเลยไม่มีสิทธิบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนการเช่าอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2791-2792/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของตัวแทน, หนังสือมอบอำนาจ, สัญญาซื้อขาย, การบอกเลิกสัญญา, ค่าบำเหน็จนายหน้า
นิติบุคคลที่จะเป็นตัวแทนฟ้องความแทนผู้อื่นตามที่ได้รับมอบอำนาจไม่จำต้องมีวัตถุประสงค์เป็นตัวแทนฟ้องความอีกต่างหากถ้าเรื่องที่เป็นความอยู่ในขอบเขตวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลนั้น(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 263/2503)
หนังสือมอบอำนาจทำขึ้นในต่างประเทศ มีการรับรองโดยเจ้าหน้าที่ศาลแห่งเมืองนั้นโดยมีสถานกงสุลไทยรับรองมาอีกชั้นหนึ่งว่าตราที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจเป็นตราที่ถูกต้องของศาลชั้นสูงใบมอบอำนาจนี้ถือว่าถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้น จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร
โจทก์และจำเลยมีเจตนาจะให้วัตถุประสงค์แห่งสัญญาซื้อขายเป็นผลสำเร็จได้ก็แต่ด้วยการชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 388 เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยก็ชอบที่จะบอกเลิกสัญญาเสียได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อนตามมาตรา 387 แต่เมื่อจำเลยมิได้บอกเลิกสัญญากลับขอให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปโดยไม่ถือว่าโจทก์ผิดสัญญา ถือว่าจำเลยและโจทก์มิได้ถือเอากำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญต่อไป ต่อมาจำเลยจะบอกเลิกสัญญากับโจทก์ทันทีไม่ได้ต้องกำหนดระยะเวลาพอสมควรบอกกล่าวให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาก่อน เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาได้
เมื่อโจทก์ที่ 2 ได้ชี้ช่องให้โจทก์ที่ 1 และจำเลยได้ทำสัญญากันเสร็จจำเลยก็ต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จให้แก่โจทก์ที่ 2 ตามที่จำเลยกับโจทก์ที่ 2 ได้ตกลงกันไว้โดยไม่ต้องคำนึงว่าคู่สัญญาจะได้ปฏิบัติตามสัญญานั้นในเวลาต่อไปหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2791-2792/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของตัวแทน, หนังสือมอบอำนาจ, สัญญาซื้อขาย, การบอกเลิกสัญญา, ค่าบำเหน็จนายหน้า
นิติบุคคลที่จะเป็นตัวแทนฟ้องความแทนผู้อื่นตามที่ได้รับมอบอำนาจไม่จำต้องมีวัตถุประสงค์เป็นตัวแทนฟ้องความอีกต่างหากถ้าเรื่องที่เป็นความอยู่ในขอบเขตวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลนั้น (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 263/2503)
หนังสือมอบอำนาจทำขึ้นในต่างประเทศ มีการรับรองโดยเจ้าหน้าที่ศาลแห่งเมืองนั้นโดยมีสถานกงสุลไทยรับรองมาอีกชั้นหนึ่งว่าตราที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจเป็นตราที่ถูกต้องของศาลชั้นสูงใบมอบอำนาจนี้ถือว่าถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้น จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร
โจทก์และจำเลยมีเจตนาจะให้วัตถุประสงค์แห่งสัญญาซื้อขายเป็นผลสำเร็จได้ก็แต่ด้วยการชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 388 เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยก็ชอบที่จะบอกเลิกสัญญาเสียได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อนตามมาตรา 387 แต่เมื่อจำเลยมิได้บอกเลิกสัญญากลับขอให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปโดยไม่ถือว่าโจทก์ผิดสัญญาถือว่าจำเลยและโจทก์มิได้ถือเอากำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญต่อไปต่อมาจำเลยจะบอกเลิกสัญญากับโจทก์ทันทีไม่ได้ต้องกำหนดระยะเวลาพอสมควรบอกกล่าวให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาก่อนเมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาได้
เมื่อโจทก์ที่ 2 ได้ชี้ช่องให้โจทก์ที่ 1 และจำเลยได้ทำสัญญากันเสร็จจำเลยก็ต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จให้แก่โจทก์ที่ 2 ตามที่จำเลยกับโจทก์ที่ 2 ได้ตกลงกันไว้โดยไม่ต้องคำนึงว่าคู่สัญญาจะได้ปฏิบัติตามสัญญานั้นในเวลาต่อไปหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องจำกัดตามหนังสือมอบอำนาจ: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ไม่ได้รับการมอบหมาย
กรมประชาสัมพันธ์โจทก์มอบอำนาจให้ ส. เป็นตัวแทนฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนกรณีรถยนต์โจทก์ถูกชนได้รับความเสียหายจาก อ. ซึ่งเป็นเจ้าของรถและเป็นนายจ้างผู้ขับรถ มิได้มอบอำนาจให้เป็นตัวแทนฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. โดย ส. หุ้นส่วนผู้จัดการ และ ส. ในฐานะส่วนตัว แม้จะปรากฏว่า อ. เป็นหุ้นส่วนจำกัด ความรับผิดของ บ. โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจดำเนินคดีและการแก้ไขกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ศาลต้องแจ้งคำสั่งให้ชัดเจนและให้โอกาสแก้ไข
โจทก์มอบอำนาจให้บุคคลซึ่งเป็นทนายความดำเนินคดีกับจำเลยได้ทุกอย่าง ผู้รับมอบอำนาจเป็นแต่ตัวแทนเฉพาะการและตั้งทนายความได้ไม่ใช่ตั้งตัวแทนช่วง แต่จะว่าความซักพยานเองอย่างทนายความไม่ได้แม้จำเลยยกขึ้นคัดค้านเมื่อพ้น 8 วันตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 27 วรรคสอง ศาลเห็นสมควรก็สั่งแก้ไข โดยให้ผู้รับมอบอำนาจทำใบแต่งตั้งตัวเองเป็นทนายความก่อนพิพากษา ศาลชั้นต้นแจ้งให้โจทก์ทราบเพียงว่าให้นัดฟังผลปฏิบัติและฟังคำพิพากษา ไม่ชัดพอที่จะให้เข้าใจว่าให้โจทก์แก้ไขข้อที่ผิดระเบียบภายในกำหนดเวลาโจทก์ไม่ไปศาลตามนัด จึงถือว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ได้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไม่ชอบ ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลล่างให้พิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีโดยตัวแทน: การมอบอำนาจให้บุคคลทั่วไปฟ้องคดีแทนโจทก์ไม่ขัดต่อกฎหมายทนายความ
โจทก์มอบอำนาจให้ ส. ฟ้องจำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาอื่น ๆ เป็นการมอบให้ ส. เป็นตัวแทนของโจทก์ มีฐานะเป็นคู่ความในนาม ของโจทก์ ส. มีอำนาจเรียงคำฟ้องแทนโจทก์ได้ ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2508 มาตรา 16

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจฉบับต่างประเทศที่มีคำแปลไทย และการปิดอากรแสตมป์ที่ถูกต้อง
ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีที่ทำขึ้นเป็นภาษาต่างประเทศและมีคำแปลเป็นภาษาไทยนั้น เป็นเอกสารที่ทำขึ้นและส่งต่อศาลชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 46 แล้ว ถึงแม้จะปิดอากรแสตมป์ที่ต้นฉบับภาษาต่างประเทศเท่านั้นก็เป็นการปิดอากรแสตมป์ที่ต้นฉบับตราสารชอบด้วยมาตรา 118 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว จึงรับฟังเป็นพยานเอกสารได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฎีกาแทนจำเลย: ทนายความต้องเป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยโดยตรง
ฎีกาของจำเลยมี พ.ลงชื่อเป็นผู้ฎีกา.แต่พ.เป็นทนายความของนายไสวไพรวงษ์ มิใช่ทนายความของจำเลยและนายไสวไพรวงษ์ก็โต้เถียงตลอดมาว่าตนมิใช่จำเลยพ.จึงไม่มีอำนาจฎีกาแทนจำเลย
of 44