คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปรีชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมีทุนทรัพย์พิพาท: การโต้แย้งกรรมสิทธิในทรัพย์สินที่ขายฝากเกินอำนาจศาลแขวง
ฟ้องว่า ภรรยาเอาสินบริคณห์ไปขายฝากไว้แก่จำเลยเป็นเงิน 8000 บาท แล้วโอนหลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอม จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากและการโอนเสีย จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่สามี ทรัพย์พิพาทเป็นของหญิงผู้เดียว ดังนี้ถือว่าเป็นฟ้องคดีมีทุนทรัพย์พิพาทกันมีราคา 8000 บาท ไม่ใช่คดีไม่มีทุนทรัพย์
ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาคดีเกินอำนาจศาลแขวง, ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงให้คืนฟ้องโจทก์ไปเพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตตอำนาจ และคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์จำเลยนั้น ศาลฎีกาพิพากษายืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์บ้านที่ขายฝากเกินอำนาจศาลแขวง: คดีมีทุนทรัพย์
ฟ้องว่า ภรรยาเอาสินบริคณห์ไปขายฝากไว้แก่จำเลยเป็นเงิน 8,000 บาท แล้วโอนหลุดเป็นสิทธิแก่จำเลย โดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอม จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝาก และการโอนเสีย จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่สามี ทรัพย์พิพาทเป็นของหญิงผู้เดียว ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องคดีมีทุนทรัพย์พิพาทกันมีราคา8,000 บาท ไม่ใช่คดีไม่มีทุนทรัพย์
ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาคดีเกินอำนาจศาลแขวง ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงให้คืนฟ้องโจทก์ไปเพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจ และคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์จำเลยนั้น ศาลฎีกาพิพากษายืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบสวนคดีอาญา: การสอบถามข้อเท็จจริงเฉพาะเจาะจงไม่ถือว่าการสอบสวนเสียไป
การที่กฎหมายบัญญัติให้มีการสอบสวนเสียก่อนที่พนักงานอัยการนำคดีขึ้นฟ้องร้องนั้น ก็เพื่อประสงค์จะมิให้มีการฟ้องร้องกันง่าย ๆ ปราศจากหลักฐานเพราะจะเป็นการเดือดร้อนแก่จำเลย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยนำสุกรออกนอกเขตโดยไม่ได้รับอนุญาตและทราบประกาศแล้ว จำเลยรับว่าได้นำสุกรออกนอกเขตและได้ทราบประกาศแล้วจริง แต่สู้ว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนในข้อที่จำเลยได้ทราบประกาศหรือไม่ แม้คดีจะได้ความว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนข้อที่จำเลยทราบประกาศหรือไม่ ก็ยังถือได้ว่าได้มีการสอบสวนแล้ว และไม่เป็นเหตุที่จะให้ถือว่าการสอบสวนนั้นเสียไปแต่อย่างใด หรือจะถือว่าโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้ทำการสอบสวนก็ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบสวนคดีอาญา: ความสมบูรณ์ของการสอบสวนและการรับคำให้การของจำเลย
การที่กฎหมายบัญญัติให้มีการสอบสวนเสียก่อนที่พนักงานอัยการนำคดีขึ้นฟ้องร้องนั้น ก็เพื่อประสงค์จะมิให้มีการฟ้องร้องกันง่ายๆ ปราศจากหลักฐานเพราะจะเป็นการเดือดร้อนแก่จำเลย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยนำสุกรออกนอกเขตโดยไม่ได้รับอนุญาตและทราบประกาศแล้ว จำเลยรับว่าได้นำสุกรออกนอกเขตและได้ทราบประกาศแล้วจริง แต่สู้ว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนในข้อที่จำเลยได้ทราบประกาศหรือไม่ แม้คดีจะได้ความว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนข้อที่จำเลยทราบประกาศหรือไม่ ก็ยังถือได้ว่าได้มีการสอบสวนแล้ว และไม่เป็นเหตุที่จะให้ถือว่าการสอบสวนนั้นเสียไปแต่อย่างใด หรือจะถือว่าโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้ทำการสอบสวนก็ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณระยะเวลาจำคุก: ใช้สุริยคติหรือ 30 วันต่อเดือน
การคำนวณกำหนดโทษจำคุกนั้น กฎหมายลักษณะอาญาได้บัญญัติไว้ชัดเจนแล้วว่าเมื่อคำนวณระยะเวลาเป็นปี ก็ต้องคิดเวลา 12 เดือนตามสุริยคติกาลดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 ข้อ 22 ถ้าต้องคิดระยะเวลาเป็นเดือนก็ต้องคิด 30วันเป็นหนึ่งเดือนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณระยะเวลาจำคุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญา: ใช้ปีสุริยคติ หรือ 30 วันต่อเดือน
การคำนวณกำหนดโทษจำคุกนั้น ก.ม.ลักษณะอาญาได้บัญญัติไว้ชัดเจนแล้วว่าเมื่อคำนวณระยะเวลาเป็นปี ก็ต้องคิดเวลา 12 เดือนตามสุริยคติกาลดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 ข้อ 22 ถ้าต้องคิดระยะเวลาเป็นเดือนก็ต้องคิด 30 วันเป็นหนึ่งเดือนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องข้อหาเดิม โจทก์ไม่อาจฎีกาขอลงโทษในข้อหาเดิมได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ศาลชั้นต้นลงโทษตามมาตรา 254 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา 251 ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อที่ให้ยกข้อหาของโจทก์ในฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 แล้วโจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้เพราะต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219
(อ้างฎีกา 773/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดในการฎีกาขอโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นที่ยกข้อหา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ศาลชั้นต้นลงโทษ ตามมาตรา254 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา 251 ดังนี้ถือว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อที่ให้ยกข้อหาของโจทก์ในฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249แล้ว โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 (อ้างฎีกา773/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายสุกรข้ามจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานพยายาม
นำสุกรออกนอกเขตจังหวัดภาคเหนือโดยทางรถไฟ จะไปยังจังหวัดพระนครซึ่งเป็นจังหวัดภาคกลาง อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร และฝ่าฝืนประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการเรื่องกำหนดเส้นทางให้พาสัตว์ที่จะเดินทางเข้าไปในท้องที่จังหวัดภาคกลางนั้น เมื่อถูกจับในขณะที่ควบคุมสุกรขึ้นบรรทุกตู้รถไฟที่สถานีต้นทางก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนขบวนจากสถานีต้นทาง เพื่อไปสถานีปลายทาง ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 8,17 พ.ร.บ.โรคระบาดปสุสัตว์และสัตว์พาหนะ2474 มาตรา 10,16 ฐานพยายาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งสุกรข้ามเขตจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานพยายาม
นำสุกรออกนอกเขตจังหวัดภาคเหนือโดยทางรถไฟ จะไปยังจังหวัดพระนครซึ่งเป็นจังหวัดภาคกลาง อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร และฝ่าฝืนประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรธิการเรื่อง กำหนดเส้นทางให้พาสัตว์ที่จะเดินทางเข้าไปในท้องที่จังหวัดภาคกลางนั้น เมื่อถูกจับในขณะที่ควบคุมสุกรขึ้นบรรทุกตู้รถไฟที่สถานีต้นทางก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนขบวนจากสถานีต้นทางเพื่อ ไปสถานีปลายทาง ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. 2490 มาตรา 8, 17, พ.ร.บ.โรคระบาดปสุสัตว์และพาหนะ 2474 มาตรา 10, 16 ฐานพยายาม
of 219