คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปรีชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินเป็นทางหลวงโดยปริยายจากการเปิดให้ประชาชนใช้สัญจร และการรุกล้ำทางหลวง
การอุทิศที่ดินให้เป็นทางหลวงนั้น จะอุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายก็ได้ และที่จะเป็นทางหลวง ก็หาจำต้องมีทะเบียนอะไรไม่
จำเลยได้ยุบทางเก่ามาเป็นของจำเลยแล้วทำทางใหม่ขึ้นแทนให้ประชาชนได้ใช้สัญจรมากว่า 10 ปี ย่อมเป็นการอุทิศให้เป็นทางหลวงโดยปริยายแล้ว เมื่อไปปลูกโรงเรือนล้ำทางนี้เข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 336(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของที่ดินฟ้องรังวัดเพื่อออกโฉนดให้ผู้อื่น แม้เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ผู้มีกรรมสิทธิหรือมีสิทธิครอบครองที่ดิน ย่อมมีสิทธิฟ้องผู้ที่นำเจ้าพนักงานที่ดินมารังวัดที่นั้นเพื่อออกโฉนดให้เป็นของผู้อื่นเป็นจำเลย โดยฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิหรือสิทธิครอบครองที่นั้นและห้ามมิให้มารบกวนการครอบครองที่นั้นได้ แม้ว่าจำเลยจะกระทำไปตามหน้าที่ราชการและอาศัยสิทธิของบุคคลที่ 3 ก็ดี ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะเรียกบุคคลที่ 3 ซึ่งจำเลยอาศัยสิทธินั้นเข้ามาในคดี,หาใช่เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องฟ้องบุคคลที่ 3 ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับโจทก์นั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของที่ดินฟ้องร้องการรังวัดเพื่อออกโฉนดให้ผู้อื่น แม้เจ้าพนักงานทำตามหน้าที่
ผู้มีกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครองที่ดิน ย่อมมีสิทธิฟ้องผู้ที่นำเจ้าพนักงานที่ดินมารังวัดที่นั้นเพื่อออกโฉนดให้เป็นของผู้อื่นเป็นจำเลยโดยฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่นั้น และห้ามมิให้มารบกวนการครอบครองที่นั้นได้ แม้ว่าจำเลยจะกระทำไปตามหน้าที่ราชการและอาศัยสิทธิของบุคคลที่ 3 ก็ดี ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะเรียกบุคคลที่ 3 ซึ่งจำเลยอาศัยสิทธินั้นเข้ามาในคดี หาใช่เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องฟ้องบุคคลที่ 3 ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับโจทก์นั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ขัดแย้งกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น กรณีสัญญาจะซื้อขายที่ดินซ้ำซ้อน
เจ้าของที่ดินทำสัญญาจะขายที่ดินแก่ผู้ซื้อคน 1 แล้วกลับไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้ซื้ออีกคนหนึ่งอีก ผู้ซื้อทั้ง 2 ต่างเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าของคนละสำนวน ขอให้ศาลบังคับให้เจ้าของผู้เป็นจำเลยโอนที่ดินรายเดียวกันนั้นให้แก่ตนตามสัญญา ศาลชั้นต้นได้รวมพิจารณาคดี 2 สำนวนด้วยกัน สืบพยานรวมกันมาเป็นเรื่องเดียวกัน แล้วพิพากษาให้เจ้าของโอนที่ให้แก่ผู้ซื้อคนหลังและยกฟ้องผู้ซื้อคนแรกนั้นเสียผู้ซื้อคนแรกอุทธรณ์ฝ่ายเดียว ศาลอุทธณ์ก็ได้พิพากษากลับให้จำเลยโอนที่ดินแก่ผู้ซื้อคนแรก ดังนี้ ก็เท่ากับได้วินิจฉัยชี้ขาด กรณีพิพาทระหว่างผู้ซื้อคนหลังผู้ซื้อคนแรก และผู้ขาย โดยรวมกันไปเสร็จสิ้นแล้วคงอยู่แต่ชั้นบังคับคดีซึ่งต้องให้เป็นผลไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินซ้ำซ้อน ศาลรวมพิจารณาคดีและวินิจฉัยสิทธิของผู้ซื้อทั้งสอง
เจ้าของที่ดินทำสัญญาจะขายที่ดินแก่ผู้ซื้อคนหนึ่ง แล้วกลับไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้ซื้ออีกคนหนึ่งอีก ผู้ซื้อทั้ง 2 ต่างเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าของคนละสำนวน ขอให้ศาลบังคับให้เจ้าของผู้เป็นจำเลยโอนที่ดินรายเดียวกันนั้นให้แก่ตนตามสัญญา ศาลชั้นต้นได้รวมพิจารณาคดี 2 สำนวนด้วยกัน สืบพยานรวมกันมาเป็นเรื่องเดียวกัน แล้วพิพากษาให้เจ้าของโอนที่ให้แก่ผู้ซื้อคนหลัง และยกฟ้องผู้ซื้อคนแรกนั้นเสีย ผู้ซื้อคนแรกอุทธรณ์ฝ่ายเดียวศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษากลับให้จำเลยโอนที่ดินแก่ผู้ซื้อคนแรก ดังนี้ ก็เท่ากับได้วินิจฉัยชี้ขาดกรณีพิพาทระหว่างผู้ซื้อคนหลัง ผู้ซื้อคนแรก และผู้ขาย โดยรวมกันไปเสร็จสิ้นแล้ว คงอยู่แต่ชั้นบังคับคดีซึ่งต้องให้เป็นผลไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จโดยสุจริต: จำเลยเชื่อว่าข้อความที่แจ้งเป็นความจริง จึงไม่มีความผิด
ความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118นั้น มีหลักเกณฑ์สำคัญอยู่ประการหนึ่งว่าผู้แจ้งได้รู้อยู่แล้วว่า ความที่เอาไปแจ้งนั้นเป็นความเท็จ ฉะนั้นเมื่อจำเลยเอาความไปแจ้งแก่เจ้าพนักงาน ตามที่จำเลยเชื่อว่าเป็นความจริงแล้ว จำเลยก็ไม่มีความผิดตามมาตรา118

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาซื้อขายไม้ซุงที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดนิติสัมพันธ์สัญญาซื้อขาย
ทำหนังสือขอซื้อไม้ซุงสักยื่นต่อโรงงานเลื่อยไม้ แม่กองขายของโรงงานได้บันทึกความเห็นลงไปว่าสมควรขายให้ในราคาเท่าใดแล้วเสนอผู้อำนวยการ ๆ บันทึกว่าอนุญาตให้ขายได้ตามที่แม่องขายเสนอมา ดังนี้ คำสั่งของผู้อำนวยการนี้เป็นเพียงคำสั่งภายในถึงคนขายของตน ให้ขายสิ่งของตามราคาที่ว่านั้นได้ หาได้มีการแสดงเจตนาถึงผู้จะซื้ออย่างไรไม่ จึงไม่ทำให้เกิดนิติสัมพันธ์ เป็นสัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาซื้อขายขึ้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาซื้อขายไม้ซุง: คำสั่งภายในโรงงานเลื่อยไม้ไม่ใช่สัญญาซื้อขาย
ทำหนังสือขอซื้อไม้ซุงสักยื่นต่อโรงงานเลื่อยไม้ แม่กองขายของโรงงานได้บันทึกความเห็นลงไปว่าสมควรขายให้ในราคาเท่าใดแล้วเสนอผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการบันทึกว่าอนุญาตให้ขายได้ตามที่แม่กองขายเสนอมา ดังนี้ คำสั่งของผู้อำนวยการนี้เป็นเพียงคำสั่งภายในถึงคนขายของตนให้ขายสิ่งของตามราคาที่ว่านั้นได้ หาได้มีการแสดงเจตนาถึงผู้จะซื้ออย่างไรไม่ จึงไม่ทำให้เกิดนิติสัมพันธ์ เป็นสัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาซื้อขายขึ้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกลงท้ากันในประเด็นเขตที่ดิน: โจทก์เปลี่ยนประเด็นไม่ได้หากการรังวัดเป็นไปตามที่ตกลง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบุกรุกปลูกต้นกล้วยในที่ดิน อันอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่า ที่ตรงนั้นเป็นของจำเลยและอยู่นอกเขตโฉนดของโจทก์ โจทก์จำเลยจึงตกลงตั้งประเด็นท้ากันโดยให้เจ้าพนักงานที่ดิน ไปรังวัดสอบเขตถ้าต้นกล้วยอยู่นอกเขตโฉนดของโจทก์ โจทก์ยอมแพ้ ถ้าอยู่ในโฉนด จำเลยยอมแพ้ เจ้าพนักงานไปรังวัดทำแผนที่มาส่งศาล ปรากฏว่าต้นกล้วยอยู่นอกเขตโฉนดของโจทก์ดังนี้ โจทก์จะขอสืบพยานในข้อครอบครองต่อไปไม่ได้ เพราะเป็นการเปลี่ยนประเด็นตามที่ตกลงท้ากัน
ในกรณีข้างต้น โจทก์จะเปลี่ยนประเด็นได้ ก็ต้องได้ความว่า เจ้าพนักงานไม่สามารถรังวัดได้ตามที่ท้ากัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกลงท้ากันทางศาล: โจทก์เปลี่ยนประเด็นไม่ได้หากการรังวัดเป็นไปตามที่ตกลง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบุกรุกปลูกต้นกล้วยในที่ดิน อันอยู่ในเขตต์โฉนดของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าที่ตรงนั้นเป็นของจำเลยและอยู่นอกเขตต์โฉนดของโจทก์ โจทก์จำเลยจึงตกลงตั้งประเด็นท้ากัน โดยให้เจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดสอบเขตต์ ถ้าต้นกล้วยอยู่นอกเขตต์โฉนดของโจทก์ ๆ ยอมแพ้ถ้าอยู่ในโฉนด จำเลยยอมแพ้ เจ้าพนักงานไปรังวัดทำแผนที่มาส่งศาล ปรากฎว่าต้นกล้วยอยู่นอกเขตต์โฉนดของโจทก์ ดังนี้โจทก์จะขอสืบพยานในข้อครอบครองต่อไปไม่ได้ เพราะเป็นการเปลี่ยนประเด็นตามที่ตกลงท้ากัน
ในกรณีข้างต้น โจทก์จะเปลี่ยนประเด็นได้ก็ต้องได้ความว่า เจ้าพนักงานไม่สามารถรังวัดได้ตามที่ท้ากัน
of 219