คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปรีชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำนาในที่พิพาทโดยผู้ซื้อที่ไม่สุจริต ถือเป็นการละเมิดสิทธิเจ้าของเดิม แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ชนะคดีก่อน
แม้จะปรากฏว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชนะคดีจำเลยจึงเข้าทำนาพิพาทก็ตาม เมื่อในชั้นที่สุดศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์แต่เดิมมา จำเลยรับซื้อไว้จากผู้มีชื่อโดยไม่สุจริต และคดีถึงที่สุดแล้วดังนี้ ก็เป็นอันว่าจำเลยไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาทแต่ประการใด ที่พิพาทคงเป็นของโจทก์ตลอดมา ฉะนั้นการที่จำเลยเข้าทำนาพิพาทโดยพลการของจำเลยเองจึงเป็นการทำละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ในนาพิพาท โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1806/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาจริงของสัญญาเช่าสำคัญกว่าข้อความในสัญญา หากผู้เช่าใช้เพื่ออยู่อาศัย แม้สัญญาจะระบุว่าเพื่อการค้า
แม้สัญญาเช่าจะมีข้อความชัดเจนว่า เช่าเพื่อประกอบการค้าแต่อย่างเดียวไม่ใช่เป็นที่อยู่อาศัย เมื่อผู้เช่าต่อสู้ว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัยมิได้ประกอบการค้าและเช่ามานานแล้ว ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ดังนี้ผู้เช่าย่อมนำสืบตามข้อต่อสู้นี้ได้, เพราะศาลจำต้องพิเคราะห์ถึงเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีและความจริงที่ที่ผู้เช่าปฏิบัติประกอบด้วย
จำเลยเช่าตึกแถวอยู่อาศัยหาได้ทำการค้าไม่ เมื่อหมดอายุสัญญาเดิม โจทก์ทำสัญญาเช่าใหม่เติมข้อความว่าเช่าเพื่อประกอบการค้าแต่อย่างเดียวไม่ใช่เป็นที่อยู่อาศัยโดยอ้างว่าเป็น ธรรมเนียมของโจทก์ที่จะกรอกข้อความเช่นนี้ทุกราย,เมื่อจำเลยเซ็นแล้ว ก็คงใช้ตึกห้องที่เช่านี้อยู่อาศัยเช่นเดิมหาได้ใช้ทำการค้าไม่ดังนี้เห็นได้ว่าการเติมข้อความนั้นลงก็เพื่อเลี่ยง กฎหมายเท่านั้นจึงต้องบังคับตามความจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1806/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาที่แท้จริงของคู่สัญญาสำคัญกว่าข้อตกลงในสัญญาเช่า แม้สัญญาจะระบุวัตถุประสงค์ใช้เช่าเป็นอย่างอื่น
แม้สัญญาเช่าจะมีข้อความชัดเจนว่า เช่าเพื่อประกอบการค้าแต่อย่างเดียวไม่ใช่เป็นที่อยู่อาศัย เมื่อผู้เช่าต่อสู้ว่า เช่าเพื่ออยู่อาศัยมิได้ประกอบการค้าและเช่ามานานแล้ว ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ ดังนี้ ผู้เช่าย่อมนำสืบตามข้อต่อสู้นี้ได้ เพราะศาลจำต้องพิเคราะห์ถึงเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีและความจริงที่ที่ผู้เช่าปฏิบัติประกอบด้วย
จำเลยเช่าตึกแถวอยู่อาศัยหาได้ทำการค้าไม่ เมื่อหมดอายุสัญญาเดิม โจทก์ทำสัญญาเช่าใหม่ เติมข้อความว่าเช่าเพื่อประกอบการค้าแต่อย่างเดียวไม่ใช่เป็นที่อยู่อาศัย โดยอ้างว่าเป็นธรรมเนียมของโจทก์ที่จะกรอกข้อความเช่นนี้ทุกราย เมื่อจำเลยเซ็นแล้ว ก็คงใช้ตึกห้องที่เช่านี้อยู่อาศัยเช่นเดิม หาได้ใช้ทำการค้าไม่ ดังนี้เห็นได้ว่าการเติมข้อความนั้นลง ก็เพื่อเลี่ยงกฎหมายเท่านั้น จึงต้องบังคับตามความจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความความผิดฐานลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์จากข้อความในฟ้อง การลงโทษตามความผิดที่ระบุในฟ้อง
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ลักเอาทรัพย์สิ่งของของโจทก์ซึ่งมีผู้ฝากจำเลยมาให้โจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 288 แม้จะมีคำว่า ลักและมีคำขอให้ลงโทษตามมาตรา 288 ก็ตาม แต่ข้อความในฟ้องย่อมมีความหมายว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 314 ฉะนั้นโจทก์จะฎีกาขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำแนกความผิดฐานลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์ พิจารณาจากข้อความในฟ้อง
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ลักเอาทรัพย์สิ่งของของโจทก์ ซึ่งมีผู้ฝากจำเลยมา ให้โจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 288 แม้จะมีคำว่า ลัก และมีคำขอให้ลงโทษตามมาตรา 288 ก็ตาม แต่ข้อความในฟ้องย่อมมีความหมายว่าจำเลยกระทำผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314ฉะนั้นโจทก์จะฎีกาขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1791/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าพื้นที่เพื่อประกอบธุรกิจไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้ไม่เสียภาษีการค้า
เช่าตึกแถวเพื่อตั้งโต๊ะบิลเลียดเก็บค่าเกม มิใช่เพื่ออยู่อาศัย ย่อมถือว่าเช่าเพื่อประกอบธุรกิจ หาประโยชน์รายได้ แม้การที่ตั้งโต๊ะบิลเลียดเก็บค่าเกมจากผู้เล่นจะเป็นการค้าชนิดที่ไม่ต้องเสียภาษีการค้า ก็ไม่ทำให้ผู้เช่าได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1791/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช่าสถานที่เพื่อประกอบธุรกิจย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้ไม่เสียภาษี
เช่าตึกแถวเพื่อตั้งโต๊ะบิลเลียดเก็บค่าเกม มิใช่เพื่ออยู่อาศัยย่อมถือว่าเช่าเพื่อประกอบธุระกิจ หาประโยชน์รายได้แม้การที่ตั้งโต๊ะบิลเลียดเก็บค่าเกมจากผู้เล่นจะเป็นการค้าชนิดที่ไม่ต้องเสียภาษีการค้า ก็ไม่ทำให้ผู้เช่าได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1790/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การระบุสถานที่เกิดเหตุเพียงตำบล อำเภอ จังหวัด เพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 336โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลย ตัดฟันต้นไม้ล้มทับทางหลวงทิ้งไว้ซึ่งเป็นการปราศจากความสะดวกสบายและขัดข้องแก่ความสะดวกในการสัญจรไปมาของสาธารณะชน โดยได้ระบุตำบล อำเภอจังหวัดที่เกิดเหตุไว้ เช่นนี้ ก็ถือได้ว่าโจทก์ได้บรรยายพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1790/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การบรรยายสถานที่เกิดเหตุเพียงตำบล อำเภอ จังหวัด เพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 336 โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยตัดฟันไม้ล้มทับทางหลวงทิ้งไว้ซึ่งเป็นการปราศจากความสดวกสบายและขัดข้องแก่ความ สดวกในการสัญจรไปมาของสาธารณะชน โดยได้ระบุตำบล อำเภอ จังหวัดที่เกิดเหตุไว้เช่นนี้ ก็ถือได้ว่าโจทก์ได้บรรยายพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามพินัยกรรมที่มีเงื่อนไข และผลเมื่อผู้รับตามพินัยกรรมถึงแก่กรรมก่อนปฏิบัติตามเงื่อนไข
พินัยกรรมมีข้อความระบุไว้ว่า ให้นาแปลงหนึ่งแก่ผู้รับ2 คนคนละครึ่ง แต่มีเงื่อนไขว่าให้ผู้รับคนหนึ่งให้เงินแก่ผู้รับคนที่ 2 เป็นเงิน 200 บาท ถ้าผู้รับคนที่หนึ่งไม่ให้เงิน 200 แก่ผู้รับคนที่ 2 ก็ให้นาแปลงนี้เป็นของผู้รับคนที่ 2 คนเดียว ดังนี้ ถ้าผู้รับคนที่ 1 ตายเสียก่อนผู้ทำพินัยกรรม ผู้รับคนที่ 1 ก็ไม่ได้ชำระเงิน 200 บาท เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้รับคนที่ 2 ก็ไม่มีโอกาสจะได้รับส่วนครึ่งหนึ่งของผู้รับคนที่หนึ่งตามเงื่อนไขนั้นได้
of 219