พบผลลัพธ์ทั้งหมด 436 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1387/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของวัดในการฟ้องคดี, ความถูกต้องของพินัยกรรม, และอายุความกรณีทรัพย์สินของวัด
วัดเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเจ้าอาวาสมีสิทธิฟ้องคดีในนามของวัดได้ และมีอำนาจมอบให้ผู้อื่นเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งแทนตนได้
พยานลงชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรม ต่อมาอีก 3 วันผู้ทำพินัยกรรมจึงได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือของตนต่อหน้าพยานชุดเดิมพินัยกรรมนั้นถูกต้องตาม มาตรา 1656
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของวัดซึ่งแต่แรกตกอยู่ที่เจ้าอาวาสองค์เก่าซึ่งมรณภาพไปแล้ว และอ้างว่าบัดนี้จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีอำนาจ คดีย่อมไม่มีปัญหาเรื่องอายุความมรดก
พยานลงชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรม ต่อมาอีก 3 วันผู้ทำพินัยกรรมจึงได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือของตนต่อหน้าพยานชุดเดิมพินัยกรรมนั้นถูกต้องตาม มาตรา 1656
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของวัดซึ่งแต่แรกตกอยู่ที่เจ้าอาวาสองค์เก่าซึ่งมรณภาพไปแล้ว และอ้างว่าบัดนี้จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีอำนาจ คดีย่อมไม่มีปัญหาเรื่องอายุความมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 745/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาแทนนิติบุคคล: ผู้จัดการ/ผู้แทนเท่านั้นที่ฟ้องได้, มอบอำนาจให้ผู้อื่นมิได้
บุคคลที่จะฟ้องความแทนนิติบุคคลผู้เสียหายได้ คือผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคลนั้น ๆ
ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจผู้แทนของนิติบุคคลมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นตัวแทนฟ้องความในคดีอาญาได้ และจะนำเอา ป.วิ.แพ่งมาตรา 60 มาอนุโลมใช้ไม่ได้
สมุห์บัญชีเทศบาลไม่มีอำนาจรับมอบอำนาจจากนายกเทศมนตรี ให้ฟ้องคดีอาญาที่กระทำต่อเทศบาล.
ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจผู้แทนของนิติบุคคลมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นตัวแทนฟ้องความในคดีอาญาได้ และจะนำเอา ป.วิ.แพ่งมาตรา 60 มาอนุโลมใช้ไม่ได้
สมุห์บัญชีเทศบาลไม่มีอำนาจรับมอบอำนาจจากนายกเทศมนตรี ให้ฟ้องคดีอาญาที่กระทำต่อเทศบาล.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 745/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแทนโจทก์ที่เป็นนิติบุคคล: ผู้จัดการ/ผู้แทนเท่านั้นที่ฟ้องได้ ห้ามมอบอำนาจต่อ
บุคคลที่จะฟ้องความแทนนิติบุคคลผู้เสียหายได้ คือผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคลนั้นๆ
ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจผู้แทนของนิติบุคคลมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นตัวแทนฟ้องความในคดีอาญาได้และจะนำเอาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 มาอนุโลมใช้ไม่ได้
สมุห์บัญชีเทศบาลไม่มีอำนาจรับมอบอำนาจจากนายกเทศมนตรีให้ฟ้องคดีอาญาที่กระทำต่อเทศบาล
ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจผู้แทนของนิติบุคคลมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นตัวแทนฟ้องความในคดีอาญาได้และจะนำเอาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 มาอนุโลมใช้ไม่ได้
สมุห์บัญชีเทศบาลไม่มีอำนาจรับมอบอำนาจจากนายกเทศมนตรีให้ฟ้องคดีอาญาที่กระทำต่อเทศบาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1490/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะนิติบุคคลบริษัทต่างชาติในไทย และสิทธิในเครื่องหมายการค้า
บริษัทโจทก์ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในประเทศอังกฤษและมีสำนักงานอยู่ในประเทศอังกฤษ บริษัทโจทก์จะเป็นนิติบุคคลตาม กฎหมายไทยหรือไม่ โจทก์ก็ขึ้นศาลเพื่อเป็นโจทก์หรือเป็นจำเลยในศาลไทยได้ตามความในข้อ 20 แห่งหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษลงวันที่ 14 ก.ค.68 และข้อ 4-5(2) ของสนธิสัญญาการพานิชย์และการเดินเรือระหว่างไทยกับอังกฤษลงนามกันวันที่ 23 พ.ย. 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีศาสนสมบัติ, การแต่งตั้งทนาย, และการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินวัด
กรมการศาสนามีอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับศาสนสมบัติของวัดได้เพราะมีระเบียบตราไว้ให้มีอำนาจจัดการผลประโยชน์ของวัด
อธิบดีผู้ซึ่งมีกระแสพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับทราบคำสั่งและยังไม่ได้ส่งมอบงานย่อมยังมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมได้
เมื่อตำแหน่งอธิบดีว่างลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงย่อมมีอำนาจตั้งข้าราชการชั้นใด ๆ ก็ได้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดี ในเมื่อเห็นเป็นการสมควรผู้รักษาการผู้ได้รับคำสั่งนั้นย่อมมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมนั้นได้.
อธิบดีผู้ซึ่งมีกระแสพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับทราบคำสั่งและยังไม่ได้ส่งมอบงานย่อมยังมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมได้
เมื่อตำแหน่งอธิบดีว่างลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงย่อมมีอำนาจตั้งข้าราชการชั้นใด ๆ ก็ได้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดี ในเมื่อเห็นเป็นการสมควรผู้รักษาการผู้ได้รับคำสั่งนั้นย่อมมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีศาสนสมบัติ, การแต่งตั้งทนายของผู้พ้นตำแหน่ง, และการบอกเลิกสัญญาเช่า
กรมการศาสนามีอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับศาสนสมบัติของวัดได้เพราะมีระเบียบตราไว้ให้มีอำนาจจัดการผลประโยชน์ของวัด
อธิบดีผู้ซึ่งมีกระแสพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งแล้วแต่ยังไม่ได้รับทราบคำสั่งและยังไม่ได้ส่งมอบงาน ย่อมยังมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมได้
เมื่อตำแหน่งอธิบดีว่างลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงย่อมมีอำนาจตั้งข้าราชการชั้นใดๆ ก็ได้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดี ในเมื่อเห็นเป็นการสมควรผู้รักษาการผู้ได้รับคำสั่งนั้นย่อมมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมนั้นได้
อธิบดีผู้ซึ่งมีกระแสพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งแล้วแต่ยังไม่ได้รับทราบคำสั่งและยังไม่ได้ส่งมอบงาน ย่อมยังมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมได้
เมื่อตำแหน่งอธิบดีว่างลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงย่อมมีอำนาจตั้งข้าราชการชั้นใดๆ ก็ได้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดี ในเมื่อเห็นเป็นการสมควรผู้รักษาการผู้ได้รับคำสั่งนั้นย่อมมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851-853/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิในที่ดินวัด: การโอนกรรมสิทธิที่ดินวัดและที่ธรณีสงฆ์ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์
ม.1332 ใช้บังคับเฉพาะทรัพย์สินธรรมดา แต่สำหรับที่วัดและที่ธรณีสงฆ์นั้น พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2484 ม.41 บัญญัติว่าจะโอนกรรมสิทธิได้แต่โดย พ.ร.บ.เท่านั้น ดังนั้นแม้จะซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนจากการขายทอดตลาดก็หาได้กรรมสิทธิไม่ และเมื่อวัดซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินก็ไม่มีหน้าที่คืนหรือชดใช้ราคาแก่ผู้ซื้อ เพราะกรณีไม่เข้า ม.1332
บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของวัดกลางมาแต่สร้างวัดเช่นนี้หาเป็นเคลือบคลุมไม่ กรณีวัดจะได้ที่มาโดยเหตุใด เมื่อใดไม่ใช่ข้อสำคัญและไม่มีทางที่จะหลงผิดในการต่อสู้คดี
เจ้าอาวาสแห่งวัดมอบอำนาจให้บุคคลดำเนินคดีแทนวัดได้ อ้างฎีกาที่ 823,824,825/2496
การมอบอำนาจก็คือการให้ตัวแทนมีอำนาจแทนตัวการนั่นเอง และการแต่งตั้งตัวแทนนั้นจะแต่งตั้งโดยเปิดเผยหรือโดยปริยายก็ได้ (ม.797 วรรค 2) และกิจการใดที่ ก.ม.บัญญัติว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ต้องทำเป็นหนังสือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย.การที่ทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือย่อมหมายถึงหนังสือหรือหลักฐานอันมีลายมือชื่อของผู้เป็นตัวการซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง (ม.9) สวนสำหรับตัวแทนหรือผู้รับมอบนั้น หามี ก.ม.ใดบังคับให้ต้องลงนามด้วยไม่
ข้อ ก.ม. ที่เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้าม หาฎีกาได้ไม่.
บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของวัดกลางมาแต่สร้างวัดเช่นนี้หาเป็นเคลือบคลุมไม่ กรณีวัดจะได้ที่มาโดยเหตุใด เมื่อใดไม่ใช่ข้อสำคัญและไม่มีทางที่จะหลงผิดในการต่อสู้คดี
เจ้าอาวาสแห่งวัดมอบอำนาจให้บุคคลดำเนินคดีแทนวัดได้ อ้างฎีกาที่ 823,824,825/2496
การมอบอำนาจก็คือการให้ตัวแทนมีอำนาจแทนตัวการนั่นเอง และการแต่งตั้งตัวแทนนั้นจะแต่งตั้งโดยเปิดเผยหรือโดยปริยายก็ได้ (ม.797 วรรค 2) และกิจการใดที่ ก.ม.บัญญัติว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ต้องทำเป็นหนังสือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย.การที่ทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือย่อมหมายถึงหนังสือหรือหลักฐานอันมีลายมือชื่อของผู้เป็นตัวการซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง (ม.9) สวนสำหรับตัวแทนหรือผู้รับมอบนั้น หามี ก.ม.ใดบังคับให้ต้องลงนามด้วยไม่
ข้อ ก.ม. ที่เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้าม หาฎีกาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851-853/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินธรณีสงฆ์: การโอนกรรมสิทธิ์ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์, การซื้อสุจริตจากการขายทอดตลาดไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
มาตรา 1332 ใช้บังคับเฉพาะทรัพย์สินธรรมดาสำหรับที่วัดและที่ธรณีสงฆ์นั้นพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2484 มาตรา 41บัญญัติว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ได้แต่โดยพระราชบัญญัติเท่านั้นดังนั้นแม้จะซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนจากการขายทอดตลาดก็หาได้กรรมสิทธิ์ไม่ และวัดซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินก็ไม่มีหน้าที่คืนหรือชดใช้ราคาแก่ผู้ซื้อเพราะกรณีไม่เข้ามาตรา 1332
บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของวัดกลางมาแต่สร้างวัดเช่นนี้หาเป็นเคลือบคลุมไม่ กรณีวัดจะได้ที่มาโดยเหตุใด เมื่อใดไม่ใช่ข้อสำคัญและไม่มีทางที่จะหลงผิดในการต่อสู้คดี
เจ้าอาวาสแห่งวัดมอบอำนาจให้บุคคลดำเนินคดีแทนวัดได้อ้างฎีกาที่ 823,824,825/2496
การมอบอำนาจก็คือการให้ตัวแทนมีอำนาจทำการแทนตัวการนั่นเอง และการแต่งตั้งตัวแทนนั้นจะแต่งตั้งโดยเปิดเผยหรือโดยปริยายก็ได้(มาตรา 797 วรรคสอง) และกิจการใดที่กฎหมายบัญญัติว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย การที่ทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือย่อมหมายถึงหนังสือหรือหลักฐานอันมีลายมือชื่อของผู้เป็นตัวการซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง(มาตรา 9)ส่วนสำหรับตัวแทนหรือผู้รับมอบนั้นหามีกฎหมายใดบังคับให้ต้องลงนามด้วยไม่
ข้อกฎหมายที่เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้ามหาฎีกาได้ไม่
บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของวัดกลางมาแต่สร้างวัดเช่นนี้หาเป็นเคลือบคลุมไม่ กรณีวัดจะได้ที่มาโดยเหตุใด เมื่อใดไม่ใช่ข้อสำคัญและไม่มีทางที่จะหลงผิดในการต่อสู้คดี
เจ้าอาวาสแห่งวัดมอบอำนาจให้บุคคลดำเนินคดีแทนวัดได้อ้างฎีกาที่ 823,824,825/2496
การมอบอำนาจก็คือการให้ตัวแทนมีอำนาจทำการแทนตัวการนั่นเอง และการแต่งตั้งตัวแทนนั้นจะแต่งตั้งโดยเปิดเผยหรือโดยปริยายก็ได้(มาตรา 797 วรรคสอง) และกิจการใดที่กฎหมายบัญญัติว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย การที่ทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือย่อมหมายถึงหนังสือหรือหลักฐานอันมีลายมือชื่อของผู้เป็นตัวการซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง(มาตรา 9)ส่วนสำหรับตัวแทนหรือผู้รับมอบนั้นหามีกฎหมายใดบังคับให้ต้องลงนามด้วยไม่
ข้อกฎหมายที่เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้ามหาฎีกาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้จัดการเก็บผลประโยชน์ในการคัดค้านคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ดูแล แม้ไม่มีส่วนได้ในกรรมสิทธิ์
ผู้ได้รับมอบอำนาจให้จัดการเก็บผลประโยชน์ในนาพิพาทย่อมมีอำนาจเป็นผู้คัดค้านในคดีที่เกี่ยวกับนาพิพาทได้
เมื่อศาลไต่สวนและยอมรับผู้คัดค้านให้เข้าเป็นคู่ความผู้ร้องไม่คัดค้านจนสืบพยานไปเสร็จแล้ว ดังนี้ศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยคดีนั้นได้
แม้ผู้คัดค้านจะไม่มีส่วนได้ในทรัพย์สินที่พิพาท แต่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวทรัพย์สินนั้นก็มีอำนาจคัดค้านได้
เมื่อศาลไต่สวนและยอมรับผู้คัดค้านให้เข้าเป็นคู่ความผู้ร้องไม่คัดค้านจนสืบพยานไปเสร็จแล้ว ดังนี้ศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยคดีนั้นได้
แม้ผู้คัดค้านจะไม่มีส่วนได้ในทรัพย์สินที่พิพาท แต่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวทรัพย์สินนั้นก็มีอำนาจคัดค้านได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับมอบอำนาจจัดการทรัพย์สินมีอำนาจคัดค้านได้ แม้ไม่มีส่วนได้ในทรัพย์สินนั้น หากศาลยอมรับและไม่มีการโต้แย้งจนพ้นระยะไต่สวน
ผู้ได้รับมอบอำนาจให้จัดการเก็บผลประโยชน์ในนาพิพาทย่อมมีอำนาจเป็นผู้คัดค้านไต่สวนและยอมรับผู้คัดค้านให้เข้าเป็นคู่ความ ผู้ร้องไม่คัดค้านจนสืบพยานไปเสร็จแล้ว ดังนี้ศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยคดีนั้นได้
แม้ผู้คัดค้านจะไม่มีส่วนได้ในทรัพย์สินที่พิพาท แต่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวทรัพย์สินนั้น ก็มีอำนาจคัดค้านได้
แม้ผู้คัดค้านจะไม่มีส่วนได้ในทรัพย์สินที่พิพาท แต่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวทรัพย์สินนั้น ก็มีอำนาจคัดค้านได้