คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 60

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 436 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีขับไล่: หนังสือมอบอำนาจยังไม่สิ้นสุด แม้มีการถอนฟ้องคดีก่อนหน้า
โจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจให้ อ.ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ในคดีหนึ่งไปครั้งหนึ่งแล้ว จำเลยให้การว่าจำเลยมีสิทธิ อยู่ต่อไปชั่วเวลามีกำหนด โจทก์จึงถอนฟ้องอ้างว่ายังไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับจำเลย ต่อมา อ.ใช้หนังสือมอบอำนาจนั้นฟ้องจำเลยคดีนี้ เช่นนี้กิจการที่โจทก์มอบอำนาจให้ อ.ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทยังไม่เสร็จสิ้นและโจทก์ยังมิได้ถอนหรือบอกเลิกการมอบอำนาจ อ.มีหน้าที่ฟ้องขับไล่จำเลยตามที่ได้รับมอบอำนาจ จึงใช้หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวฟ้องขับไล่จำเลยในคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจแต่งทนายจากหนังสือมอบอำนาจ และการใช้ถ้อยคำผิดพลาดในคำฟ้อง
หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทน ผู้รับมอบอำนาจแต่งทนายความลงชื่อในฟ้องได้โดยไม่ต้องมีใบมอบอำนาจให้แต่งทนายอีก
ฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเช่าซื้อตั้งแต่วันฟ้องต่อไปจนกว่าจะออกจากที่ดินที่เช่าซื้อ หมายความถึงค่าเสียหาย ไม่ใช่ค่าเช่าซื้อ โจทก์ใช้ถ้อยคำผิดพลาด ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจไม่ติดอากรแสตมป์เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
หนังสือมอบอำนาจที่โจทก์มอบอำนาจให้บุคคลอื่นฟ้องคดีแทนโจทก์ เมื่อไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ตามนัยประมวลรัษฎากร มาตรา 104 ที่บัญญัติให้ปิดอากรแสตมป์ในตราสารตามบัญชีอากรแสตมป์ ข้อ 7 (ก) ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 หนังสือมอบอำนาจเป็นตราสารอย่างหนึ่ง เมื่อจำเลยต่อสู้เรื่องการมอบอำนาจ มาตรา 118 หนังสือมอบอำนาจเป็นตราสารอย่างหนึ่ง เมื่อจำเลยต่อสู้เรื่องการมอบอำนาจและเมื่อรับฟังเอกสารนั้นเป็นพยานหลักฐานมิได้แล้ว ก็ต้องถือว่าบุคคลนั้นไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจไม่ติดอากรแสตมป์ ถือเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ทำให้ขาดอำนาจฟ้อง
หนังสือมอบอำนาจที่โจทก์มอบอำนาจให้บุคคลอื่นฟ้องคดีแทนโจทก์ เมื่อไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ตามนัยประมวลรัษฎากร มาตรา 104 ที่บัญญัติให้ปิดอากรแสตมป์ในตราสารตามบัญชีอากรแสตมป์ ข้อ 7(ก) ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 หนังสือมอบอำนาจเป็นตราสารอย่างหนึ่งเมื่อจำเลยต่อสู้เรื่องการมอบอำนาจและเมื่อรับฟังเอกสารนั้นเป็นพยานหลักฐานมิได้แล้ว ก็ต้องถือว่าบุคคลนั้นไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2197/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจตามใบมอบอำนาจ: การเรียกเงินคืนนอกเหนือจากอำนาจที่ได้รับมอบหมาย
ใบมอบอำนาจให้จัดการในโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งฟ้องคดี ผู้มอบอำนาจจำนองที่ดินนำเงินไปฝากธนาคารไว้แล้ว จำเลยถอนเงินนั้นไป ผู้รับมอบอำนาจฟ้องเรียกเงินคืน กรณีเกี่ยวกับเงินที่เรียกคืน ไม่เกี่ยวกับที่ดิน ไม่อยู่ในหนังสือมอบอำนาจ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1635/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความหลังจำเลยถึงแก่กรรม: ทนายความมีอำนาจยื่นฎีกาแทนจำเลยได้เพื่อรักษาประโยชน์ทางกฎหมาย
การที่ตัวความถึงแก่กรรมก่อนมีการยื่นฎีกา ทนายความมีอำนาจลงนามเป็นผู้ยื่นฎีกาแทนจำเลยผู้มรณะได้ ทั้งนี้เพื่อรักษาประโยชน์ของตัวความไว้ระหว่างฎีกา
ในวันยื่นฎีกา บุตรของจำเลยได้แต่งทนายความคนเดิมยื่นคำร้องขอเข้ารับมรดกความแทนที่จำเลยผู้มรณะ และศาลอนุญาตแล้ว ดังนี้ทนายความย่อมดำเนินคดีต่อไปได้ อำนาจทนายความหาได้หมดสิ้นไปทันทีเมื่อจำเลยถึงแก่กรรมไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจฟ้องคดี สมบูรณ์เมื่อผู้มอบอำนาจลงลายมือชื่อ แม้ผู้รับมอบอำนาจไม่ลงชื่อ
การมอบอำนาจให้ฟ้องคดี เมื่อโจทก์ได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อโจทก์ผู้มอบอำนาจแล้ว ย่อมสมบูรณ์ หาจำต้องลงชื่อผู้รับมอบอำนาจอีกชั้นหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดี: หนังสือมอบอำนาจที่ผู้มอบอำนาจลงนามเพียงฝ่ายเดียวสมบูรณ์ และข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีฟ้องขับไล่
การมอบอำนาจให้ฟ้องคดี เมื่อโจทก์ได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อโจทก์ผู้มอบอำนาจแล้ว ย่อมสมบูรณ์ หาจำต้องลงชื่อผู้รับมอบอำนาจอีกชั้นหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยปราศจากอำนาจของตัวแทน และผลผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ตั้งทนายดำเนินคดีขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นโจทก์ จำเลยที่ 1 กลับไปกรอกข้อความเป็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ฟ้อง และทำสัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 แล้วร่วมกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันด้วยเจตนาฉ้อโกงโจทก์โดยทุจริต เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ ขอให้พิพากษาเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าว ดังนี้กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนกระทำการโดยปราศจากอำนาจหรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ ทำให้โจทก์เสียหายและจำเลยทั้งสี่กระทำการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยตามกฎหมายดังกล่าว จะมาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมซึ่งถึงที่สุดแล้วหาได้ไม่ เพราะโจทก์เป็นคู่ความในคดีเดิมนั้น จึงต้องถูกผูกพันตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องคดีใหม่นี้ได้เลย โดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยปราศจากอำนาจของตัวแทนและการผูกพันตามคำพิพากษาเดิม
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ตั้งทนายดำเนินคดีขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของโจทก์ จำเลยที่ 1 กลับไปกรอกข้อความเป็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ฟ้องและทำสัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 แล้วร่วมกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันด้วยเจตนาฉ้อโกงโจทก์โดยทุจริต เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ขอให้พิพากษาเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าว ดังนี้ กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนกระทำการโดยปราศจากอำนาจหรือทำนอกเหนือขอบอำนาจทำให้โจทก์เสียหายและจำเลยทั้งสี่กระทำการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยตามกฎหมายดังกล่าว จะมาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมซึ่งถึงที่สุดแล้วหาได้ไม่เพราะโจทก์เป็นคู่ความในคดีเดิมนั้นจึงต้องถูกผูกพันตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องคดีใหม่นี้ได้เลยโดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่
of 44