คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปรีชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจลงนามกรรมการ, สัญญาประนีประนอมยอมความ และการบังคับคดี
ข้อบังคับของบริษัทมีความว่า 'กรรมการ 2 นาย มีอำนาจลงนามในสัญญาตราสารหรือเอกสารสำคัญแทนบริษัทแต่ต้องประทับตราของบริษัทด้วย'ดังนี้กรรมการของบริษัท 2 นายย่อมมีอำนาจลงนามและประทับตราของบริษัทในใบแต่งทนายเพื่อฟ้องคดีเรียกเงินจากลูกหนี้ของบริษัทได้โดยชอบ
สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา851 นั้น มิได้บังคับไว้ว่าจะต้องลงลายมือชื่อของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายลงไว้ในหนังสือ ฉะนั้นเมื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดตามสัญญา ลงลายมือชื่อไว้ในหนังสือสัญญาเป็นหลักฐานแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหนี้และการใช้สิทธิเรียกร้อง เมื่อเจ้าหนี้ยอมรับการโอนหนี้และมีการแจ้งไปยังลูกหนี้ชั้นต้นแล้ว
เจ้าหนี้ยอมรับโอนหนี้ ที่ลูกหนี้ของตนเป็นเจ้าหนี้บุคคลอื่นอยู่ เป็นส่วนหนึ่งในการชำระหนี้แก่ตน ลูกหนี้ได้แจ้งการโอนไปยังบุคคลภายนอกผู้เป็นลูกหนี้อันเป็นการโอนที่ใช้ยันบุคคลภายนอกได้ด้วยแล้ว ย่อมถือได้ว่าเจ้าหนี้ได้รับโอนหนี้ไปจากลูกหนี้เสร็จเด็ดขาดแล้ว เมื่อเจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้จากบุคคลภายนอกผู้เป็นลูกหนี้ไม่ได้ เจ้าหนี้จะกลับมาฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้จากลูกหนี้ของตนอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหนี้เพื่อชำระหนี้อื่น: ผลผูกพันต่อบุคคลภายนอก และสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้
เจ้าหนี้ยอมรับโอนหนี้ ที่ลูกหนี้ของตนเป็นเจ้าหนี้บุคคลอื่นอยู่เป็นส่วนหนึ่งในการชำระหนี้แก่ตนลูกหนี้ได้แจ้งการโอนไปยังบุคคลภายนอกผู้เป็นลูกหนี้อันเป็นการโอนที่ใช้ยันบุคคลภายนอกได้ด้วยแล้วย่อมถือได้ว่าเจ้าหนี้ได้รับโอนหนี้ไปจากลูกหนี้เสร็จเด็ดขาดแล้วเมื่อเจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้จากบุคคลภายนอกผู้เป็นลูกหนี้ไม่ได้เจ้าหนี้จะกลับมาฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้จากลูกหนี้ของตนอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304-305/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนทันทีเมื่อซื้อขายสำเร็จ เลขทะเบียนไม่ใช่หลักฐานกรรมสิทธิ์ การซื้อขาย/ตั้งตัวแทนไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ
การซื้อขายรถยนต์นั้น เมื่อการซื้อขายสำเร็จแล้วกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ก็โอนไปยังผู้ซื้อทันทีเลขหมายและทะเบียนรถยนต์นั้นมิใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิ์ ตามกฎหมายแพ่งแต่อย่างใด เป็นเรื่องการควบคุมการใช้ยานพาหนะเท่านั้น
มอบรถยนต์ให้เขาไปขายให้เขาจึงได้จัดการขายไป โดยมอบรถยนต์แก่ผู้ซื้อไปแล้ว และรับชำระราคาบางส่วนแล้วดังนี้ ในกรณีเช่นนี้ การซื้อขายก็ดี การตั้งตัวแทนก็ดี กฎหมายมิได้บังคับให้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304-305/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์โอนทันทีเมื่อซื้อขาย การจดทะเบียนไม่ใช่หลักฐานกรรมสิทธิ์
การซื้อขายรถยนต์นั้น เมื่อการซื้อขายสำเร็จแล้วกรรมสิทธิ+รถยนต์ก็โอนไปยังผู้ซื้อทันที เลขมากมายและทะเบียนรถยนต์นั้นมิใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิ ตามกฎหมายแพ่งแต่อย่างใด เป็นเรื่องการควบคุมการใช้ยานพาหนะเท่านั้น
มอบรถยนต์ให้เขาไปขายให้เขาจึงได้จัดการขายไป โดยมอบรถยนต์แก่ผู้ซื้อไปแล้ว และรับชำระราคาบางส่วนแล้ว ดังนี้ ในกรณีเช่นนี้ การซื้อขายก็ดี การตั้งตัวแทนก็ดี กฎหมายมิได้บังคับให้หาหลักฐานเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองวิทยุของกลาง: ความผิดฐานครอบครองโดยไม่มีอนุญาตต้องมีหลักฐานเชื่อมโยง
ตำรวจตรวจค้นได้เครื่องรับส่งวิทยุและเครื่องอุปกรณ์ อยู่บนบ้านขณะค้นเจ้าของบ้านไม่อยู่ คงอยู่แต่ภรรยาเจ้าของบ้านโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานแต่อย่างใดเลยว่าภรรยาเจ้าของบ้านได้เกี่ยวข้องกับวิทยุของกลาง นอกจากคำของภรรยาเจ้าของบ้านเองว่ามีคนอื่นมาเช่าห้องเล็กชั้นบนนั้น โดยบอกว่าได้พูดตกลงกับสามีแล้วแล้วก็ขนของกลางมารูปคดีเพียงเท่านี้จะเอาผิดแก่ภรรยาฐานมีวิทยุของกลางไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเกี่ยวข้องกับของกลาง: ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงไม่มีความผิด
ตำรวจตรวจค้นได้เครื่องรับส่งวิทยุและเครื่องอุปกรณ์ อยู่บนบ้าน ขณะค้นเจ้าของบ้านไม่อยู่ คงอยู่แต่ภรรยาเจ้าของบ้านโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานแต่อย่างใดเลยว่า ภรรยาเจ้าของบ้านได้เกี่ยวข้องกับวิทยุของกลาง นอกจากคำของภรรยายเจ้าของบ้านเองว่ามีคนอื่นมาเช่าห้องเล็กชั้นบนนั้น โดยบอกว่าได้พูดตกลงกับสามีแล้ว แล้วก็ชนของกลางมา รูปคดีเพียงเท่านี้จะเอาผิดแก่ภรรยาฐานมีวิทยุของกลางไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขสัญญาสัญญาประนีประนอมด้วยสัญญาปากเปล่าได้ หากกฎหมายไม่ได้บังคับให้ทำเป็นหนังสือ
ป.วิ.พ.มาตรา 94 บัญญัติห้ามการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเฉพาะกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง คือในกรณีที่กฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือเท่านั้น
สัญญาประนีประนอมที่ทำกันก่อนใช้ป.พ.พ.บรรพ 3 นั้น ในขณะนั้นไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือฉะนั้นแม้จะได้ทำเป็นหนังสือไว้แล้วก็ย่อมนำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าคู่กรณีได้ตกลงแก้ไขสัญญาประนีประนอมนั้นเสียใหม่แล้วด้วยสัญญาปากเปล่าได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขสัญญาประนีประนอมด้วยสัญญาปากเปล่า การนำสืบพยานหลักฐาน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 บัญญัติห้ามการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเฉพาะกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง คือในกรณีที่กฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือเท่านั้น
สัญญาประนีประนอมที่ทำกันก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 3 นั้น ในขณะนั้นไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือฉะนั้นแม้จะได้ทำเป็นหนังสือไว้แล้วก็ย่อมนำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าคู่กรณีได้ตกลงแก้ไขสัญญาประนีประนอมนั้นเสียใหม่แล้วด้วยสัญญาปากเปล่าได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งเอกสารอุทธรณ์ ถือเป็นการทิ้งฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งให้นำส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ใน 15 วันแต่คู่ความฝ่ายอุทธรณ์ไม่ทำการนำส่งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรแล้ว ย่อมถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์
of 219