คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปรีชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบัญชีสุราของผู้จำหน่ายส่งและการพักเก็บสุราเพื่อส่งต่อ
ผู้ได้รับอนุญาตเป็นผู้จำหน่ายสุราขายส่งมีหน้าที่ต้องทำบัญชีน้ำสุราที่ได้รับตามใบขนโดยจดแจ้งสุราตามที่รับเข้าและที่ขนออกจากร้านถ้าละเลยไม่ทำก็ดี หรือไม่ลงบัญชีให้ถูกต้องก็ดี ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นใน และพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 แต่ถ้ารับเอาสุราที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในจังหวัดอื่นมาพักไว้ในร้านเพื่อจะส่งไปที่ร้านต่างจังหวัด ซึ่งได้รับอนุญาตให้จำหน่ายสุราได้อีกต่อหนึ่งดังนี้ เรียกได้ว่า เป็นการเอาสุรามาพักไว้เพราะยังหาได้ขนส่งไปถึงสำนักงานหรือร้านในจังหวัดที่รับอนุญาตให้ขายส่งนั้นไม่ และการที่เอาสุรามาพักเช่นนี้ก็มีใบอนุญาตให้เก็บสุรานอกสถานที่ได้ด้วยแล้วก็ย่อมยังไม่เป็นผิดตามบทกฎหมายที่กล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิในทรัพย์สินจากการซื้อทอดตลาดสุจริต โจทก์ไม่ใช้สิทธิเรียกร้องค่าชดใช้
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยเอาไปแล้วเถียงกรรมสิทธิ จึงขอให้ศาลแสดงว่าทรัพย์นั้นเป็นของโจทก์ให้จำเลยคืนแก่โจทก์ เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยซื้อทรัพย์พิพาทนั้นไปจากการขายทอดตลาดโดยสุจริตแล้ว ศาลก็ไม่อาจจะบังคับเรียกคืนทรัพย์นั้นจากจำเลยได้เพราะโจทก์มิได้เสนอขดชดใช้ราคาตามหน้าที่ของตนตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1332 ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยสุจริตและสิทธิในการเรียกคืน
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยเอาไปแล้วเถียงกรรมสิทธิ์จึงขอให้ศาลแสดงว่าทรัพย์นั้นเป็นของโจทก์ให้จำเลยคืนแก่โจทก์เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยซื้อทรัพย์พิพาทนั้นไปจากการขายทอดตลาดโดยสุจริตแล้วศาลก็ไม่อาจจะบังคับเรียกคืนทรัพย์นั้นจากจำเลยได้ เพราะโจทก์มิได้เสนอขอชดใช้ราคาตามหน้าที่ของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำลายทรัพย์สินในที่สาธารณะ: ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ แม้ไม่มีกรรมสิทธิ์
จำเลยเข้าไปทำนาในที่พิพาท ได้ไถทำลายต้นข้าวที่โจทก์ได้หว่านไว้เสียหาย แม้ที่พิพาทจะเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินซึ่งประชาชนมีสิทธิใช้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304ข้อ 2 ผู้หนึ่งผู้ใดหามีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองอย่างใดไม่ก็ตามจำเลยก็ต้องมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324 แต่ไม่เป็นผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่สาธารณะประโยชน์ การทำลายทรัพย์สินผู้อื่น ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
จำเลยเข้าไปทำนาในที่พิพาท ได้ไถทำลายต้นข้าวที่โจทก์ได้หว่านไว้เสียหาย แม้ที่พิพาทจะเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินซึ่งประชาชนมีสิทธิใช้ร่วมกันตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 1304 ข้อ 2 ผู้หนึ่งผู้ใดหามีกรรมสิทธิหรือสิทธครอบครองอย่างใดไม่ - ก็ตามจำเลยก็ต้องมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 324 แต่ไม่เป็นผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อากรแสตมป์สัญญากู้: การปิดอากรเพิ่มเติมหลังทำสัญญาไม่กระทบความเป็นพยานหลักฐาน
สัญญากู้ปิดอากรแสตมป์ในวันทำสัญญา ขาดอัตราไป 2 บาท ต่อมาในวันยื่นฟ้อง ผู้ให้กู้ซึ่งเป็นโจทก์ปิดเพิ่มอีก 2 บาท ครบตามอัตราที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ดังนี้ ย่อมใช้สัญญากู้นั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้ มิจำจะต้องเสียอากรและเงินเพิ่มอากร เพราะการที่จะรับผิดเสียอากรเพิ่มขึ้นเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ไม่กระทบกระทั่งถึงการที่จะฟังตราสารนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนในวันทำสัญญา แต่แก้ไขให้ถูกต้องก่อนฟ้อง ไม่กระทบการใช้สัญญากู้เป็นหลักฐาน
สัญญากู้ปิดอากรแสตมป์ในวันทำสัญญา ขาดอัตราไป 2 บาทต่อมาในวันยื่นฟ้อง ผู้ให้กู้ซึ่งเป็นโจทก์ปิดเพิ่มอีก 2 บาท ครบตามอัตราที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้วดังนี้ ย่อมใช้สัญญากู้นั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้ มิจำจะต้องเสียอากรและเงินเพิ่มอากรเพราะการที่จะรับผิดเสียอากรเพิ่มขึ้นเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ไม่กระทบกระทั่งถึงการที่จะฟังตราสารนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องคืนของกลางสำหรับเจ้าของที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและให้ริบของกลางตาม พระราชบัญญัติการพนันเมื่อปรากฏว่าผู้อื่นเป็นเจ้าของของกลางและมิได้รู้เห็นยินยอมในการกระทำผิดด้วยแล้ว เจ้าของชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลสั่งคืนของกลางนั้นแก่ตนและศาลก็ย่อมสั่งให้คืนของกลางแก่เจ้าของได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิขอคืนของกลาง หากไม่รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและให้ริบของกลางตาม พ.ร.บ.การพนัน เมื่อปรากฏว่าผู้อื่นเป็นเจ้าของของกลางและมิได้รู้เห็นยินยอมในการกระทำผิด-ด้วยแล้ว เจ้าของชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลสั่งคืนของกลางนั้นแก่ตนและศาลก็ย่อมสั่งให้คืนของกลางแก่เจ้าของได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงที่ผู้ให้เช่าเดิมยินยอม: ผู้เช่าช่วงมีสิทธิและหน้าที่ต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรง
การเช่าช่วงโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมนั้น ผู้เช่าช่วงย่อมต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 545ผู้เช่าช่วงจึงหาใช่เป็นบริวารของผู้เช่าไม่
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแต่ลำพัง โดยไม่ได้ฟ้องผู้เช่าช่วงเป็นจำเลยด้วย แม้ศาลจะพิพากษาขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแล้วก็ดี ถ้าการเช่าช่วงนั้น ได้กระทำไปโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมแล้ว โจทก์จะขอให้ขับไล่ผู้เช่าช่วงในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าซึ่งเป็นจำเลยไม่ได้ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหากจากคดีนี้
of 219