พบผลลัพธ์ทั้งหมด 314 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ยังไม่ผูกพัน & การเข้าครอบครองโดยอาศัยสิทธิไม่ก่อให้เกิดภาระจำยอม
การที่เจ้าอาวาสลงชื่อในสัญญาเช่าหมาย ล.5 โดยเจตนาจะถือเป็นเพียงแต่ร่างสัญญาโดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัดก่อนอีกทีหนึ่ง ไม่มีความประสงค์จะให้เป็นสัญญาอันแท้จริง สัญญาเช่าดังกล่าวจึงไม่ผูกพันโจทก์จำเลยอย่างใด ที่จำเลยอ้างว่าเข้าอยู่โดยอาศัยสิทธิการเช่าตามสัญญาหมาย ล.5 จึงฟังไม่ได้ เป็นแต่เพียงอาศัยเท่านั้น เมื่อเป็นการอาศัยจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้จดทะเบียนการเช่าและภาระจำยอมตาม ป.พ.พ. มาตรา 1312
การที่โจทก์ฟ้องจำเลย ๆ ฟ้องแย้งโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งนั้น เป็นคดีเดียวกันทั้งนั้น ทนายโจทก์ที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้วมีสิทธิทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งจำเลยได้ ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายใหม่อีก.
การที่โจทก์ฟ้องจำเลย ๆ ฟ้องแย้งโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งนั้น เป็นคดีเดียวกันทั้งนั้น ทนายโจทก์ที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้วมีสิทธิทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งจำเลยได้ ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายใหม่อีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่มิได้มีเจตนาผูกพัน และการเข้าอยู่อาศัยโดยอาศัยสิทธิ ย่อมไม่ก่อให้เกิดภาระจำยอม
การที่เจ้าอาวาสลงชื่อในสัญญาเช่าหมาย ล.5 โดยเจตนาจะถือเป็นแต่เพียงร่างสัญญาโดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัดก่อนอีกทีหนึ่ง ไม่มีความประสงค์จะให้เป็นสัญญาอันแท้จริง สัญญาเช่าดังกล่าวจึงไม่ผูกพันโจทก์จำเลยอย่างใด ที่จำเลยอ้างว่าเข้าอยู่โดยอาศัยสิทธิการเช่าตามสัญญาหมาย ล.5จึงฟังไม่ได้ เป็นแต่เพียงอาศัยเท่านั้น เมื่อเป็นการอาศัยจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้จดทะเบียนการเช่าและภาระจำยอมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1312
การที่โจทก์ฟ้องจำเลย จำเลยฟ้องแย้งโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งนั้นเป็นคดีเดียวกันทั้งนั้น ทนายโจทก์ที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้วมีสิทธิทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งจำเลยได้ ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายใหม่อีก
การที่โจทก์ฟ้องจำเลย จำเลยฟ้องแย้งโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งนั้นเป็นคดีเดียวกันทั้งนั้น ทนายโจทก์ที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้วมีสิทธิทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งจำเลยได้ ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายใหม่อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายหน้าชี้ช่องทำสัญญา & สิทธิเรียกร้องค่านายหน้า แม้มีนายหน้าอื่น
พฤติการณ์ที่ถือว่าโจทก์ได้ชี้ช่องให้จำเลยได้เข้าทำสัญญาปลูกสร้างตึกแถวสำเร็จโดยหวังค่านายหน้า
กรณีที่แสดงว่านิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และจำเลยในเรื่องนายหน้ายังมีอยู่
เมื่อกิจการสำเร็จเพราะโจทก์ซึ่งเป็นนายหน้าแล้วจำเลย(คู่สัญญา)ต้องจ่ายค่านายหน้าตามข้อตกลง การที่จำเลยต้องเสียค่านายหน้าแก่ผู้อื่นอีกนั้นไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิ์ของโจทก์ที่จะเรียกร้องเอาค่านายหน้าจากจำเลย
กรณีที่แสดงว่านิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และจำเลยในเรื่องนายหน้ายังมีอยู่
เมื่อกิจการสำเร็จเพราะโจทก์ซึ่งเป็นนายหน้าแล้วจำเลย(คู่สัญญา)ต้องจ่ายค่านายหน้าตามข้อตกลง การที่จำเลยต้องเสียค่านายหน้าแก่ผู้อื่นอีกนั้นไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิ์ของโจทก์ที่จะเรียกร้องเอาค่านายหน้าจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายหน้าชี้ช่องทำสัญญา คดีนายหน้าได้ค่าตอบแทน แม้มีนายหน้าอื่น
พฤติการณ์ที่ถือว่าโจทก์ได้ชี้ช่องให้จำเลยได้เข้าทำสัญญาปลูกสร้างตึกแถวสำเร็จโดยหวังค่านายหน้า
กรณีที่แสดงว่านิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และจำเลยในเรื่องนายหน้ายังมีอยู่
เมื่อกิจการสำเร็จ เพราะโจทก์ซึ่งเป็นนายหน้าแล้ว จำเลย (คู่สัญญา) ต้องจ่ายค่านายหน้าตามข้อตกลง การที่จำเลยต้องเสียค่านายหน้าแก่ผู้อื่นอีกนั้นไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิของโจทก์ที่จะเรียกร้องเอาค่านายหน้าจากจำเลย.
กรณีที่แสดงว่านิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และจำเลยในเรื่องนายหน้ายังมีอยู่
เมื่อกิจการสำเร็จ เพราะโจทก์ซึ่งเป็นนายหน้าแล้ว จำเลย (คู่สัญญา) ต้องจ่ายค่านายหน้าตามข้อตกลง การที่จำเลยต้องเสียค่านายหน้าแก่ผู้อื่นอีกนั้นไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิของโจทก์ที่จะเรียกร้องเอาค่านายหน้าจากจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขสัญญาที่มิได้ตกลงร่วมกัน ศาลไม่ถือว่ามีผลผูกพัน
เงื่อนไขบางประการแม้จะปรากฎอยู่ในนิติกรรม หากฟังไม่ได้ว่าเป็นเงื่อนไขที่คู่สัญญาเจตนาให้มีไว้ ก็ถือว่าเงื่อนไขนั้นไม่มีอยู่ในสัญญา กล่าวคือศาลไม่ถือเอาเงื่อนไขนั้นมาบังคับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขในสัญญาย่อมมีผลบังคับใช้เฉพาะที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันเท่านั้น หากไม่ได้ตกลงร่วมกัน เงื่อนไขนั้นย่อมไม่ผูกพัน
เงื่อนไขบางประการแม้จะปรากฏอยู่ในนิติกรรม หากฟังไม่ได้ว่าเป็นเงื่อนไขที่คู่สัญญาเจตนาให้มีไว้ ก็ถือว่าเงื่อนไขนั้นไม่มีอยู่ในสัญญา กล่าวคือศาลไม่ถือเอาเงื่อนไขนั้นมาบังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคาร: จำเลยผิดสัญญาเมื่อไม่ส่งมอบที่ดินตามสัญญา และโจทก์มีสิทธิขอจดทะเบียนสัญญาเช่า 10 ปี
การที่โจทก์ทำสัญญาเช่าที่วัดซึ่งเป็นจำเลยมีกำหนด 10 ปี โดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะทำการก่อสร้างห้องแถวลงในที่เช่า มีจำนวนห้องที่จะต้องสร้างระบุไว้ จำเลยได้ส่งมอบที่ให้โจทก์บางส่วน ยังไม่ครบตามสัญญาและโจทก์ได้ก่อสร้างห้องแถวลงบ้างแล้ว ต่อมาจำเลยไม่ส่งมอบที่ให้โจทก์เพื่อก่อสร้างห้องต่อไปตามสัญญา เมื่อศาลวินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญา บังคับให้จำเลยส่งมอบที่ตามสัญญาให้แก่โจทก์ ศาลบังคับให้จำเลยไปทำการจดทะเบียนสัญญาเช่ามีระยะเวลา 10 ปี ตามที่ตกลงกันไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคาร: สิทธิในการจดทะเบียนสัญญาเช่าเมื่อผู้เช่าปฏิบัติตามสัญญา
การที่โจทก์ทำสัญญาเช่าที่วัดซึ่งเป็นจำเลยมีกำหนด10 ปีโดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะทำการก่อสร้างห้องแถวลงในที่เช่า มีจำนวนห้องที่จะต้องสร้างระบุไว้จำเลยได้ส่งมอบที่ให้โจทก์บางส่วน ยังไม่ครบตามสัญญาและโจทก์ได้ก่อสร้างห้องแถวลงบ้างแล้วต่อมาจำเลยไม่ส่งมอบที่ให้โจทก์เพื่อก่อสร้างห้องต่อไปตามสัญญาเมื่อศาลวินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญา บังคับให้จำเลยส่งมอบที่ตามสัญญาให้แก่โจทก์ศาลบังคับให้จำเลยไปทำการจดทะเบียนสัญญาเช่ามีระยะเวลา 10 ปีตามที่ตกลงกันไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2131/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงชื่อในเอกสารโดยถูกหลอกลวงไม่เป็นนิติกรรม การโอนที่ดินเป็นโมฆะ
การที่ผู้ทำเอกสารเซ็นชื่อลงในกระดาษ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเอกสารเพื่อใช้ในกิจการอย่างหนึ่ง เพราะถูกหลอกลวงไม่เป็นการเจตนาทำนิติกรรมไม่มีผลผูกพันเจ้าของที่เซ็นชื่อประการใด เมื่อเอกสารเหล่านั้นไม่ผูกพันการโอนไปซึ่งกรรมสิทธิ์แห่งที่พิพาทที่อาศัยเอกสารเหล่านั้นดำเนินไปจึงไม่มีผลผูกพันผู้ลงชื่อในเอกสารเพราะถูกหลอกลวง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2131/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงชื่อในเอกสารโดยถูกหลอกลวง ไม่ถือเป็นนิติกรรม ไม่ก่อให้เกิดผลผูกพัน
การที่ผู้ทำเอกสารเซ็นชื่อลงในกระดาษ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเอกสารเพื่อใช้ในกิจการอย่างหนึ่ง เพราะถูกหลอกลวงไม่เป็นการเจตนาทำนิติกรรม ไม่มีผลผูกพันเจ้าของที่เซ็นชื่อประการใด เมื่อเอกสารเหล่านั้นไม่ผูกพัน การโอนไปซึ่งกรรมสิทธิ์แห่งที่พิพาทที่อาศัยเอกสารเหล่านั้นดำเนินไป จึงไม่มีผลผูกพันผู้ลงชื่อในเอกสารเพราะถูกหลอกลวง(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2500)