พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,184 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1596/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้ผู้อื่นอยู่ร่วมเคหะพักอาศัย ไม่ถือเป็นผู้เช่าช่วง
ให้ผู้อื่นอาศัยอยู่ในเคหะที่ตนเช่ามา โดยให้ผู้นั้นช่วยเสียค่าน้ำค่าไฟฟ้าบ้างนั้น ย่อมไม่ทำให้ผู้อาศัยนั้นมีฐานะเป็นผู้เช่าช่วง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1594/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในสัญญาจำนอง: การนำสืบเพื่อแก้ไขเจตนาและข้อยกเว้นตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
สัญญาจำนอง ซึ่งมีข้อความว่าเป็นประกันเงิน ซึ่งผู้จำนองเป็นหนี้ นั้น ถ้าผู้รับจำนองจะขอสืบว่าการรับจำนองนั้นผู้รับจำนองแสดงเจตนาไปด้วยสำคัญผิดว่าผู้จำนองจำนองเพื่อประกันบุคคลอื่น ฉะนั้นที่ทำสัญญาไปเป็นการประกันผู้จำนองเอง จึงเป็นการแสดงเจตนาด้วยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรม เพื่อต่อสู้ว่านิติกรรมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 119นั้น ผู้รับจำนองอาจนำสืบได้ แต่ถ้าผู้รับจำนองขอสืบว่าข้อความในสัญญาจำนองที่มีว่า "เป็นประกันเงิน ซึ่งผู้จำนองเป็นหนี้" เป็นว่าเป็นประกันบุคคลอื่นเพื่อให้สัญญาจำนองมีผลบังคับได้ดั่งข้อความที่ผู้รับจำนองขอแก้ไขเปลี่ยนแปลง ดังนี้ เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1594/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองเพื่อประกันหนี้บุคคลอื่น: ข้อจำกัดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาเพื่อใช้บังคับ
สัญญาจำนอง ซึ่งมีข้อความว่าเป็นประกันเงิน ซึ่งผู้จำนองเป็นหนี้นั้น ถ้าผู้รับจำนองจะขอสืบว่าการรับจำนองนั้นผู้รับจำนองแสดงเจนาไปด้วยสำคัญผิดว่า ผู้จำนองจำนองเพื่อประกันบุคคลอื่น ฉะนั้นที่ทำสัญญาไปเป็นการประกันผู้จำนองเอง จึงเป็นการแสดงเจตนาด้วยสำคัญผิดในสิ่ง ซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมเพื่อต่อสู้ว่า นิติกรรมเป็นโมฆะตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 119 นั้น ผู้รับจำนองอาจนำสืบได้ แต่ถ้าผู้รับจำนองขอสืบว่า ข้อความในสัญญาจำนองที่มีว่า "เป็นประกันเงิน ซึ่งผู้จำนองเป็นหนี้" เป็นว่าเป็นประกันบุคคลอื่นเพื่อให้สัญญาจำนองมีผลบังคับได้ดั่งข้อความที่ผู้รับจำนองขอแก้ไขเปลี่ยนแปลง ดังนี้ เป็นการต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94 (ข)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีพิทักษ์คนไร้ความสามารถ: การเพิกถอนสมรสและเปลี่ยนแปลงผู้พิทักษ์
สามีของผู้เสมือนไร้ความสามารถเคยฟ้องขอให้ถอดถอนน้าของผู้เสมือนไร้ความสามารถจากการเป็นผู้พิทักษ์ผู้เสมือนไร้ความสามารถในคดีนั้นประเด็นที่ว่าผู้เสมือนไร้ความสามารถกับสามี ได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยอาศัยเหตุที่ว่าการจดทะเบียนสมรสชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ได้ขึ้นสู่ความวินิจฉัยของศาลแล้ว จนศาลสั่งว่า ผู้เสมือนไร้ความสามารถกับสามีเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย จึงได้ถอดถอนน้าผู้เป็นผู้พิทักษ์เดิม แล้วตั้งสามีเป็นผู้พิทักษ์สืบแทนต่อไปคดีถึงที่สุดแล้ว บัดนี้ น้าผู้นั้นจะกลับมาฟ้องสามีผู้เสมือนไร้ความสามารถอีก โดยอ้างเหตุว่าการจดทะเบียนสมรสระหว่างผู้เสมือนไร้ความสามารถกับสามีไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้เพิกถอนการสมรสและถอดถอนผู้พิทักษ์เสียและตั้งให้น้าเป็นผู้พิทักษ์แทนต่อไปนั้นเป็นการฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำต้องห้าม: ประเด็นสมรสที่เคยตัดสินแล้วไม่อาจยกขึ้นฟ้องใหม่ได้
สามีของผู้เสมือนไร้ความสามารถเคยฟ้องขอให้ถอดถอนน้าของผู้เสมือนไร้ความสามารถจากการเป็นผู้พิทักษ์ผู้เสมือนไร้ความสามารถในคดีนั้นประเด็นที่ว่า ผู้เสมือนไร้ความสามารถกับสามี ได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยอาศัยเหตุที่ว่าการจดทะเบียนสมรสชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ได้ขึ้นสู่ความวินิจฉัยของศาลแล้ว จนศาลสั่งว่า ผู้เสมือนไร้ความสามารถกับสามีเป็นสามีภริยากันตากกฎหมาย จึงได้ถอดถอนน้าผู้เป็นผู้พิทักษ์เดิม แล้วตั้งสามีเป็นผู้พิทักษ์สืบแทนต่อไป คดีถึงที่สุดแล้ว บัดนี้ น้าผู้นั้นจะกลับมาฟ้องสามีผู้เสมือนไร้ความสามารถอีก โดยอ้างเหตุว่าการจดทะเบียนสมรสระหว่างผู้เสมือนไร้ความสามารถกับสามี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้เพิกถอนการสมรสและถอดถอนผู้พิทักษ์เสียและตั้งให้น้าเป็นผู้พิทักษ์แทนต่อไปนั้น เป็นการฟ้องซ้ำต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนเงินหมั้นและค่าทดแทนจากการไม่จดทะเบียนสมรส แม้มีการหลับนอนตามประเพณี
ชายหญิงทำพิธีสมรสกันตามประเพณีแล้ว แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่ยอมจดทะเบียนสมรสทำให้การสมรสไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายดังนี้ ชายย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกของหมั้นคืนจากหญิงได้ ส่วนค่าทดแทนเช่นค่าใช้จ่ายที่ต้องทำตามประเพณีนั้น แม้การสมรสจะมิได้สำเร็จไปโดยชอบ แต่เมื่อชายได้หลับนอนกับหญิงตามประเพณีแล้ว ค่าใช้จ่ายที่ต้องทำตามประเพณีจึงไม่ใช่ค่าเสียหายอันควรคิดเอาแก่กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรสไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย: สิทธิเรียกร้องของหมั้นและค่าใช้จ่ายตามประเพณี
ชายหญิงทำพิธีสมรสกันตามประเพณีแล้ว แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่ยอมจดทะเบียนสมรสทำให้การสมรสไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ดังนี้ ชายย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกของหมั้นคืนจากหญิงได้ ส่วนค่าทดแทนเช่นค่าใช้จ่ายที่ต้องทำตามประเพณีนั้นแม้การสมรสจะมิได้สำเร็จไปโดยชอบ แต่เมื่อชายได้หลับนอนกับหญิงตามประเพณีแล้ว ค่าใช้จ่ายที่ต้องทำตามประเพณีจึงไม่ใช่ค่าเสียหายอันควรคิดเอาแก่กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลสูงมีอำนาจยกคำพิพากษาและพิพากษายกฟ้องได้
ฟ้องขอให้โอนที่ดินให้ตามสัญญาจะซื้อขายนั้น เป็นคดีมีทุนทรัพย์ ( อ้างคำสั่งคำร้องที่ 12/2493 และ ฎีกาที่ 1065/2493 )
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงจำเลยต่อสู้ว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แต่เมื่อศาลแขวงสั่งว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง แล้วพิจารณาคดีต่อไปนั้น แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในทันที และมิได้โต้แย้งคำสั่งไว้ จนศาลพิพากษาแล้ว จึงมาอุทธรณ์เรื่องอำนาจศาลอีก ดังนี้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องอำนาจศาลเป็นข้อ ก.ม.อันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142 (5) และเมื่อเห็นว่าคดีเกินอำนาจศาลแขวง ศาลสูงก็ย่อมมีอำนาจให้ยกคำพิพากษาแขวงแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงจำเลยต่อสู้ว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แต่เมื่อศาลแขวงสั่งว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง แล้วพิจารณาคดีต่อไปนั้น แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในทันที และมิได้โต้แย้งคำสั่งไว้ จนศาลพิพากษาแล้ว จึงมาอุทธรณ์เรื่องอำนาจศาลอีก ดังนี้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องอำนาจศาลเป็นข้อ ก.ม.อันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142 (5) และเมื่อเห็นว่าคดีเกินอำนาจศาลแขวง ศาลสูงก็ย่อมมีอำนาจให้ยกคำพิพากษาแขวงแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: แม้จำเลยไม่โต้แย้งทันที ศาลสูงยังยกขึ้นวินิจฉัยเรื่องอำนาจศาลได้
ฟ้องขอให้โอนที่ดินให้ตามสัญญาจะซื้อขายนั้น เป็นคดีมีทุนทรัพย์ (อ้างคำสั่งคำร้องที่ 12/2493 และฎีกาที่1065/2493)
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวง จำเลยต่อสู้ว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แต่เมื่อศาลแขวงสั่งว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง แล้วพิจารณาคดีต่อไปนั้น แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในทันที และมิได้โต้แย้งคำสั่งไว้ จนศาลพิพากษาแล้ว จึงมาอุทธรณ์เรื่องอำนาจศาลอีก ดังนี้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องอำนาจศาลเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน. ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) และเมื่อเห็นว่าคดีเกินอำนาจศาลแขวง ศาลสูงก็ย่อมมีอำนาจให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวง จำเลยต่อสู้ว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แต่เมื่อศาลแขวงสั่งว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง แล้วพิจารณาคดีต่อไปนั้น แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในทันที และมิได้โต้แย้งคำสั่งไว้ จนศาลพิพากษาแล้ว จึงมาอุทธรณ์เรื่องอำนาจศาลอีก ดังนี้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องอำนาจศาลเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน. ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) และเมื่อเห็นว่าคดีเกินอำนาจศาลแขวง ศาลสูงก็ย่อมมีอำนาจให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหย่าจากการทิ้งร้างและไม่อุปการะเลี้ยงดูเริ่มนับเมื่อการกระทำสิ้นสุด และการแก้ไขเลขคดีที่พิมพ์ผิดพลาดสามารถทำได้
การที่สามีหรือภริยาทิ้งร้างไม่อุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งนั้นการนับอายุความในกรณีเช่นนี้ จะต้องตั้งต้นนับเมื่อการทิ้งร่างและไม่อุปการะเลี้ยงดูนั้นได้ยุติลง ถ้ายังไม่ยุติคือ ยังคงทิ้งร้าง และไม่อุปการะเลี้ยงดูเรื่อย ๆ มาจะเป็นกี่ปีก็ตาม อายุความก็ยังไม่เริ่มนับฉะนั้น ย่อมฟ้องหย่าโดยอาศัยเหตุนี้ได้เสมอ ไม่ขาดอายุความ
จำเลยยื่นคำร้องในวันพิจารณาว่า อ้างเลขคดีในคำให้การของจำเลยผิดปีไปนั้น โดยพิมพ์เลข พ.ศ.2489 เป็น 2491 นั้น เป็นเรื่องไม่ใช่แก้ข้อความ แต่เป็นเรื่องแก้เลข พ.ศ. ของคดีที่พิมพ์ผิดพลาดมาเล็กน้อยเท่านั้น แม้จะเพิ่งมาขอแก้ภายหลังชี้สองสถานแล้ว ก็ควรอนุญาตให้แก้ได้
จำเลยยื่นคำร้องในวันพิจารณาว่า อ้างเลขคดีในคำให้การของจำเลยผิดปีไปนั้น โดยพิมพ์เลข พ.ศ.2489 เป็น 2491 นั้น เป็นเรื่องไม่ใช่แก้ข้อความ แต่เป็นเรื่องแก้เลข พ.ศ. ของคดีที่พิมพ์ผิดพลาดมาเล็กน้อยเท่านั้น แม้จะเพิ่งมาขอแก้ภายหลังชี้สองสถานแล้ว ก็ควรอนุญาตให้แก้ได้