คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 420

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,810 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6106/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การทวงถามค่าเสียหายในฐานะผู้รับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่ ไม่ถือเป็นการเริ่มนับอายุความ
การที่โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายโดยหนังสือดังกล่าวมีข้อความว่าทรัพย์สินที่หายไปอยู่ใน ความรับผิดชอบของจำเลยจึงแจ้งให้จำเลยในฐานะผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวชดใช้ทรัพย์สินแก่โจทก์ ภายในกำหนด 3 วันนั้น ย่อมเป็นการทวงถามให้ชดใช้ค่าเสียหายในฐานะผู้รับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น ไม่ใช่ในฐานะผู้ทำละเมิด อายุความจึงยังไม่เริ่มนับต่อเมื่อโจทก์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดชอบ และโจทก์ทราบผลการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2524 ว่า ผู้ต้องรับผิดคือจำเลย โจทก์ฟ้องจำเลยในวันที่ 6 พฤษภาคม 2524 ไม่เกิน 1 ปี นับจากทราบผลดังกล่าว ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6104/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของกรุงเทพมหานครต่ออุบัติเหตุจากงานก่อสร้างถนน แม้จะมอบหมายงานให้เอกชน
กรุงเทพมหานครจำเลยที่ 4 มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ และทางระบายน้ำ รวมทั้งการวิศวกรรมจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2518 มาตรา 66(2) และ (12) ย่อมมีหน้าที่ควบคุมและจัดให้มีเครื่องหมายและสัญญาณไฟให้ประชาชนผู้ใช้ถนนได้เห็นชัดเจนเพื่อป้องกันอุบัติ เหตุ ถึงแม้จำเลยที่ 4 จะได้กำหนดให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับเหมาเป็นผู้ดูแลพื้นที่ในถนนที่ทำการซ่อมปรับปรุง จำเลยที่ 4 ก็ต้องควบคุมให้จำเลยที่ 2 ติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณไฟให้ถูกต้อง การที่จำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 มีความประมาทมิได้ติดตั้งสัญญาณไฟไว้ในบริเวณหลุมที่ขุดในถนนเป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2 ขับรถยนต์มาตกหลุมดังกล่าวทำให้ผู้ที่โดยสารมาถึงแก่ความตายโจทก์ที่ 2 ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินของโจทก์ที่ 2 ที่ 3 สูญหายถือได้ว่าจำเลยที่ 4 ละเว้นหน้าที่โดยประมาทเลิ่นเล่อในการไม่ควบคุมให้มีการติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณไฟให้ถูกต้องเป็นเหตุให้ความเสียหายดังกล่าวต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6104/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของกรุงเทพมหานครฐานละเว้นการดูแลความปลอดภัยบนถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
กรุงเทพมหานครจำเลยที่ 4 มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ และทางระบายน้ำ รวมทั้งวิศวกรรมจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2518 มาตรา 66(2)และ (12) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในเวลาเกิดเหตุ จำเลยที่ 4 ย่อมมีหน้าที่ควบคุมและจัดให้มีเครื่องหมายและสัญญาณไฟให้ประชาชนผู้ใช้ถนนได้เห็นชัดเจนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของจำเลยที่ 4 ถึงแม้จะได้กำหนดให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศ. จำเลยที่ 2 เป็นผู้ดูแลพื้นที่ที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 4 ก็ต้องควบคุมให้จำเลยที่ 2 ติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณไฟขึ้นให้ถูกต้อง เมื่อปรากฏว่าคืนเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 มีความประมาทมิได้ติดตั้งสัญญาณไฟไว้ในบริเวณหลุมที่เกิดเหตุ ว.และส. ซึ่งจำเลยที่ 4 ส่งไปให้ควบคุมการซ่อมปรับปรุงถนนที่เกิดเหตุ ก็มิได้คอยดูว่ามีการติดตั้งสัญญารถไฟบริเวณหลุมดังกล่าวในคืนเกิดเหตุหรือไม่เช่นนี้ ตามพฤติการณ์ชี้ให้เห็นว่า จำเลยที่ 4 ละเว้นหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อในการไม่ควบคุมให้มีการติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณไฟให้ถูกต้องเพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรือป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้ถนน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสาม จำเลยที่ 4 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5851/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้โฉนดไม่ตรงตามพินัยกรรม แต่จำเลยมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตามพินัยกรรมและครอบครองตลอดมา จึงไม่เป็นการรุกล้ำ
แม้การแบ่งแยกโฉนดจะไม่ตรงตามแนวเขตที่กำหนดไว้ในพินัยกรรมทำให้ที่ดินพิพาทอยู่ในเขตโฉนดที่ดินของโจทก์ก็ตาม แต่จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามพินัยกรรมและได้ครอบครองตลอดมา การที่จำเลยสร้างรั้วในเขตที่ดินพิพาทจึงเป็นการสร้างในที่ดินของจำเลยเอง ไม่เป็นการรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5851/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินตามพินัยกรรมและการครอบครองจริง แม้โฉนดจะระบุผิดพลาด แต่เจ้าของกรรมสิทธิ์ย่อมมีสิทธิ
แม้การแบ่งแยกโฉนดจะทำให้ที่ดินพิพาทอยู่ในเขตโฉนดที่ดินของโจทก์ก็ตาม แต่จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามพินัยกรรมและได้ครอบครองที่ดินพิพาทตลอดมา การที่จำเลยสร้างรั้วในเขตที่ดินพิพาทจึงเป็นการสร้างในที่ดินของจำเลยเอง ไม่เป็นการสร้างรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5126/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดรถยนต์โดยมิชอบ เจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อ ละเมิดสิทธิเจ้าของรถ
รถยนต์คันพิพาทเป็นรถยนต์ที่ประกอบดัดแปลงโดยใช้ชิ้นส่วนเก่าภายในประเทศ มิใช่รถยนต์ที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาภายในประเทศหรือมีการลักลอบนำแค้ปของรถยนต์คันพิพาทเข้ามาภายใน ประเทศโดยไม่เสียภาษีจำเลยที่ 1 จึงไม่มีอำนาจที่จะยึดรถคันพิพาทของโจทก์ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานด้วยความประมาทเลินเล่อในการยึดรถยนต์คันพิพาทอันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5126/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดรถยนต์โดยมิชอบ เจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อละเมิดต่อโจทก์
รถยนต์คันพิพาทเป็นรถยนต์ที่ประกอบดัดแปลงโดยใช้ชิ้นส่วนเก่าภายในประเทศ มิใช่รถยนต์ที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาภายในประเทศหรือมีการลักลอบนำแค้ปของรถยนต์คันพิพาทเข้ามาภายในประเทศโดยไม่เสียภาษี จำเลยที่ 1 จึงไม่มีอำนาจที่จะยึดรถคันพิพาทของโจทก์ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานด้วยความประมาทเลินเล่อในการยึดรถยนต์คันพิพาทอันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4598/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมโดยผลของคำพิพากษา แม้ไม่ได้จดทะเบียนก็มีผลผูกพันต่อผู้รับโอนที่ดิน
โจทก์มีกรณีพิพาทกับ ป. ในที่ดินแปลงพิพาทแล้วตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์ยอมโอนที่ดินแปลงพิพาทให้ ป. และป.ยอมให้ที่ดินแปลงพิพาทรับภาระใช้เป็นที่สัญจรของโจทก์ ประชาชนและรถยนต์เข้าออกโรงภาพยนตร์ของโจทก์ศาลพิพากษาตามยอม ต่อมา ป. โอนที่ดินแปลงพิพาทให้จำเลยและจำเลยตั้งแผงขายสินค้าบนที่ดินแปลงพิพาท ทำให้ทางเข้าออกแคบโจทก์และประชาชนไม่ได้รับความสะดวก โจทก์ได้รับความเสียหายดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้จดทะเบียนสิทธิในภาระจำยอมดังกล่าวไว้ก็ตาม แต่โจทก์ก็อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิในภาระจำยอมตามคำพิพากษาได้ก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1300 จำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนที่ดินแปลงพิพาทจะกระทำการใดให้กระทบกระเทือนต่อสิทธิในภาระจำยอมดังกล่าวหาได้ไม่จึงต้องรื้อถอนแผงขายสินค้าและชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งแผงขายสินค้าบนที่ดินซึ่งโจทก์มีสิทธิใช้เป็นทางสัญจร ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้จำเลยรื้อถอนแผงสินค้านั้นไป จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ได้ปลูกสร้างหรือตั้งแผงขายสินค้าในที่ดินนั้น แม้จะมีการปลูกสร้างหรือตั้งแผงขายสินค้าในที่ดินดังกล่าวก็ไม่เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายคำให้การของจำเลยดังกล่าวจึงขัดกันเองและเป็นคำให้การที่ไม่ชัดแจ้งคดีไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบได้ว่าจำเลยไม่ได้ปลูกสร้างหรือตั้งแผงขายสินค้าในที่ดินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4216/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อในการเก็บรักษาเงินของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้เงินสูญหาย ต้องรับผิดทางละเมิด
จำเลยที่ 1 รับราชการเป็นหัวหน้าฝ่ายการคลังของโจทก์ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลังของทางราชการ โดยไม่ส่งมอบเงินที่เหลือจ่ายให้แก่คณะกรรมการเก็บรักษาเงิน เพื่อให้เก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัยที่โจทก์ได้จัดไว้ให้ซึ่งมีลูกกุญแจ 3 ดอก แต่กลับนำเข้าเก็บไว้ในตู้นิรภัยที่มีลูกกุญแจดอกเดียว ทั้งยังนำลูกกุญแจตู้นิรภัยดังกล่าวไปเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของจำเลยที่ 1 เมื่อมีคนร้ายมางัดโต๊ะทำงานของจำเลยที่ 1 และนำลูกกุญแจตู้นิรภัยไปไขตู้นิรภัยลักเอาเงินที่เก็บรักษาไว้ไปได้ ถือได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นโดยตรงจากการจงใจหรือประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 1 จะอ้างเหตุในเรื่องหัวหน้าส่วนราชการไม่ทักท้วงสั่งการแก้ไขการปฏิบัติหน้าที่ที่ผิดระเบียบของเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินให้ถูกต้องมาเป็นเหตุว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4216/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของข้าราชการจากการเก็บรักษาเงินผิดระเบียบ ทำให้เงินสูญหาย
จำเลยที่ 1 รับราชการเป็นหัวหน้าฝ่ายการคลังของโจทก์ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลังของทางราชการโดยไม่ส่งมอบเงินที่เหลือจ่ายให้แก่คณะกรรมการเก็บรักษาเงิน เพื่อให้เก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัยที่โจทก์ได้จัดไว้ให้ซึ่งมีลูกกุญแจ 3 ดอก แต่กลับนำเข้าเก็บไว้ในตู้นิรภัยที่มีลูกกุญแจดอกเดียว ทั้งยังนำลูกกุญแจตู้นิรภัยดังกล่าวไปเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของจำเลยที่ 1 เมื่อมีคนร้ายมางัดโต๊ะทำงานของจำเลยที่ 1 และนำลูกกุญแจตู้นิรภัยไปไขตู้นิรภัยลักเอาเงินที่เก็บรักษาไว้ไปได้ ถือได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นโดยตรงจากการจงใจหรือประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 1 จะอ้างเหตุในเรื่องหัวหน้าส่วนราชการไม่ทักท้วงสั่งการแก้ไขการปฏิบัติหน้าที่ที่ผิดระเบียบของเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินให้ถูกต้องมาเป็นเหตุว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้วไม่ได้
of 481