คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 420

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,810 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3629/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้อง, หมายเลขทะเบียนรถ, เหตุสุดวิสัย, ความประมาทเลินเล่อของผู้ขับขี่
การขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับหมายเลขทะเบียนรถเป็นกรณีแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดเล็กน้อยในรายละเอียดเพื่อให้ตรงตามความเป็นจริงไม่จำต้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานเพราะเข้าข้อยกเว้นของ ป.วิ.พ.มาตรา 180
การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับหมายเลขทะเบียนของรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุย่อมมีผลให้คำฟ้องของโจทก์และรายงานการชี้สองสถานในประเด็นเกี่ยวกับหมายเลขทะเบียนของรถคันดังกล่าวต้องเป็นไปตามที่โจทก์ขอแก้ไข
แม้เหตุที่รถเกิดชนกันเป็นเพราะยางรถยนต์คันที่ น.ขับมาเกิดระเบิดขึ้นก็ตาม ก็หาเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของ น.ผู้ขับขี่จะต้องตรวจตราระมัดระวังให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยและขับด้วยความปลอดภัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3629/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้องหมายเลขทะเบียนรถ และการพิสูจน์ความรับผิดจากเหตุละเมิดเนื่องจากความประมาท
การขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับหมายเลขทะเบียนรถเป็นกรณีแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดเล็กน้อยในรายละเอียดเพื่อให้ตรงตามความเป็นจริงไม่จำต้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานเพราะเข้าข้อยกเว้นของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับหมายเลขทะเบียนของรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุย่อมมีผลให้คำฟ้องของโจทก์และรายงานการชี้สองสถานในประเด็นเกี่ยวกับหมายเลขทะเบียนของรถคันดังกล่าวต้องเป็นไปตามที่โจทก์ขอแก้ไข แม้เหตุที่รถเกิดชนกันเป็นเพราะยางรถยนต์คันที่ น.ขับมาเกิดระเบิดขึ้นก็ตาม ก็หาเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของ น. ผู้ขับขี่จะต้องตรวจตราระมัดระวังให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยและขับด้วยความปลอดภัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3629/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้อง, การกำหนดประเด็นข้อพิพาท, ความประมาทเลินเล่อ, เหตุสุดวิสัย, ความรับผิดทางละเมิด
การขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับหมายเลขทะเบียนรถคันเกิดเหตุเป็นกรณีแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดเล็กน้อยในรายละเอียดเพื่อให้ตรงตามความเป็นจริง ไม่จำต้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานเพราะเข้าข้อยกเว้นของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับหมายเลขทะเบียนของรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุ ย่อมมีผลให้คำฟ้องของโจทก์และรายงานการชี้สองสถานในประเด็นเกี่ยวกับหมายเลขทะเบียนของรถคันดังกล่าวต้องเปลี่ยนไปตามที่โจทก์ขอแก้ไขโดยไม่ต้องทำการชี้สองสถานกำหนดประเด็นข้อพิพาทใหม่ เหตุที่รถชนกันเกิดขึ้นเพราะยางรถยนต์ระเบิด ไม่เป็นเหตุสุดวิสัยเพราะเป็นหน้าที่ของผู้ขับขี่จะต้องตรวจตราระมัดระวังให้รถอยู่ในสภาพเรียบร้อยและขับด้วยความปลอดภัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3452/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถแซง การชนเกิดจากผู้ขับขี่เร่งความเร็วแซงโดยไม่ระมัดระวัง
ก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ขับรถตามกันมามีรถยนต์เก๋งอยู่กลาง เมื่อถึงที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 1 ให้สัญญาณไฟเลี้ยวขวา โจทก์ที่ 2 ขับรถแซงขวา ด้วยความเร็วสูง และตามรถคันหน้าอย่างกระชั้นชิด จึงไม่สามารถหยุดหรือชะลอความเร็วลงได้ชนกับรถยนต์ของจำเลยที่ 1 เหตุที่รถชนกันจึงเกิดจากความประมาทเลินเล่อของโจทก์ที่ 2 ฝ่ายเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3356/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาประนีประนอมยอมความ: สิทธิเดินผ่านที่ดิน ไม่รวมถึงสิทธิปักเสาไฟฟ้า
สัญญาประนีประนอมยอมความในคดีก่อนระบุว่า จำเลยยอมให้โจทก์เดินผ่านที่ดินของจำเลยริบเขตแดนด้านทิศใต้ตามแผนที่พิพาทได้กว้าง 3 เมตร ยาวตลอดแนว มีความหมายเฉพาะว่าให้จำเลยเดินผ่านเท่านั้น มิได้หมายความรวมถึงการปักเสาไฟฟ้าด้วยการปักเสาไฟฟ้าของจำเลยจึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3295/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอดถอนสมาชิกภาพต้องมีเหตุผลอันสมควร การกระทำที่ไม่สามารถควบคุมการฟ้องคดีของผู้อื่นไม่ถือเป็นเหตุให้ถอดถอนได้
โจทก์ที่ 1 เป็นสมาชิกและคณะกรรมการดำเนินการของจำเลยการที่โจทก์ที่ 1 ทำหนังสือยอมรับมติของคณะกรรมการดำเนินการของจำเลยในการเลิกจ้างนางสาว ก. และรับว่าจะไม่มีปัญหาใด ๆทางกฎหมายอีกนั้น เป็นเรื่องระหว่างโจทก์ที่ 1 กับคณะกรรมการดำเนินการของจำเลย การที่นางสาว ก. ฟ้องจำเลยในเรื่องเลิกจ้างไม่เป็นธรรมและเรียกค่าเสียหายนั้นก็เป็นสิทธิส่วนตัวของนางสาว ก. โจทก์ไม่มีอำนาจบังคับนางสาว ก. มิให้ฟ้องคดีการที่นางสาว ก. ฟ้องจำเลยยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ที่ 1 แสดงตนเป็นปรปักษ์หรือไม่ซื่อตรงต่อจำเลยหรือทำให้จำเลยได้รับความเสียหายมติที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการจำเลยที่ให้ถอดถอนสมาชิกภาพของโจทก์ที่ 1 จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3293/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเช็คคืน: สิทธิของธนาคารภายใต้ประกาศสมาคมธนาคารไทยและข้อตกลงกับลูกค้า
ตามพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 มาตรา 14(1) ถึง(5) นั้น ถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยประสงค์จะกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ปฏิบัติในเรื่องใด ก็จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเสียก่อน เพื่อเป็นการควบคุมการประกอบกิจการของธนาคารพาณิชย์ ถ้าธนาคารพาณิชย์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจึงจะมีความผิดตามมาตรา 44 แต่ถ้าไม่มีประกาศกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ปฏิบัติ ก็เท่ากับไม่มีข้อกำหนด คู่สัญญาคือธนาคารกับลูกค้าจะตกลงกันอย่างไรก็ได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเช็คที่โจทก์สั่งจ่ายถูกธนาคารจำเลยปฏิเสธการจ่ายเงิน 2 ครั้ง เพราะเงินในบัญชีของโจทก์มีไม่พอจ่าย ถือว่าโจทก์ปฏิบัติผิดสัญญาแล้วจำเลยย่อมมีสิทธิเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเช็คคืนจากโจทก์ตามประกาศของสมาคมธนาคารไทย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยรับรองให้ใช้บังคับได้ ประกาศของสมาคมธนาคารไทยนี้ ธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบกิจการในประเทศไทยนำมาใช้กับลูกค้าทุกธนาคาร โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี และประกาศในราชกิจจานุเบกษาดังนั้น ที่จำเลยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเช็คคืนจากโจทก์ตามประกาศของสมาคมธนาคารไทย จำนวน 100 บาท จึงชอบด้วยกฎหมายการกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3240/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินตาม น.ส.3ก. และความรับผิดทางละเมิดของผู้รับมรดก
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) มีชื่อโจทก์เป็นผู้ครอบครองในเบื้องต้นจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ม. มารดาจำเลยปักเสาไฟฟ้าและเดินสายไฟฟ้าผ่านที่พิพาทของโจทก์โดยโจทก์มิได้ยินยอมจึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์เมื่อ ม. ถึงแก่ความตายจำเลยเป็นทายาทผู้รับมรดกของ ม.จึงต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3173/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อเติมรั้วแนวเขตโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการขัดสิทธิเจ้าของร่วม
ที่ดินโจทก์ติดกับที่ดินของจำเลยที่ 1 รั้วพิพาทเป็นรั้วกั้นแนวเขตระหว่างที่ดินของบุคคลทั้งสอง โดยโจทก์และจำเลยที่ 1ซื้อที่ดินและทาวน์เฮาส์จากจำเลยที่ 3 ซึ่งจำเลยที่ 3 เป็นผู้สร้างขายพร้อมกับทำรั้วกั้นแนวเขตให้เช่นเดียวกับทาวน์เฮาส์หลังอื่น ๆที่อยู่ในแนวเดียวกัน ดังนั้นโจทก์และจำเลยที่ 1 จึงเป็นเจ้าของรั้วพิพาทรวมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1344 การที่ฝ่ายจำเลยต่อเติมรั้วพิพาทเป็นกำแพงหรือผนังของอาคารทำให้รั้วหมดสภาพไปย่อมเป็นการขัดต่อสิทธิของโจทก์ นอกจากนั้นตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการก่อสร้างอาคารพ.ศ. 2522 ข้อ 27 ก็ได้กำหนดไว้ว่า รั้วหรือกำแพงกั้นเขตให้ทำได้สูงเหนือระดับถนนสาธารณะไม่เกิน 3 เมตร ฝ่ายจำเลยได้ต่อเติมกำแพงรั้วสูงจากระดับรั้วเดิมมากอันเป็นการผิดต่อข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครดังกล่าว จำเลยที่ 1 จะอ้างว่ารั้วพิพาทนอกจากใช้เพื่อเป็นแนวเขตแล้วยังสามารถใช้เป็นกำแพงหรือผนังอาคารได้ด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3173/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิร่วมรั้วกั้นเขตที่ดิน การต่อเติมทำให้รั้วหมดสภาพละเมิดสิทธิ
ที่ดินของโจทก์อยู่ติดกับที่ดินของจำเลย รั้วพิพาทเป็นรั้วกั้นแนวเขตระหว่างที่ดินของบุคคลทั้งสอง โดยโจทก์และจำเลยซื้อที่ดินและทาวน์เฮาส์ ซึ่งผู้ขายสร้างขายพร้อมทำรั้วกั้นแนวเขตให้ โจทก์และจำเลยจึงเป็นเจ้าของรั้วพิพาทรวมกันตาม ป.พ.พ.มาตรา 1344 การที่จำเลยต่อเติมรั้วพิพาทเป็นกำแพงหรือผนังของอาคารทำให้รั้วหมดสภาพไป ย่อมเป็นการขัดต่อสิทธิของโจทก์
of 481