พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาซ้ำซ้อนเมื่อศาลยกฟ้องไปแล้ว และสิทธิการฟ้องของเหยื่อในความผิดต่อแผ่นดิน
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 127,128 อันเป็นความผิดแผ่นดินนั้น ผู้ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดนั้น ก็มีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษผู้กระทำผิดได้
การกระทำโดยกรรมเดียววาระเดียว แม้จะเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบท ก็จะฟ้องผู้กระทำผิดได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปแล้วจะยกกฎหมายบทอื่นที่จำเลย ทำละเมิด แต่ไม่ได้ฟ้องไว้ในครั้งก่อนมาฟ้องจำเลยอีกไม่ได้
จำเลยปลอมตนไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานสรรพสามิตต์ มาตรวจจับกุมผู้มเสียหายหาว่ากระทำผิดแล้วเรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหาย ๆ จึงเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 127,268 ศาลไต่สวนแล้วสั่งว่าคดีมีมูลเฉพาะข้อหาตามมาตรา 268 เท่านั้น จำเลยยอมใช้เงิน ผู้เสียหายจึงถอนฟ้องดังนี้ ย่อมถือว่าความผิดตามมาตรา 127 นั้น ศาลได้ยกฟ้องเสียแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องจำเลยตามมาตรา 128 ก็ย่อมระงับไปด้วย อัยการจึงจะมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 127 หรือ 128 อีกไม่ได้
การกระทำโดยกรรมเดียววาระเดียว แม้จะเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบท ก็จะฟ้องผู้กระทำผิดได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปแล้วจะยกกฎหมายบทอื่นที่จำเลย ทำละเมิด แต่ไม่ได้ฟ้องไว้ในครั้งก่อนมาฟ้องจำเลยอีกไม่ได้
จำเลยปลอมตนไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานสรรพสามิตต์ มาตรวจจับกุมผู้มเสียหายหาว่ากระทำผิดแล้วเรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหาย ๆ จึงเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 127,268 ศาลไต่สวนแล้วสั่งว่าคดีมีมูลเฉพาะข้อหาตามมาตรา 268 เท่านั้น จำเลยยอมใช้เงิน ผู้เสียหายจึงถอนฟ้องดังนี้ ย่อมถือว่าความผิดตามมาตรา 127 นั้น ศาลได้ยกฟ้องเสียแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องจำเลยตามมาตรา 128 ก็ย่อมระงับไปด้วย อัยการจึงจะมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 127 หรือ 128 อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ขัดต่อความจริง ศาลไม่ผูกพันตามสัญญา
เช่าเคหะอยู่อาศัย แต่ทำหนังสือสัญญาเช่าว่า เช่าเพื่อการค้าอย่างเดียว ซึ่งฝืนความจริงเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากความควบคุมของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯนั้น ศาลย่อมไม่รับบังคับให้ตามหนังสือสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ระบุวัตถุประสงค์ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ศาลย่อมบังคับตามสัญญา หากไม่มีการถูกบังคับหรือหลอกลวง
เช่าเคหะอยู่อาศัยแต่ทำหนังสือสัญญาเช่าว่า เช่าเพื่อการค้าอย่างเดียว ซึ่งฝืนความจริงเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากความควบคุมของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ นั้น ศาลย่อมบังคับให้ตามหนังสือสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญา: ต้องมีคำสั่งศาลอนุญาตก่อน จึงมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา
การฟ้องคดีอาญานั้น ตามกฎหมายให้อำนาจผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการได้ แต่ศาลต้องมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอของผู้ร้องที่ร้องเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมเสียก่อน จึงจะถือได้ว่าผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการโจทก์ ฉะนั้นเพียงแต่ผู้เสียหายร้องขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมศาลสั่งเพียงว่า"สำเนาให้ทุกฝ่าย ไว้พูดกันวันนัด" พอถึงวันนัด จำเลยรับสารภาพ ศาลก็ตัดสินคดีไปทีเดียว ถือว่าผู้เสียหายยังมิได้เข้ามาเป็นโจทก์ร่วม ผู้เสียหายจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในคดีนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเป็นโจทก์ร่วม: ศาลต้องมีคำสั่งอนุญาตก่อนจึงจะมีสิทธิอุทธรณ์ได้
การฟ้องคดีอาญานั้น ตามกฎหมายให้อำนาจผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการได้แต่ศาลต้องมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอของผู้ร้องที่ร้องเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมเสียก่อน จึงจะถือได้ว่าผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการโจทก์ ฉะนั้นเพียงแต่ผู้เสียหายร้องขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วม ศาลสั่งเพียงว่า "สำเนาให้ทุกฝ่าย ไว้พูดกันวันนัด" พอถึงวันนัด จำเลยสารภาพ ศาลก็ตัดสินคดีไปทีเดียวถือว่าผู้เสียหายยังมิได้เข้ามาเป็นโจทก์ร่วม ผู้เสียหายจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในคดีนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นฟ้องเคลือบคลุม: จำเลยฎีกาซ้ำไม่ได้ ศาลฎีกายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าฟ้องเคลือบคลุมแต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ จำเลยมิได้ฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมต่อไป ครั้นศาลชั้นต้นพิจารณาคดีเสร็จแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืน ดังนี้จำเลยจะฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ฎีกาประเด็นฟ้องเคลือบคลุมหลังศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษา ทำให้จำเลยมิอาจยกประเด็นนี้ขึ้นฎีกาอีก
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าฟ้องเคลือบคลุม แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ จำเลยมิได้ฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมต่อไปครั้นศาลชั้นต้นพิจารณาคดีเสร็จแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืน ดังนี้จำเลยจะฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151-1153/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมายและการสืบสันดานตามกฎหมายแพ่ง
บุตรที่เกิดจากมารดาซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรสกับบิดานั้น เมื่อบิดาได้ไปแจ้งให้อำเภอลงทะเบียนสำมโนครัวว่าเด็กนั้นเป็นบุตรตนและอยู่กับตนนั้นย่อมเป็นการเพียงพอที่จะฟังว่าบิดาได้รับรองแล้วว่าเด็กนั้นเป็นบุตรของเขาและบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วเช่นนี้ ป.พ.พ.มาตรา 1627 ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย
(อ้างฎีกาที่ 1601/2492)
(อ้างฎีกาที่ 1601/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151-1153/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: การแจ้งสำมะโนครัวถือเป็นการรับรองสิทธิ
บุตรที่เกิดจากมารดาซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรสกับบิดานั้นเมื่อบิดาได้ไปแจ้งให้อำเภอลงทะเบียนสำมะโนครัวว่าเด็กนั้นเป็นบุตรตนและอยู่กับตนนั้นย่อมเป็นการเพียงพอที่จะฟังว่าบิดาได้รับรองแล้วว่าเด็กนั้นเป็นบุตรของเขา และบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วเช่นนี้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย(อ้างฎีกาที่ 1601/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการตัวแทนในสัญญาเช่า: การบอกเลิกสัญญาที่มีผลต่อทั้งตัวการและตัวแทน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากห้องเช่าของโจทก์จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ผู้เช่าตามหนังสือสัญญาเช่าความจริงจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของจำเลยที่2 ในการเช่าห้องรายนี้ แต่มิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รู้ถึงการที่จำเลยที่ 1 เป็นเพียงตัวแทนของจำเลยที่ 2 มาก่อน กรณีจึงเข้าลักษณะตัวการตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806 ฉะนั้นเมื่อโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยที่ 1 เสร็จไปแล้ว จำเลยที่ 2 จะมาอ้างเพื่อให้เสื่อมเสียสิทธิของโจทก์อันเขามีแก่จำเลยที่ 1 หาได้ไม่ จึงไม่จำต้องสืบพยานตามข้ออ้างของจำเลยที่ 2 ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยได้