พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งเอกสารอุทธรณ์ ถือเป็นการทิ้งฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งให้นำส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ใน 15 วันแต่คู่ความฝ่ายอุทธรณ์ไม่ทำการนำส่งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรแล้ว ย่อมถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สินของบุคคลที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญ
บทบัญญัติมาตรา 13 ทวิ(1) แห่ง พ.ร.บ.สำรวจ และห้ามกักกันข้าว พ.ศ.2489 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2489 มาตรา 6 เฉพาะที่ให้ริบทรัพย์ของบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยนั้น เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 29 และบทบัญญัติโดยเฉพาะดังกล่าวนี้จึงใช้บังคับมิได้ตามความในมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์ของบุคคลที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญ
บทบัญญัติมาตรา 13 ทวิ(1) แห่ง พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ.2489 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2489 มาตรา 6 เฉพาะที่ให้ริบทรัพย์ของบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยนั้นเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 29 และบทบัญญัติโดยเฉพาะดังกล่าวนี้จึงใช้บังคับมิได้ตามความในมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาที่ขาดรายละเอียดการกระทำความผิด ศาลไม่สามารถลงโทษฐานทำร้ายร่างกายได้
โจทก์บรรยายว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 5 ถึงที่ 10 อีกฝ่ายหนึ่งต่างมีสาตราวุธ วิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง และในการวิวาทต่อสู้กันนี้ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ได้สมคบกันทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 5 ที่ 6 ถึงบาดเจ็บและจำเลยที่ 5 ถึงที่ 10 ได้สมคบกันทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 ที่ 2 ถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254,335(6) ดังนี้ฟ้องในตอนหลังที่กล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายนั้น มิได้บรรยายรายละเอียดว่าคนไหนทำคนไหนให้ชัดแจ้ง ย่อมถือได้เพียงว่าจำเลยวิวาทกันถึงแก่มีบาดเจ็บเท่านั้น ศาลจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใต้ พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร: การออกข้อกำหนดที่เกินขอบเขตและกระทบสิทธิการประกอบอาชีพ
พนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้น หามีอำนาจที่จะสั่งการวางระเบียบการแก่บุคคลภายนอก อันถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาอย่างใดไม่
ประกาศขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกาศให้ผู้ขายปลีกเนื้อหมูชำแหละมาจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าภายในกำหนด 15 วัน หากผู้ใดมิได้มาจดทะเบียนภายในกำหนดทำการจำหน่ายปลีกเนื้อหมูชำแหละในเขตเทศบาลกรุงเทพฯไม่ได้ ดังนี้ เมื่อพ้นกำหนดตามประกาศแล้ว บุคคลที่ต้องการประกอบอาชีพชะนิดนั้น ไม่มีทางที่จะทำการได้ เป็นการสงวนอาชีพไว้แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับจดทะเบียนไว้แล้วในระหว่างเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น จึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากการป้องกันการค้ากำไรเกินควรประกาศเช่นนี้ จึงย่อมไม่มีผลบังคับได้ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร
ประกาศขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกาศให้ผู้ขายปลีกเนื้อหมูชำแหละมาจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าภายในกำหนด 15 วัน หากผู้ใดมิได้มาจดทะเบียนภายในกำหนดทำการจำหน่ายปลีกเนื้อหมูชำแหละในเขตเทศบาลกรุงเทพฯไม่ได้ ดังนี้ เมื่อพ้นกำหนดตามประกาศแล้ว บุคคลที่ต้องการประกอบอาชีพชะนิดนั้น ไม่มีทางที่จะทำการได้ เป็นการสงวนอาชีพไว้แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับจดทะเบียนไว้แล้วในระหว่างเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น จึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากการป้องกันการค้ากำไรเกินควรประกาศเช่นนี้ จึงย่อมไม่มีผลบังคับได้ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร และผลของประกาศที่เกินอำนาจ
พนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร นั้นหามีอำนาจที่จะสั่งการวางระเบียบการแก่บุคคลภายนอกอันถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาอย่างใดไม่
ประกาศขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้ขายปลีกเนื้อหมูชำแหละมาจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าภายในกำหนด15 วันหากผู้ใดมิได้มาจดทะเบียนภายในกำหนดจะทำการจำหน่ายปลีกเนื้อหมูชำแหละในเขตเทศบาลกรุงเทพฯไม่ได้ดังนี้ เมื่อพ้นกำหนดตามประกาศแล้วบุคคลที่ต้องการประกอบอาชีพชนิดนั้นไม่มีทางที่จะทำการได้เป็นการสงวนอาชีพไว้แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับจดทะเบียนไว้แล้วในระหว่างเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้นจึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากการป้องกันการค้ากำไรเกินควรประกาศเช่นนี้จึงย่อมไม่มีผลบังคับได้ตาม พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร
ประกาศขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้ขายปลีกเนื้อหมูชำแหละมาจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าภายในกำหนด15 วันหากผู้ใดมิได้มาจดทะเบียนภายในกำหนดจะทำการจำหน่ายปลีกเนื้อหมูชำแหละในเขตเทศบาลกรุงเทพฯไม่ได้ดังนี้ เมื่อพ้นกำหนดตามประกาศแล้วบุคคลที่ต้องการประกอบอาชีพชนิดนั้นไม่มีทางที่จะทำการได้เป็นการสงวนอาชีพไว้แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับจดทะเบียนไว้แล้วในระหว่างเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้นจึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากการป้องกันการค้ากำไรเกินควรประกาศเช่นนี้จึงย่อมไม่มีผลบังคับได้ตาม พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: สิทธิในการรับมรดก การรับรองโดยพฤติการณ์ย่อมเพียงพอ
บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วไม่จำจะต้องเป็นการรับรองในทางจดทะเบียนรับรองบุตร การรับรองโดยกิริยาความประพฤติเป็นที่เปิดเผย ก็ย่อมเพียงพอให้บุตรนอกกฎหมายนั้นมีสิทธิรับมรดกเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายได้
(อ้างฎีกาที่ 446/2493)
(อ้างฎีกาที่ 446/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมายด้วยกิริยาความประพฤติมีผลทางมรดก
บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว ไม่จำจะต้องเป็นการรับรองในทางจดทะเบียนรับรองบุตร การรับรองโดยกิริยาความประพฤติเป็นที่เปิดเผย ก็ย่อมเพียงพอให้บุตรนอกกฎหมายนั้นมีสิทธิรับมรดกเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายได้ (อ้างฎีกาที่ 446/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าเพื่อเก็บรถยนต์และให้คนใช้อยู่อาศัย ไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ หากผู้เช่ามีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
เช่าห้องไว้เพื่อเป็นที่เก็บรถยนต์และให้คนใช้อยู่อาศัย โดยผู้เช่ามีบ้านของตนเองเป็นที่อยู่อาศัยต่างหากแล้ว ดังนี้ ห้องที่เช่าย่อมมิใช่ "เคหะ" ตามความหมายใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ การเช่ารายนี้ จึงไม่อยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้องเช่าเพื่อเก็บรถและอยู่อาศัย ไม่ใช่ 'เคหะ' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
เช่าห้องไว้เพื่อเป็นที่เก็บรถยนต์และให้คนใช้อยู่อาศัย โดยผู้เช่ามีบ้านของตนเองเป็นที่อยู่อาศัยต่างหากแล้วดังนี้ ห้องที่เช่าย่อมมิใช่ 'เคหะ' ตามความหมาย ใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯการเช่ารายนี้จึงไม่อยู่ในความคุ้มครองของพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ