พบผลลัพธ์ทั้งหมด 314 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาและการแบ่งทรัพย์หลังหย่าขาด โดยการแสดงเจตนาสละสิทธิถือเป็นอันเสร็จเด็ดขาด
โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสกัน แล้วโจทก์( ภริยา ) ได้โอนกรรมสิทธิที่ดินของตนให้จำเลย( สามี ) แล้วทำหนังสือสละทรัพย์สินส่วนของตนให้แก่จำเลยโดยระบุไว้แจ้งชัดว่าสละให้เพราะจะไปอยู่กินกับชายชู้ แล้วโจทก์กับจำเลยได้จดทะเบียนหย่าขาดกันโดยโจทก์ได้แสดงเจตนาเมื่อจดทะเบียนหย่ายืนยันสละสิทธิของโจทก์ในทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา โดยกล่าวว่าไม่มีอะไรจะแบ่งกันแล้วดังนี้ ย่อมฟังได้ว่าการหย่าและแบ่งทรัพย์ระหว่างโจทก์จำเลยได้เสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์จะกลับรื้อฟื้นฟ้องร้อว่ายังไม่ได้แบ่งทรัพย์กันนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิในทรัพย์สินหลังหย่า: เจตนาชัดเจนถือเป็นอันสิ้นสุด
โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสกัน แล้วโจทก์(ภริยา) ได้โอนกรรมสิทธิที่ดินของตนให้จำเลย(สามี)แล้วทำหนังสือสละทรัพย์สินส่วนของตนให้แก่จำเลยโดยระบุไว้แจ้งชัดว่าสละให้เพราะจะไปอยู่กินกับชายชู้ แล้วโจทก์กับจำเลยได้จดทะเบียนหย่าขาดกันโดยโจทก์ได้แสดงเจตนาเมื่อจดทะเบียนหย่ายืนยันสละสิทธิของโจทก์ในทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาโดยกล่าวว่าไม่มีอะไรจะแบ่งกันแล้วดังนี้ ย่อมฟังได้ว่าการหย่าและแบ่งทรัพย์ระหว่างโจทก์จำเลยได้เสร็จเด็ดขาดไปแล้วโจทก์จะกลับรื้อฟื้นฟ้องร้องว่ายังไม่ได้แบ่งทรัพย์กันนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการงดสืบพยานและวินิจฉัยคดีเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ กรณีเช่าทรัพย์สิน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อที่คู่ความประสงค์จะนำสืบไม่เป็นประโยชน์ต่อคดี ศาลย่อมมีอำนาจที่จะงดสืบพยานนั้นเสียได้ และเมื่อเห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่พอเพียงจะเชื่อฟังเป็นยุติได้แล้ว ก็พิพากษาคดีนั้นได้ ไม่จำต้องสืบพยานต่อไปตามที่คู่ความขออีก
ศาลชั้นต้นสองถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่ โดยยังไม่ไม่วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้ว ก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก
ศาลชั้นต้นสองถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่ โดยยังไม่ไม่วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้ว ก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการงดสืบพยานเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ และการวินิจฉัยคดีโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อที่คู่ความประสงค์จะนำสืบไม่เป็นประโยชน์ต่อคดีศาลย่อมมีอำนาจที่จะงดสืบพยานนั้นเสียได้และเมื่อเห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่พอเพียงจะเชื่อฟังเป็นยุติได้แล้วก็พิพากษาคดีนั้นได้ ไม่จำต้องสืบพยานต่อไปตามที่คู่ความขออีก
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไปศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่โดยยังไม่ได้วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้วก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไปศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่โดยยังไม่ได้วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้วก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เช่าเมื่อเจ้าของที่ดินขายโดยไม่บอกก่อน สัญญาเช่าไม่ถือเป็นข้อตกลงจะซื้อขาย
เช่าที่ดินของเขา เพื่อปลูกเรือนอาศัย มีกำหนด 20 ปี มีข้อสัญญาอยู่ข้อหนึ่งว่า เมื่อผู้ให้เช่าประสงค์จะขายที่ดินนั้น ผู้ให้เช่าต้องบอกขายกับผู้เช่าก่อน ฯลฯ
ดังนี้ ครั้นผู้ให้เช่าผิดสัญญาขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปโดยไม่บอกผู้เช่าก่อนผู้เช่าย่อมมีสิทธิเพียงฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่านั้นผู้เช่าจะฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินนั้นระหว่างผู้ให้เช่ากับบุคคลภายนอกและบังคับให้ขายแก่ผู้เช่าไม่ได้ เพราะกำหนดในสัญญาดังกล่าวไม่พอให้ถือว่าเป็นคำมั่นหรือจะซื้อขาย
ดังนี้ ครั้นผู้ให้เช่าผิดสัญญาขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปโดยไม่บอกผู้เช่าก่อนผู้เช่าย่อมมีสิทธิเพียงฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่านั้นผู้เช่าจะฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินนั้นระหว่างผู้ให้เช่ากับบุคคลภายนอกและบังคับให้ขายแก่ผู้เช่าไม่ได้ เพราะกำหนดในสัญญาดังกล่าวไม่พอให้ถือว่าเป็นคำมั่นหรือจะซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อที่ดิน: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากการขายโดยไม่บอกก่อน มิอาจบังคับให้ขายได้
เช่าที่ดินของเขา เพื่อปลูกเรือนอาศัย มีกำหนด 20 ปี มีข้อสัญญาอยู่ข้อหนึ่งว่า เมื่อผู้ให้เช่าประสงค์จะขายที่ดินนั้น ผู้ให้เช่าต้องบอกขายกับผู้เช่าก่อน ฯลฯ ดังนี้ ครั้นผู้ให้เช่าผิดสัญญาขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปโดยไม่บอกผู้เช่าก่อน ผู้เช่าย่อมมีสิทธิเพียงฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่านั้น ผู้เช่าจะฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินนั้นระหว่างผู้ให้เช่ากับบุคคลภายนอก และบังคับให้ขายแก่ผู้เช่าไม่ได้ เพราะกำหนดในสัญญาดังกล่าวไม่พอให้ถือว่าเป็นคำมั่นหรือจะซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซ่อมแซมแล้วเข้าอยู่: สิทธิผู้เช่ายังคงมีอยู่แม้คนกลางปฏิเสธกำหนดค่าเช่า ผู้ให้เช่าผิดสัญญาเมื่อให้ผู้อื่นเช่า
ผู้เช่าและผู้ให้เช่าทำสัญญายอมความกันว่า ผู้เช่ายอมออกจากห้องเช่าชั่วคราวเพื่อให้เจ้าของห้อง คือผู้ให้เช่าทำการซ่อมแซมห้องเช่าเมื่อซ่อมแล้ว ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่าเข้ามาอยู่ในห้องที่เคยเช่าได้ ส่วนอัตราค่าเช่าตกลงกันให้คนกลางกำหนด ดังนี้ เป็นสัญญากันครบถ้วนตั้งแต่วันทำสัญญายอมความกันแล้ว
แม้คนกลางจะไม่ยอมเป็นผู้กำหนดอัตราค่าเช่าให้สิทธิของผู้เช่าที่จะเข้าอยู่ในห้องพิพาทก็ยังคงมีอยู่ส่วนอัตราค่าเช่าคู่กรณีมีทางที่จะขอให้ศาลชี้ขาดได้ฉะนั้นเมื่อฝ่ายผู้ให้เช่าได้นำห้องพิพาทไปให้ผู้อื่นเช่าเสียผู้ให้เช่าจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่ผู้เช่าจะฟ้องศาลขอเข้าอยู่ในห้องพิพาทนั้นบุคคลภายนอกได้เข้าอยู่เสียแล้วจึงเป็นเรื่องวัตถุแห่งหนี้ ไม่เปิดช่องให้บังคับได้ผู้เช่าคงฟ้องได้แต่เรียกค่าเสียหายจากผู้ให้เช่า
แม้คนกลางจะไม่ยอมเป็นผู้กำหนดอัตราค่าเช่าให้สิทธิของผู้เช่าที่จะเข้าอยู่ในห้องพิพาทก็ยังคงมีอยู่ส่วนอัตราค่าเช่าคู่กรณีมีทางที่จะขอให้ศาลชี้ขาดได้ฉะนั้นเมื่อฝ่ายผู้ให้เช่าได้นำห้องพิพาทไปให้ผู้อื่นเช่าเสียผู้ให้เช่าจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่ผู้เช่าจะฟ้องศาลขอเข้าอยู่ในห้องพิพาทนั้นบุคคลภายนอกได้เข้าอยู่เสียแล้วจึงเป็นเรื่องวัตถุแห่งหนี้ ไม่เปิดช่องให้บังคับได้ผู้เช่าคงฟ้องได้แต่เรียกค่าเสียหายจากผู้ให้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนผันการเช่าและการฟ้องขับไล่เมื่อครบกำหนดผัด การชำระค่าเช่าเพิ่มเป็นค่าทดแทน
ผู้ให้เช่าได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าๆให้เข้าอยู่ในห้องเช่าเองได้จึงบอกเลิกการเช่าแก่ผู้เช่า ผู้เช่าขอผัดกำหนดออกจากห้องเช่าต่อไป แม้ในระหว่างเวลาขอผัด ผู้เช่าจะตกลงให้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากอัตราธรรมดา และผู้ให้เช่าตกลงก็ตามก็ไม่ถือว่าเป็นการเช่ากันโดยคิดอัตราค่าเช่าใหม่ แต่คงถือได้ว่าเป็นการผ่อนผันชั่วคราวเท่านั้นและค่าเช่าที่ชำระเพิ่มก็ถือได้ว่าเป็นเงินค่าทดแทนให้แก่ผู้ให้เช่า ที่ผ่อนผันแก่ผู้เช่า ฉะนั้นเมื่อครบกำหนดผัดแล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกจากที่เช่า ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องขับไล่ผู้เช่า โดยอาศัยมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ที่อนุญาตไว้นั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าและการผัดขยายเวลาเช่า ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นระหว่างผัดขยายเวลาถือเป็นค่าทดแทน
ผู้ให้เช่าได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ ให้เข้าอยู่ในห้องเช่าเองได้จึงบอกเลิกการเช่าแก่ผู้เช่า ผู้เช่าขอผัดกำหนดออกจากห้องเช่าต่อไป แม้ในระหว่างเวลาขอผัด ผู้เช่าจะตกลงให้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากอัตราธรรมดาและผู้ให้เช่าตกลงก็ตาม ก็ไม่ถือว่าเป็นการเช่ากันโดยคิดอัตราค่าเช่าใหม่ แต่คงถือได้ว่าเป็นการผ่อนผันชั่วคราวเท่านั้นและค่าเช่าที่ชำระเพิ่มก็ถือได้ว่าเป็นเงินค่าทดแทนให้แก่ผู้ให้เช่า ที่ผ่อนผันแก่ผู้เช่าฉะนั้นเมื่อครบกำหนดผัดแล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกจากที่เช่า ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องขับไล่ผู้เช่า โดยอาศัยมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯลฯ ที่อนุญาตไว้นั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดิน+สิ่งปลูกสร้าง: สัญญาต่างตอบแทนพิเศษ ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนดไม่ได้
เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างตึกมีกำหนดถึง 10 ปี แล้วผู้เช่าจะยกตึกที่ปลูกสร้างทดแทนให้เจ้าของที่ดินอีกโสดหนึ่งต่างหากจากค่าเช่า ดังนี้ เป็นสัญญาต่างตอบแทนกันยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนด 10 ปีไม่ได้
ผู้ให้เช่าฟ้องขอให้เลิกสัญญาเช่า และขอให้ผู้เช่าส่งมอบที่ดินที่เช่ากับสิ่งปลูกสร้างที่ผู้เช่าปลูกสร้างลงไว้บนที่ดินที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่านั้น ต้องตีราคาสิ่งปลูกสร้างเป็นทุนทรัพย์แห่งคดี และต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมตามระเบียบ เพราะเป็นทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้อง ไม่จำเป็นจะต้องฟังคำให้การของจำเลยก่อน
ผู้ให้เช่าฟ้องขอให้เลิกสัญญาเช่า และขอให้ผู้เช่าส่งมอบที่ดินที่เช่ากับสิ่งปลูกสร้างที่ผู้เช่าปลูกสร้างลงไว้บนที่ดินที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่านั้น ต้องตีราคาสิ่งปลูกสร้างเป็นทุนทรัพย์แห่งคดี และต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมตามระเบียบ เพราะเป็นทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้อง ไม่จำเป็นจะต้องฟังคำให้การของจำเลยก่อน