คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปรีชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากความประมาทเลินเล่อของผู้รับขนส่งข้าวสารของทางราชการ
ข้าหลวงประจำจังหวัด+นามประชาชนคณะกรมการจังหวัด โดยหน้าที่ราชการเป็นผู้อำนวยการและจัดการควบคุมดูแลและรับผิดชอบการขนส่งและการจำหน่ายข้าวสารปัน ส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับขนส่งข้าวสารปันส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น เมื่อผู้รับขนส่งประมาทเลินเล่อทำให้ข้าวสารของทางราชการนั้นเสียหายไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของข้าหลวงประจำจังหวัดในฐานะผู้ดูแลการขนส่งข้าวสารของราชการ
ข้าหลวงประจำจังหวัดในนามประธานคณะกรรมการจังหวัด โดยหน้าที่ราชการเป็นผู้อำนวยการและจัดการควบคุมดูแลและรับผิดชอบการขนส่งและการจำหน่ายข้าวสารปันส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับขนส่งข้าวสารปันส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น เมื่อผู้รับขนส่งประมาทเลินเล่อทำให้ข้าวสารของทางราชการนั้นเสียหายไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีขับไล่: แม้ศาลฎีกาวางหลักใหม่ ก็ไม่อาจฟ้องซ้ำได้หากคดีเดิมถึงที่สุดแล้ว
โจทก์เคยฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ ศาลตัดสินคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จะมาฟ้องในมูลกรณีเดียวกันนั้นโดยอ้างว่าศาลฎีกาได้ พิพากษาวางหลักในเรื่องว่าสถานที่อย่างไรจึงเป็นเคหะอีกไม่ได้ เป็นการฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การฟ้องขับไล่ซ้ำในมูลกรณีเดิม แม้มีฎีกาใหม่คุ้มครองสิทธิจำเลย
โจทก์เคยฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ ศาลตัดสินคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จะมาฟ้องในมูลกรณีเดียวกันนั้นโดยอ้างว่าศาลฎีกาได้พิพากษาวางหลักในเรื่องว่าสถานที่อย่างไรจึงเป็นเคหะอีกไม่ได้ เป็นการฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุเวลาละเมิดในคดีแพ่ง: ศาลไม่เคร่งครัดเท่าคดีอาญา หากเวลาคลาดเคลื่อนเล็กน้อยไม่ถึงกับละเมิดคนละคราว ศาลรับพิจารณาได้
ในคดีแพ่ง กฎหมายมิได้บังคับเข้มงวดให้ระบุเวลากระทำผิดในคำฟ้องอย่างคดีอาญา ฉะนั้นหากว่าโจทก์จะมิได้ระบุเวลามาในคำฟ้องด้วย ศาลก็ย่อมจะต้องรับไว้พิจารณา
ฟ้องหาว่า จำเลยทำละเมิดในเวลากลางคืนแต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำละเมิดในเวลากลางวัน ในวันเดียวกันนั้นดังนี้ เป็นเรื่องเวลาคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อยไม่ถึงกับจะให้เห็นว่า เป็นการละเมิดคนละคราวกับที่ฟ้องยังไม่เป็นเหตุถึงแก่จะให้ยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเรื่องละเมิด เวลาคลาดเคลื่อนเล็กน้อยไม่ถึงเหตุยกฟ้อง
ในคดีแพ่ง กฎหมายมิได้บังคับเข้มงวดให้ระบุเวลากระทำผิดในคำฟ้องอย่างคดีอาญา ฉะนั้นหากว่าโจทก์จะมิได้ระบุเวลามาในคำฟ้องด้วย ศาลก็ย่อมจะต้องรับไว้พิจารณา
ฟ้องหาว่า จำเลยทำละเมิดในเวลากลางคืน แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำละเมิดในเวลากลางวัน ในวันเดียวกันนั้น ดังนี้ เป็นเรื่องเวลาคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อยไม่ถึงกับจะให้เห็นว่า เป็นการละเมิดคนละคราวกับที่ฟ้อง ยังไม่เป็นเหตุถึงแก่จะให้ยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1185/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจอธิบดีกำหนดวิธีการลงบัญชีโรงสี: การปฏิบัติตามคำสั่งเป็นไปตามกฎหมาย
มาตรา 201 มีความว่าให้ผู้ทำการโรงสีทำบัญชีตามแบบและวิธีการที่อธิบดีกำหนด แสดงรายการปริมาณข้าวซึ่งมีอยู่ได้มาและจำหน่ายไปเป็นรายวัน
อธิบดีจึงกำหนดว่าทุกวันที่มีการรับหรือจำหน่ายข้าวผู้ทำการโรงสีต้องลงรายการรับหรือจำหน่าย ดังนี้ คำสั่งของอธิบดีย่อมเป็นการชอบด้วยกฎหมาย ผู้ทำการโรงสีฝ่าฝืนก็มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมงในบ่อส่วนตัวที่ไม่ใช่บ่อล่อสัตว์น้ำจากแหล่งสาธารณะ ไม่ต้องขออนุญาต
ทำการวิดน้ำจับปลาในบ่อ ซึ่งอยู่ในที่ดินของตนเองเมื่อบ่อนั้นไม่ใช่เป็นบ่อที่ล่อสัตว์น้ำจากที่จับสัตว์น้ำแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นบ่อสัตว์น้ำดังที่ บัญญัติไว้ในกฎกระทรวงฉะบับที่ 6 พ.ศ. 2490 ข้อ 1 ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.การประมง 2490
ทำการประมงในบ่อเช่นนี้ จึงไม่ขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมงในบ่อส่วนตัวที่ไม่ใช่บ่อล่อสัตว์น้ำจากแหล่งสาธารณะ ไม่ต้องขออนุญาต
ทำการวิดน้ำจับปลาในบ่อ ซึ่งอยู่ในที่ดินของตนเอง เมื่อบ่อนั้นไม่ใช่เป็นบ่อที่ล่อสัตว์น้ำจากที่จับสัตว์น้ำแล้วก็ไม่ถือว่า เป็นบ่อล่อสัตว์น้ำ ดังที่บัญญัติไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 6 พ.ศ.2490 ข้อ 1 ซึ่งออกตามพ.ร.บ.การประมง 2490
ทำการประมงในบ่อเช่นนี้ จึงไม่ต้องขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101-1102/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเข้าใจผิดเรื่องทางสาธารณะและการกระทำโดยไม่มีเจตนาชั่วร้าย ไม่ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324
ทำลายคันนาของเขาแล้วพาเกวียนเดินไปตามทางในนาของเขาโดยเชื่อว่าเป็นที่สาธารณะโดยทางอำเภอได้ขอ อนุญาตเจ้าของที่นา และได้มีการประชุมยินยอมทำทางนี้เพื่อให้เกวียนเดินสดวก เช่นนี้ถือว่าจำเลยมิได้มีเจตนาชั่วร้ายในการกระทำ จะเอาผิดแก่จำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 324 ไม่ได้
of 219