คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปรีชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานจากเอกสารสำเนาที่รับรองถูกต้อง โดยไม่จำต้องสืบพยานประกอบ
จำเลยอ้างต้นฉะบับรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันของสถานีตำรวจเป็นพยวานต่อศาล แต่ผู้บังคับกองตำรวจคัดสำเนาส่งมาให้โดยรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริง ดังนี้ถ้าโจทก์ มิได้คัดค้านว่าเจ้าหน้าที่คัดสำเนาผิดจากต้นฉะบับแล้ว ศาลก็ชอบที่จะฟังสำเนาเอกสารนั้น เป็นพยานหลักฐานได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 238 หาจำต้องอ้างพยานบุคคลมาสืบประกอบเอกสารที่อ้างนั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานจากสำเนาเอกสารที่รับรองความถูกต้อง
จำเลยอ้างต้นฉบับรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันของสถานีตำรวจเป็นพยานต่อศาล แต่ผู้บังคับกองตำรวจคัดสำเนาส่งมาให้โดยรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริง ดังนี้ถ้าโจทก์มิได้คัดค้านว่าเจ้าหน้าที่คัดสำเนาผิดจากต้นฉบับแล้ว ศาลก็ชอบที่จะฟังสำเนาเอกสารนั้น เป็นพยานหลักฐานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 238 หาจำต้องอ้างพยานบุคคลมาสืบประกอบเอกสารที่อ้างนั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อที่ดินโดยสุจริต: คุ้มครองเหนือการครอบครองโดยไม่จดทะเบียน
ซื้อที่ดินมีโฉนดมาโดยสุจริต ได้โอนแก้ทะเบียนกันโดยสุจริตเรียบร้อยแล้ว เมื่อไปตรวจสอบเนื้อที่ดินจึงรู้ว่ามีผู้อื่นรุกล้ำเข้ามาทำนาในที่นั้นบางส่วน ดังนี้แม้จะได้ความว่าผู้ที่รุกล้ำเข้ามานั้นได้ปกครองทำนาส่วนนั้นอย่างเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้วก็ตาม เมื่อผู้นั้นไม่ได้จดทะเบียนสิทธิไว้ ก็ไม่อาจยกขึ้นมาตัดสิทธิของผู้ซื้อโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้ ผู้ซื้อจึงมีอำนาจฟ้องห้ามมิให้ผู้ครอบครองนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่นั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628-1630/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้จ้างต่อลูกจ้างช่วง: การจ้างช่วงและการรับผิดในละเมิด
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาจ้างผู้มีชื่อมาเป็นผู้ขับรถยนต์และจัดการเดินรถยนต์ของจำเลยที่ 1 โดยผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติงานในความควบคุมหรือตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 ส่วนค่าใช้จ่าย ก็ดีกำไรขาดทุนก็ดีเป็นของจำเลยที่ 1 ผู้รับจ้างเป็นแต่รับค่าจ้างเป็นก้อนไปเท่านั้น ดังนี้ย่อมถือว่าเป็นสัญญาจ้างแรงงาน ฉะนั้นการที่ผู้รับจ้างไปจ้างจำเลยที่ 2 มาเป็นคนประจำรถด้วยความยินยอมของจำเลยที่ 1 ผู้ว่าจ้างแล้ว ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ด้วย ดุจเดียวกับผู้มีชื่อนั้นเอง จำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดกับผู้มีชื่อในผลแห่งละเมิดที่กระทำไปในทางการที่จ้างฉันใด จำเลยที่1 ก็ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 2 กระทำไปในทางการที่จ้างฉันนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628-1630/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้างที่จ้างเหมา: สัญญาจ้างแรงงาน, การควบคุม, ความรับผิดร่วม
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาจ้างผู้มีชื่อมาเป็นผู้ขับรถยนต์ และจัดการเดินรถยนต์ของจำเลยที่ 1 โดยผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติงานในความควบคุมหรือตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 ส่วนค่าใช้จ่าย ก็ดีกำไรขาดทุนก็ดีเป็นของจำเลยที่ 1 ผู้รับจ้างเป็นแต่รับค่าจ้างเป็นก้อนไปเท่านั้น ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นสัญญาจ้างแรงงาน ฉะนั้นการที่ผู้รับจ้างไปจ้างจำเลยที่ 2 มาเป็นคนประจำรถด้วยความยินยอมของจำเลยที่ 1 ผู้ว่าจ้างแล้ว ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ด้วย ดุจเดียวกับผู้มีชื่อนั้นเอง จำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดกับผู้มีชื่อในผลแห่งละเมิดที่กระทำไปในทางการรที่จ้างฉันท์ใด จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 2 กระทำไปในทางการที่จ้างฉันท์นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1627/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าช่วง: เมื่อผู้เช่าช่วงทำสัญญาโดยตรงกับผู้ให้เช่า ผู้เช่าเดิมไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
โจกท์เช่าตึกแถวเขามา 16 ห้องแล้วแบ่งให้ผู้อื่นเช่าเสีย 2 ห้องโดยให้ผู้นั้นไปทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่าเองโดยตรง ภายหลังผู้นั้นเลิกการเช่า โจทก์จึงเข้าทำสัญญาเช่าห้อง 2 ห้องนั้นกับผู้ให้เช่าใหม่ แต่ปรากฎว่ามีจำเลยอยู่ในห้อง 2 ห้องตั้งแต่เมื่อผู้อื่นเช่าดังกล่าวแล้ว และไม่ยอมออก ดังนี้ โจทก์ยังหามีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยไม่ แต่เป็นเรื่องของผู้ให้เช่าจะต้องฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1627/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการฟ้องขับไล่จำเลยขึ้นอยู่กับสัญญาเช่าเดิม ผู้เช่าช่วงไม่มีสิทธิฟ้องเอง
โจทก์เช่าตึกแถวเขามา 16 ห้องแล้ว แบ่งให้ผู้อื่นเช่าเสีย 2 ห้องโดยให้ผู้นั้นไปทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่าเองโดยตรง ภายหลังผู้นั้นเลิกการเช่า โจทก์จึงเข้าทำสัญญาเช่าห้อง 2 ห้องนั้นกับผู้ให้เช่าใหม่ แต่ปรากฏว่ามีจำเลยอยู่ในห้อง 2 ห้องตั้งแต่เมื่อผู้อื่นเช่าดังกล่าวแล้ว และไม่ยอมออก ดังนี้ โจทก์ยังหามีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยไม่ แต่เป็นเรื่องของผู้ให้เช่าจะต้องฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดินของเด็กต้องได้รับอนุญาตจากศาล สัญญาจึงผูกพัน เมื่อยังไม่ผูกพันเด็ก ผู้รับมรดกก็ไม่อาจถูกบังคับตามสัญญาได้
บิดาในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร ได้ทำสัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดินของบุตร กับที่ดินของโจทก์แต่ยังไม่ทันได้ร้องขออนุญาตต่อศาล บุตรก็ตายลงเสียก่อน ที่ดินของบุตรจึงตกเป็นมรดกได้แก่บิดา ดังนี้ โจทก์จะฟ้องบิดาให้โอนที่ดินนั้นให้แก่โจทก์ตามสัญญาย่อมไม่ได้ เพราะบิดาเป็นแต่เพียงผู้ทำสัญญาแทนเด็กและเมื่อสัญญายังไม่ผูกพันเด็ก ก็ย่อมไม่ผูกพันบิดา ผู้ซึ่งเป็นผู้รับมรดกด้วย
(ประชุมใหญ่) ครั้งที่ 9/2494

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดินโดยผู้แทนชอบธรรม สัญญาไม่ผูกพันเมื่อบุตรเสียชีวิตก่อนได้รับอนุมัติศาล
บิดาในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร ได้ทำสัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดินของบุตร กับที่ดินของโจทก์ แต่ยังไม่ทันได้ร้องขออนุญาตต่อศาล บุตรก็ตายลงเสียก่อนที่ดินของบุตรจึงตกเป็นมรดกได้แก่บิดา ดังนี้ โจทก์จะฟ้องบิดาให้โอนที่ดินนั้นให้แก่โจทก์ตามสัญญาย่อมไม่ได้ เพราะบิดาเป็นแต่เพียงผู้ทำสัญญาแทนเด็ก และเมื่อสัญญายังไม่ผูกพันเด็ก ก็ย่อมไม่ผูกพันบิดา ผู้ซึ่งเป็นผู้รับมรดกด้วย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1596/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือค่าใช้จ่าย (น้ำไฟ) ไม่ถือเป็นการเช่าช่วง
ให้ผู้อื่นอาศัยอยู่ในเคหะที่ตนเช่ามา โดยให้ผู้นั้นช่วยเสียค่าน้ำค่าไฟฟ้าบ้างนั้น ย่อมไม่ทำให้ผู้อาศัยนั้นมีฐานะเป็นผู้เช่าช่วง
of 219