พบผลลัพธ์ทั้งหมด 314 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของรัฐในการรับสัญญาส่วนบุคคลที่ทำกับเจ้าพนักงาน และอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ผิดสัญญา
คณะกรรมการประมูลได้ตกลงให้เอกชนเป็นผู้รับทำการประมง ผู้ประมูลได้ก็ได้เซ็นชื่อยอมรับข้อตกลงนั้น นับว่าเป็นสัญญาผูกพันกันได้ตามกฎหมาย และสัญญานี้คณะกรรมการผู้เป็นเจ้าพนักงานได้ทำแทนรัฐบาลซึ่งกระทรวงเกษตราธิการเป็นเจ้าหน้าที่โดยตรง กระทรวงเกษตราธิการจึงมีสิทธิ์รับเอาสัญญานี้ได้ เมื่อผู้ประมูลผิดสัญญา กระทรวงเกษตราธิการก็มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ประมูลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม และการโอนสิทธิในมรดก
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลหลายคนเป็นผู้รับเมื่อเจ้ามรดกตายสิทธิในทรัพย์ย่อมตกได้แก่ผู้รับพินัยกรรม
บรรดาผู้รับพินัยกรรมจึงได้ชื่อว่า เป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์มรดกฉะนั้นการที่ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งจัดการเรียกร้องทรัพย์มรดกได้มาจากบุคคลอื่นแล้วจะกีดกันเอาไว้แต่ผู้เดียวมิได้ จำต้องแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรมตามส่วน
ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งทำหนังสือยอมมอบสิทธิการรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของตน ซึ่งตกอยู่กับผู้รับมรดกอีกคนหนึ่งให้แก่ผู้รับพินัยกรรมอีกคนหนึ่ง นั้น มิใช่เป็นการสละมรดก และการโอนเช่นนี้ถือว่าใช้ได้ ผู้รับโอนย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกมรดกส่วนที่โอนนั้นจากผู้ยึดถือทรัพย์มรดกนั้นอยู่ได้
บรรดาผู้รับพินัยกรรมจึงได้ชื่อว่า เป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์มรดกฉะนั้นการที่ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งจัดการเรียกร้องทรัพย์มรดกได้มาจากบุคคลอื่นแล้วจะกีดกันเอาไว้แต่ผู้เดียวมิได้ จำต้องแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรมตามส่วน
ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งทำหนังสือยอมมอบสิทธิการรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของตน ซึ่งตกอยู่กับผู้รับมรดกอีกคนหนึ่งให้แก่ผู้รับพินัยกรรมอีกคนหนึ่ง นั้น มิใช่เป็นการสละมรดก และการโอนเช่นนี้ถือว่าใช้ได้ ผู้รับโอนย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกมรดกส่วนที่โอนนั้นจากผู้ยึดถือทรัพย์มรดกนั้นอยู่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมมรดกมีสิทธิเรียกร้องแบ่งทรัพย์จากผู้รับพินัยกรรมคนอื่นได้ การโอนสิทธิเรียกร้องมรดกทำได้
ทำพินัยกรรม์ยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลหลายคนเป็นผู้รับ เมื่อเจ้ามรดกตายสิทธิในทรัพย์ย่อมตกได้แก่ผู้รับพินัยกรรม์ บรรดาผู้รับพินัยกรรม์จึงได้ชื่อว่า เป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์มรดกฉะนั้นการที่ผู้รับพินัยกรรม์คนหนึ่งจัดการเรียกร้องทรัพย์มรดกได้มาจากบุคคลอื่นแล้วจะกีดกันเอาไว้แต่ผู้เดียวมิได้ จำต้องแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรม์ตามส่วน
ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งทำหนังสือยอมมอบสิทธิการรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม์ของตน ซึ่งตกอยู่กับผู้รับมรดกอีกคนหนึ่งให้แก่ผู้รับพินัยกรรมอีกคนหนึ่ง นั้นมิใช่เป็นการสละมรดก และการโอนเช่นนี้ถือว่าใช้ได้ ผู้รับโอนย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกมรดกส่วนที่โอนนั้นจากผู้ยึดถือทรัพย์มรดกนั้นอยู่ได้
ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งทำหนังสือยอมมอบสิทธิการรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม์ของตน ซึ่งตกอยู่กับผู้รับมรดกอีกคนหนึ่งให้แก่ผู้รับพินัยกรรมอีกคนหนึ่ง นั้นมิใช่เป็นการสละมรดก และการโอนเช่นนี้ถือว่าใช้ได้ ผู้รับโอนย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกมรดกส่วนที่โอนนั้นจากผู้ยึดถือทรัพย์มรดกนั้นอยู่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1781/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขพินัยกรรม: การไม่ทราบเงื่อนไขของผู้รับ ไม่ทำให้การวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงตามความประสงค์ผู้ทำพินัยกรรม
เจ้าของพินัยกรรมผู้ให้ระบุเงื่อนไขไว้ในพินัยกรรมว่า ให้มารดาของผู้รับเซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ตามสัญญากลัดต่อท้ายพินัยกรรมภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทำพินัยกรรมฉบับนั้น แม้มารดาของผู้รับ และผู้รับจะไม่ทราบเงื่อนไขนี้ก็ตาม เมื่อปรากฏว่ามารดาของผู้รับมิได้เซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามที่กล่าวไว้ในพินัยกรรมแล้ว ผู้รับก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับทรัพย์ตามที่พินัยกรรมกำหนดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1781/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขพินัยกรรม: การไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทำให้เสียสิทธิรับมรดก แม้ผู้รับไม่ทราบเงื่อนไข
เจ้าของพินัยกรรม์ผู้ให้ระบุเงื่อนไขไว้ในพินัยกรรม์ว่าให้มารดาของผู้รับเซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม สัญญากลัดต่อท้ายพินัยกรรม์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทำพินัยกรรม์ฉะบับนั้น แม้มารดาของผู้รับและผู้รับจะไม่ทราบเงื่อนไขนี้ก็ตาม เมื่อปรากฎว่ามารดาของผู้รับมิได้เซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามที่กล่าวไว้ในพินัยกรรม์แล้ว ผู้รับก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับทรัพย์ตามที่พินัยกรรม์กำหนดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาซื้อขายไม้ซุง: คำสั่งภายในโรงงานเลื่อยไม้ไม่ใช่สัญญาซื้อขาย
ทำหนังสือขอซื้อไม้ซุงสักยื่นต่อโรงงานเลื่อยไม้ แม่กองขายของโรงงานได้บันทึกความเห็นลงไปว่าสมควรขายให้ในราคาเท่าใดแล้วเสนอผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการบันทึกว่าอนุญาตให้ขายได้ตามที่แม่กองขายเสนอมา ดังนี้ คำสั่งของผู้อำนวยการนี้เป็นเพียงคำสั่งภายในถึงคนขายของตนให้ขายสิ่งของตามราคาที่ว่านั้นได้ หาได้มีการแสดงเจตนาถึงผู้จะซื้ออย่างไรไม่ จึงไม่ทำให้เกิดนิติสัมพันธ์ เป็นสัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาซื้อขายขึ้นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม: การตกลงยกทรัพย์ให้บุตรแล้วถือเป็นเสร็จสิ้น แม้ผู้จัดการบางคนจะกลับใจ
พินัยกรรมที่กำหนดให้ผู้จัดการมรดกยกทรัพย์ให้บุตรคนใดคนหนึ่งของเจ้ามรดกนั้น ใช้ได้ตามมาตรา 1706 ข้อ 2
ผู้จัดการมรดกหลายคนครั้งแรกได้ตกลงพร้อมกันเป็นหนังสือว่าจะยกทรัพย์ให้แก่บุตรของเจ้ามรดกคนใดคนหนึ่งตามข้อกำหนดในพินัยกรรมแล้วแม้ภายหลังผู้จัดการมรดกส่วนมาก จะกลับใจยกทรัพย์ให้บุตรของเจ้ามรดกคนอื่นอีกก็ไม่มีผลเพราะถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อตกลงกันครั้งแรก
ผู้จัดการมรดกหลายคนครั้งแรกได้ตกลงพร้อมกันเป็นหนังสือว่าจะยกทรัพย์ให้แก่บุตรของเจ้ามรดกคนใดคนหนึ่งตามข้อกำหนดในพินัยกรรมแล้วแม้ภายหลังผู้จัดการมรดกส่วนมาก จะกลับใจยกทรัพย์ให้บุตรของเจ้ามรดกคนอื่นอีกก็ไม่มีผลเพราะถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อตกลงกันครั้งแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการมรดกตามพินัยกรรม: การตกลงของผู้จัดการมรดกมีผลผูกพัน แม้จะมีการกลับใจ
พินัยกรรม์ที่กำหนดให้ผู้จัดการมฤดกยกทรัพย์ให้บุตรคนใดคนหนึ่งของเจ้ามฤดกนั้น ใช้ได้ตามมาตรา 1706 ข้อ 2
ผู้จัดการมฤดกหลายคนครั้งแรกได้ตกลงพร้อมกันเป็นหนังสือว่าจะยกทรัพย์ให้แก่บุตรของเจ้ามฤดกคนใดคนหนึ่งตามข้อกำหนดในพินัยกรรม์แล้ว แม้ภายหลังผู้จัดการมฤดกส่วนมากจะกลับใจยกทรัพย์ให้บุตรของเจ้ามฤดกคนอื่นอีกก็ไม่มีผลเพราะถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมฤดกเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อตกลงกันครั้งแรก
ผู้จัดการมฤดกหลายคนครั้งแรกได้ตกลงพร้อมกันเป็นหนังสือว่าจะยกทรัพย์ให้แก่บุตรของเจ้ามฤดกคนใดคนหนึ่งตามข้อกำหนดในพินัยกรรม์แล้ว แม้ภายหลังผู้จัดการมฤดกส่วนมากจะกลับใจยกทรัพย์ให้บุตรของเจ้ามฤดกคนอื่นอีกก็ไม่มีผลเพราะถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมฤดกเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อตกลงกันครั้งแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าเสียหายโดยไม่มีนิติสัมพันธ์ชัดเจน ศาลต้องยกฟ้อง
คำฟ้องที่โจทก์มิได้บรรยายให้เห็นว่าได้มีนิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลย อันจะเป็นมูลให้เกิดสิทธิฟ้องร้อง ศาลก็ต้องยกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสาระสำคัญของการฟ้องเรียกค่าเสียหาย หากไม่มีศาลย่อมยกฟ้อง
คำฟ้องที่โจทก์มิได้บรรยายให้เห็นว่าได้มีนิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลย อันจะเป็นมูลให้เกิดสิทธิฟ้องร้องศาลก็ต้องยกฟ้อง