พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังอาจเข้ายึดครอง vs. การเช่า - การพิจารณาข้อเท็จจริงและสิทธิการเช่าควบคู่กัน
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าไปอยู่ในห้องเช่าของโจทก์แล้ว ไม่ยอมออก ขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่า เช่าจากโจทก์ไม่ได้ผิดสัญญา เมื่อตัวโจทก์มาเบิกความว่าจำเลยขออยู่ในห้องชั่วคราว แล้วไม่ยอมออก ดังนี้จะว่าไม่บังอาจเพราะจำเลยเข้าอยู่โดยรับอนุญาตจากโจทก์และยกฟ้องเสียนั้นยังไม่ถนัด จำต้องพิจารณาตลอดถึงสิทธิแห่งการเช่าที่จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักเงินประกันผิดสัญญาจากค่าเสียหาย: ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้หักเงินประกัน 3,500 บาทออกจากค่าเสียหายที่โจทก์ต้องชดใช้
คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งวางเงินประกันในการผิดสัญญาไว้แล้วเกิดผิดสัญญาขึ้น ทำให้อีกฝ่ายหนึงเสียหายเมื่อฝ่ายนั้นจะริบเงินที่วางประกัน ก็ต้องหักเงินจำนวนที่ริบไว้จากค่าเสียหายที่จะให้ฝ่ายผิดสัญญาใช้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักเงินประกันความเสียหาย: ค่าเสียหายต้องหักเงินวางประกันก่อน
คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งวางเงินประกันในการผิดสัญญาไว้แล้วเกิดผิดสัญญาขึ้น ทำให้อีกฝ่ายหนึ่ง เสียหาย เมื่อฝ่ายนั้นจะริบเงินที่วางประกัน ก็ต้องหักเงินจำนวนที่ริบไว้จากค่าเสียหายที่จะให้ฝ่ายผิดสัญญาใช้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องห้ามปรามเมื่อจำเลยอ้างสิทธิในฐานะผู้รับโอนจากบุคคลอื่น แม้ไม่มีการจดทะเบียนสมรส
โจทก์ฟ้องว่า นาพิพาทเป็นของโจทก์ ครอบครองมาจำเลยไปขอจดทะเบียน ออกโฉนดว่าเป็นที่ของผู้อื่น ขอให้ห้าม จำเลยต่อสู้ว่าเป็นนาของภริยาจำเลยครอบครองมาไม่ใช่นาของโจทก์ ดังนี้แม้จะปรากฏว่าจำเลยกับภริยาสมรสกันโดยมิได้จดทะเบียน จำเลยก็อาจอ้างอำนาจของคนที่ 3 เป็นข้อต่อสู้ของโจทก์ได้เพราะถ้าข้อเท็จจริงฟังได้สมข้อต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของภริยาจำเลย ไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ก็ไม่มีอำนาจที่จะห้ามจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทรัพย์สินที่ถูกลักมาโดยสุจริต ผู้ซื้อไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าของเดิมหากทรัพย์สินเปลี่ยนมือไปแล้ว
สิ่งของที่คนร้ายลักมาขายไว้ที่ร้านแห่งหนึ่ง แม้ร้านนั้นจะไม่ได้อยู่ในท้องตลาดก็ดีเมื่อผู้ซื้อได้ซื้อสิ่งของนั้นจากร้านนั้นโดยสุจริต แล้วขายต่อไปโดยสุจริตดังนี้ยังเรียกว่าผู้ซื้อทำละเมิดต่อเจ้าของสิ่งของนั้นมิได้
การที่ผู้ซื้อรับซื้อสิ่งของนั้นจากร้าน ซึ่งไม่ได้อยู่ในท้องตลาด ถ้าทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อ ก.ม.ก็ให้เจ้าของใช้สิทธิติดตามเรียกเอาคืนได้โดยไม่ต้องใช้ราคาแต่เมื่อผู้รับซื้อ ซื้อไว้โดยสุจริตแล้วขายต่อไปแล้วโดยสุจริตสิ่งของนั้นจึงไม่ได้อยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อแล้ว เจ้าของก็จะเรียกให้ผู้รับซื้อชดใช้ราคาสิ่งของนั้นให้ตนไม่ได้
(ประชุมใหญ่)
การที่ผู้ซื้อรับซื้อสิ่งของนั้นจากร้าน ซึ่งไม่ได้อยู่ในท้องตลาด ถ้าทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อ ก.ม.ก็ให้เจ้าของใช้สิทธิติดตามเรียกเอาคืนได้โดยไม่ต้องใช้ราคาแต่เมื่อผู้รับซื้อ ซื้อไว้โดยสุจริตแล้วขายต่อไปแล้วโดยสุจริตสิ่งของนั้นจึงไม่ได้อยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อแล้ว เจ้าของก็จะเรียกให้ผู้รับซื้อชดใช้ราคาสิ่งของนั้นให้ตนไม่ได้
(ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทรัพย์สินที่ถูกลักมาโดยสุจริต: สิทธิเรียกร้องของเจ้าของ
สิ่งของที่คนร้ายลักมาขายไว้ที่ร้านแห่งหนึ่ง แม้ร้านนั้นจะไม่ได้อยู่ในท้องตลาดก็ดี เมื่อผู้ซื้อได้ซื้อสิ่งของนั้นจากร้านนั้นโดยสุจริต แล้วขายต่อไป โดยสุจริต ดังนี้ ยังเรียกว่าผู้ซื้อทำละเมิดต่อเจ้าของสิ่งของนั้นมิได้
การที่ผู้ซื้อรับซื้อสิ่งของนั้นจากร้าน ซึ่งไม่ได้อยู่ในท้องตลาด ถ้าทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อ กฎหมายก็ให้เจ้าของใช้สิทธิติดตามเรียกเอาคืนได้โดยไม่ต้องใช้ราคา แต่เมื่อผู้รับซื้อ ซื้อไว้โดยสุจริตแล้วขายต่อไปแล้วโดยสุจริต สิ่งของนั้นจึงไม่ได้อยู่ในความครอบครองของผู้รับซื้อแล้ว เจ้าของก็จะเรียกให้ผู้รับซื้อชดใช้ราคาสิ่งของนั้นให้ตนไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2493)
การที่ผู้ซื้อรับซื้อสิ่งของนั้นจากร้าน ซึ่งไม่ได้อยู่ในท้องตลาด ถ้าทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อ กฎหมายก็ให้เจ้าของใช้สิทธิติดตามเรียกเอาคืนได้โดยไม่ต้องใช้ราคา แต่เมื่อผู้รับซื้อ ซื้อไว้โดยสุจริตแล้วขายต่อไปแล้วโดยสุจริต สิ่งของนั้นจึงไม่ได้อยู่ในความครอบครองของผู้รับซื้อแล้ว เจ้าของก็จะเรียกให้ผู้รับซื้อชดใช้ราคาสิ่งของนั้นให้ตนไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรสที่ขัดแย้งกับคู่สมรสเดิม แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็มีผลตามกฎหมาย
ชายหญิงเป็นสามีภริยากันตั้งแต่ก่อนใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 5 ตลอดมาจนใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 5 แล้ว แม้จะมิได้จทะเบียนสมรสก็นับว่าชายหญิงนั้นเป็นคู่สมรสกันตาม ก.ม.ฉะนั้นชายจึงไม่มีสิทธิจะทำการสมรสกับหญิงอื่นอีก เพราะตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1445(3) บัญญัติห้ามมิให้ชายหญิงทำการสมรสเมื่อยังเป็นคู่สมรสของบุคคลอื่นอยู่ ภริยาเดิมขอให้เพิกถอนทะเบียนสมรสที่ชายไปจดใหม่นั้นเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรสที่ขัดแย้งกับคู่สมรสเดิม แม้ไม่ได้จดทะเบียนก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง
ชายหญิง เป็นสามีภริยากันตั้งแต่ก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ตลอดมาจนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว แม้จะมิได้จดทะเบียนสมรส ก็นับว่า ชายหญิงนั้นเป็นคู่สมรสกันตามกฎหมาย ฉะนั้นชายจึงไม่มีสิทธิจะทำการสมรสกับหญิงอื่นอีก เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1445(3)บัญญัติห้ามมิให้ชายหญิงทำการสมรส เมื่อยังเป็นคู่สมรสของบุคคลอื่นอยู่ ภริยาเดิมขอให้เพิกถอนทะเบียนสมรสที่ชายไปจดใหม่นั้นเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขาย: การฟ้องให้บังคับตามสัญญาต้องพิสูจน์การตกลงกันแล้ว ไม่ใช่แค่ขอให้ศาลแสดงว่ามีสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าได้เสนอขายสิ่งของแก่จำเลย ๆ ได้สนองรับซื้อสิ่งของนั้น ตามคำเสนอของโจทก์แล้วแต่ต่อมาบิดพริ้วไม่ยอมทำสัญญาซื้อขายสิ่งของนั้นกับโจทก์ทำให้โจทก์ได้รับความเสีย หาย จึงขอให้ศาลแสดงว่าการกระทำระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาจะซื้อขายมีผลผูกพันและบังคับได้ตามกฎหมาย ดังนี้ยังไม่เป็นเหตุผลที่โจทก์จะต้องมาขอใช้สิทธิทางศาลตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 55 เพราะเป็นเรื่องที่ขอให้แสดงว่าได้มีการตกลงจะทำสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยหรือไม่เท่านั้น ถ้าโจทก์ยืนยันว่าได้มีการตกลงกับจำเลยแล้ว และจำเลยกระทำผิดข้อตกลงอย่างใด โจทก์ชอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวในทางนั้น ฉะนั้นในเรื่องนี้จึงยังไม่เป็นมูลกรณีที่จะพึงฟ้องร้องกลับ
(ประชุมใหญ่)
(ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและการฟ้องร้องผิดสัญญา: ไม่เป็นมูลเหตุฟ้องหากยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขาย
โจทก์ฟ้องว่า ได้เสนอขายสิ่งของแก่จำเลย จำเลยได้สนองรับซื้อสิ่งของนั้น ตามคำเสนอของโจทก์แล้ว แต่ต่อมาบิดพริ้วไม่ยอมทำสัญญาซื้อขายสิ่งของนั้นกับโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงขอให้ศาลแสดงว่าการกระทำระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาจะซื้อขายมีผลผูกพันและบังคับได้ตามกฎหมาย ดังนี้ ยังไม่เป็นเหตุผลที่โจทก์จะต้องมาขอใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 เพราะเป็นเรื่องที่ขอให้แสดงว่าได้มีการตกลงจะทำสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยหรือไม่เท่านั้นถ้าโจทก์ยืนยันว่าได้มีการตกลงกับจำเลยแล้ว และจำเลยกระทำผิดข้อตกลงอย่างใดโจทก์ชอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวในทางนั้น ฉะนั้นในเรื่องนี้ จึงยังไม่เป็นมูลกรณีที่จะพึงฟ้องร้องกันได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2493)