พบผลลัพธ์ทั้งหมด 436 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ และการสิ้นสุดนิติสัมพันธ์สัญญาเช่า
ฟ้องขับไล่เกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนพระองค์โดยบรรยายฟ้องว่าหม่อมเจ้าหญิงอัจฉราฉวีเทวกุล ผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ฯ
โจทก์ เช่นนี้ ถือว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องได้ตามกฎหมายในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์แล้ว
โจทก์ เช่นนี้ ถือว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องได้ตามกฎหมายในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งทนายโดยไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ศาลอนุญาตให้แก้ไขได้หากไม่มีเจตนาประวิงคดี
ทนายดำเนินกระบวนพิจารณาแทนโจทก์มาตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนเสร็จสำนวนแล้วลงชื่อยื่นฟ้องอุทธรณ์แทนโจทก์อีก แต่มิได้มีการแต่งทนายไว้ เพราะความพลั้งเผลอทั้งมิได้ประวิงคดีหรือเอาเปรียบในเชิงคดีและศาลชั้นต้นก็ได้สั่งรับอุทธรณ์เมื่อคดีมาถึงชั้นศาลฎีกาตัวโจทก์ก็ได้แต่งทนายผู้นี้ไว้แล้วในวันยื่นฎีกา ดังนี้แม้จะเป็นการปฏิบัติผิด ป.วิ.แพ่ง ก็สมควรที่ศาลจะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม มาตรา 27 และพอถือได้ว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้ว
(เทียบฎีกาที่ 1894/2499)
(เทียบฎีกาที่ 1894/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตให้ทนายดำเนินการโดยมิได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ หากไม่มีผลเสียต่อคู่ความ
ทนายดำเนินกระบวนพิจารณาแทนโจทก์มาตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนเสร็จสำนวนแล้วลงชื่อยื่นฟ้องอุทธรณ์แทนโจทก์อีก แต่มิได้มีการแต่งทนายไว้เพราะความพลั้งเผลอทั้งมิได้ประวิงคดีหรือเอาเปรียบในเชิงคดี และศาลชั้นต้นก็ได้สั่งรับอุทธรณ์ เมื่อคดีมาถึงชั้นศาลฎีกาตัวโจทก์ก็ได้แต่งทนายผู้นี้ไว้แล้วในวันยื่นฎีกา ดังนี้ แม้จะเป็นการปฏิบัติผิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็สมควรที่ศาลจะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม มาตรา 27 และ พอถือได้ว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้ว (เทียบฎีกาที่ 1894/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความลงชื่อในคำฟ้องแทนคู่ความ
ทนายความซึ่งคู่ความตั้งแต่งมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนคู่ความได้ฉะนั้นทนายโจทก์จึงมีอำนาจลงชื่อในคำฟ้องแทนตัวโจทก์ได้ เพราะตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 1(7)'กระบวนพิจารณา'หมายความถึงการฟ้องต่อศาลด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความลงชื่อในคำฟ้องแทนคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ทนายความซึ่งคู่ความตั้งแต่งมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความได้ ฉะนั้นทนายโจทก์จึงมีอำนาจลงชื่อในคำฟ้องแทนตัวโจทก์ได้ เพราะตาม ป.วิ.แพ่ง มาตร 1(7) "กระบวนพิจารณา" หมายความถึงการฟ้องต่อศาลด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ & ข้อห้ามสืบพยานเพิ่มเติมเอกสาร
ผู้มอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือมอบอำนาจ และมีบุคคล 2 คนลงลายมือชื่อเป็นพยานในหนังสือมอบอำนาจนั้น แม้มิได้มีข้อความไว้ด้วยว่ารับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มอบอำนาจ ก็นับว่าเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นด้วย
(อ้างฏีกาที่ 521/2496) ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่า ได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่ โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94
(อ้างฏีกาที่ 521/2496) ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่า ได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่ โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ & ข้อตกลงนอกสัญญาเช่า: ข้อห้ามการสืบพยานเพิ่มเติมเอกสาร
ผู้มอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือมอบอำนาจและมีบุคคล 2 คนลงลายมือชื่อเป็นพยานในหนังสือมอบอำนาจนั้นแม้มิได้มีข้อความไว้ด้วยว่ารับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มอบอำนาจก็นับว่าเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นด้วย (อ้างฎีกาที่ 521/2496)
ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่าได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่าได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าอาวาสฟ้องคดี, การกำหนดค่าเสียหายจากการละเมิด, และการแก้ไขคำพิพากษา
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและให้รื้อถอนบ้านเรือนออกไปจากที่พิพาทและไม่บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามที่โจทก์ขอ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 100 บาทและเดือนต่อ ๆ ไปอีกเดือนละ 2 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนเรือนออกไปจากที่พิพาท ดังนี้เป็นแก้น้อยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ตาม พ.ร.บ. ปกครองคณะสงฆ์ ม. 43 เจ้าอาวาสมีหน้าที่บำรุงรักษาจัดการวัดและสมบัติของวัด จึงมีอำนาจฟ้องคดีได้เอง หรือจะมอบอำนาจให้ผู้ใดฟ้องความแทนก็ได้
ใบมอบอำนาจท้ายฟ้องถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง การวินิจฉัยเกี่ยวกับใบมอบอำนาจจึงไม่เป็นการวินิจฉัยคลาดเคลื่อนไปจากฟ้อง (นอกฟ้อง)
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิด แม้โจทก์จะนำสืบความเสียหายไม่ได้ว่ามีจำนวนแค่ใดแน่นอน ศาลก็มีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ได้ตามที่เห็นสมควรตาม ป.พ.พ. ม. 438.
(ฎีกาที่ 1499/2498 และ 1494/2498)
ตาม พ.ร.บ. ปกครองคณะสงฆ์ ม. 43 เจ้าอาวาสมีหน้าที่บำรุงรักษาจัดการวัดและสมบัติของวัด จึงมีอำนาจฟ้องคดีได้เอง หรือจะมอบอำนาจให้ผู้ใดฟ้องความแทนก็ได้
ใบมอบอำนาจท้ายฟ้องถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง การวินิจฉัยเกี่ยวกับใบมอบอำนาจจึงไม่เป็นการวินิจฉัยคลาดเคลื่อนไปจากฟ้อง (นอกฟ้อง)
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิด แม้โจทก์จะนำสืบความเสียหายไม่ได้ว่ามีจำนวนแค่ใดแน่นอน ศาลก็มีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ได้ตามที่เห็นสมควรตาม ป.พ.พ. ม. 438.
(ฎีกาที่ 1499/2498 และ 1494/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากการบุกรุกศาสนสมบัติ ศาลมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายแม้โจทก์มิได้นำสืบ
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและให้รื้อถอนบ้านเรือนออกไปจากที่พิพาทและไม่บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามที่โจทก์ขอ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 100 บาทและเดือนต่อๆไปอีกเดือนละ 2 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนเรือนออกไปจากที่พิพาท ดังนี้เป็นแก้น้อยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ตาม พระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ มาตรา 43 เจ้าอาวาสมีหน้าที่บำรุงรักษาจัดการวัดและสมบัติของวัด จึงมีอำนาจฟ้องคดีได้เอง หรือจะมอบอำนาจให้ผู้ใดฟ้องความแทนก็ได้
ใบมอบอำนาจท้ายฟ้องถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง การวินิจฉัยเกี่ยวกับใบมอบอำนาจจึงไม่เป็นการวินิจฉัยคลาดเคลื่อนไปจากฟ้อง (นอกฟ้อง)
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดแม้โจทก์จะนำสืบความเสียหายไม่ได้ว่ามีจำนวนแค่ใดแน่นอน ศาลก็มีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ได้ตามที่เห็นสมควร ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 (ฎีกาที่ 1499/2498 และ1494/2498)
ตาม พระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ มาตรา 43 เจ้าอาวาสมีหน้าที่บำรุงรักษาจัดการวัดและสมบัติของวัด จึงมีอำนาจฟ้องคดีได้เอง หรือจะมอบอำนาจให้ผู้ใดฟ้องความแทนก็ได้
ใบมอบอำนาจท้ายฟ้องถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง การวินิจฉัยเกี่ยวกับใบมอบอำนาจจึงไม่เป็นการวินิจฉัยคลาดเคลื่อนไปจากฟ้อง (นอกฟ้อง)
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดแม้โจทก์จะนำสืบความเสียหายไม่ได้ว่ามีจำนวนแค่ใดแน่นอน ศาลก็มีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ได้ตามที่เห็นสมควร ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 (ฎีกาที่ 1499/2498 และ1494/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1387/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของวัดในการฟ้องร้องเรียกทรัพย์คืน และความถูกต้องของพินัยกรรมที่ไม่ต้องทำพร้อมกัน
วัดเป็นนิติบุคคลตามกฏหมายเจ้าอาวาสมีสิทธิฟ้องคดีในนามของวัดได้ และมีอำนาจมอบให้ผู้อื่นเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งแทนตนได้
พยานลงชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรม ต่อมาอีก 3 วันผู้ทำพินัยกรรมจึงได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือของตนต่อหน้าพยานชุดเดิม พินัยกรรมนั้นถูกต้องตาม ม. 1656
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของวัดซึ่งแต่แรกตกอยู่ที่เจ้าอาวาสองค์เก่าซึ่งมรณภาพไปแล้ว และอ้างว่าบัดนี้จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีอำนาจ คดีย่อมไม่มีปัญหาเรื่องอายุความมรดก.
พยานลงชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรม ต่อมาอีก 3 วันผู้ทำพินัยกรรมจึงได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือของตนต่อหน้าพยานชุดเดิม พินัยกรรมนั้นถูกต้องตาม ม. 1656
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของวัดซึ่งแต่แรกตกอยู่ที่เจ้าอาวาสองค์เก่าซึ่งมรณภาพไปแล้ว และอ้างว่าบัดนี้จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีอำนาจ คดีย่อมไม่มีปัญหาเรื่องอายุความมรดก.