คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 420

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,810 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4174/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมสมัครรับเลือกตั้งเป็นละเมิดต่อเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งและทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยใช้ใบสุทธิปลอมสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อเจ้าหน้าที่ของโจทก์และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นเหตุให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญต้องมีคำวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจำเลยสิ้นสุดลงและโจทก์ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่แสดงว่าจำเลยมีเจตนาไม่สุจริตมาแต่ต้นจงใจกระทำผิดกฎหมายละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์การกระทำของจำเลยเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา420และจำเลยต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4174/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมสมัครรับเลือกตั้งเป็นละเมิดต่อสิทธิของหน่วยงานจัดการเลือกตั้งและทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยใช้ใบสุทธิปลอมสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อเจ้าหน้าที่ของโจทก์และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นเหตุให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญต้องมีคำวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจำเลยสิ้นสุดลงและโจทก์ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาไม่สุจริตมาแต่ต้น จงใจกระทำผิดกฎหมายละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 และจำเลยต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4127/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยค้ำจุน: ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดหากผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาต
ความรับผิดของจำเลยที่ 3 ที่มีต่อโจทก์ เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่ 2 ผู้เอาประกันภัยกับจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าว จำเลยที่ 3 ย่อมยกเงื่อนไขข้อยกเว้น และข้อจำกัดความรับผิดของตนที่กำหนดไว้ในสัญญาขึ้นต่อสู้กับโจทก์ได้ เว้นแต่เงื่อนไขข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมาย
ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใด ๆ ใช้บังคับได้ เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 3จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2 และยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ได้จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4127/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นกรมธรรม์ประกันภัย กรณีผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาต และผลกระทบต่อความรับผิดของผู้รับประกันภัยต่อบุคคลภายนอก
ความรับผิดของจำเลยที่3ที่มีต่อโจทก์เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่2ผู้เอาประกันภัยกับจำเลยที่3ผู้รับประกันภัยเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยที่3ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่1ที่2โดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าวจำเลยที่3ย่อมยกเงื่อนไขข้อยกเว้นและข้อจำกัดความรับผิดของตนที่กำหนดไว้ในสัญญาขึ้นต่อสู้กับโจทก์ได้เว้นแต่เงื่อนไขข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมาย ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่3ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใดๆใช้บังคับได้เมื่อจำเลยที่1ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยจำเลยที่3จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่2และยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ได้จำเลยที่3ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4127/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยค้ำจุน: ข้อยกเว้นความรับผิดเนื่องจากผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตใช้บังคับได้
ความรับผิดของจำเลยที่ 3 ที่มีต่อโจทก์ เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่ 2 ผู้เอาประกันภัยกับจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าว จำเลยที่ 3 ย่อมยกเงื่อนไข ข้อยกเว้น และข้อจำกัดความรับผิดของตนที่กำหนดไว้ในสัญญาขึ้นต่อสู้กับโจทก์ได้ เว้นแต่เงื่อนไขข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมาย
ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใด ๆ ใช้บังคับได้ เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2 และยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ได้จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4114/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานะการครอบครอง และผลต่ออายุความฟ้องแย่งการครอบครอง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากบ้านและที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จำเลยและจำเลยร่วมให้การว่า เมื่อโจทก์มาพูดขับไล่จำเลยและบริวารออกจากบ้านและที่ดินพิพาท จำเลยและบริวารไม่ยอมออกอ้างว่า บ้านและที่ดินดังกล่าวเป็นของจำเลย และให้การตัดฟ้องโจทก์ว่า โจทก์มิได้ฟ้องคดีซึ่งมีการแย่งการครอบครองภายใน 1 ปี จำเลยจึงได้สิทธิครอบครองตามกฎหมายดังนี้ถือได้ว่าจำเลยต่อสู้ว่าได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือบ้านและที่ดินพิพาทโดยบอกกล่าวต่อโจทก์แล้ว จึงเป็นประเด็นโดยตรงในคดีที่ศาลจะหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
เมื่อโจทก์บอกจำเลยว่าได้ซื้อบ้านและที่ดินพิพาทไว้แล้ว ให้จำเลยกับบริวารออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาท จำเลยไม่ยอมออกโดยบอกโจทก์ว่าไม่มีที่จะไป แล้วจำเลยคงอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทต่อมา คำพูดของจำเลยดังกล่าวมิใช่เป็นการบอกกล่าวว่าไม่เจตนาจะยึดถือบ้านและที่ดินรายพิพาทแทนโจทก์ต่อไป อันเป็นการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 การที่จำเลยอาศัยอยู่ต่อมาเป็นการครอบครองบ้านและที่ดินพิพาทในฐานะเป็นผู้แทนโจทก์ โจทก์จึงไม่จำต้องฟ้องจำเลยภายในกำหนด 1 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3926/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบิดามารดาต่อการกระทำละเมิดของบุตร: เหตุสุดวิสัยและความสามารถในการคาดการณ์
การที่เด็กชาย ส. อายุ 10 ปี ใช้ก้อนอิฐขว้างเด็กชาย ธ.อายุ 9 ปี ได้รับบาดเจ็บลับหลังบิดามารดาของตนเป็นพฤติการณ์ที่บิดามารดาของเด็กชาย ส.ไม่อาจคาดคิดหรือควรคิดได้ว่า เด็กชาย ส. จะกระทำเช่นนั้น เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญและเหลือวิสัยที่บิดามารดาของเด็กชาย ส.จะใช้ความระมัดระวังได้ บิดามารดาของเด็กชาย ส. จึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดของเด็กชาย ส.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3926/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบิดามารดาต่อการกระทำละเมิดของบุตร การกระทำโดยบังเอิญและเหลือวิสัย
การที่เด็กชาย ส.อายุ10ปีใช้ก้อนอิฐขว้างเด็กชายธ.อายุ 9 ปี ได้รับบาดเจ็บลับหลังบิดามารดาของตนเป็นพฤติการณ์ที่บิดามารดา ของเด็กชาย ส.ไม่อาจคาดคิดหรือควรคิดได้ว่า เด็กชาย ส. จะกระทำเช่นนั้น เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญและเหลือวิสัย ที่บิดามารดาของเด็กชายส.จะใช้ความระมัดระวังได้ บิดามารดาของเด็กชายส.จึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดของ เด็กชายส.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3926/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบิดามารดาต่อการกระทำละเมิดของบุตร กรณีเหตุสุดวิสัย
การที่เด็กชายส.อายุ10ปีใช้ก้อนอิฐขว้างเด็กชายธ.อายุ9ปีได้รับบาดเจ็บลับหลังบิดามารดาของตนเป็นพฤติการณ์ที่บิดามารดาของเด็กชายส.ไม่อาจคาดคิดหรือควรคิดได้ว่าเด็กชายส.จะกระทำเช่นนั้นเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญและเหลือวิสัยที่บิดามารดาของเด็กชายส.จะใช้ความระมัดระวังได้บิดามารดาของเด็กชายส.จึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดของเด็กชายส..

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3856/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการประมาทเลินเล่อของพนักงานรถไฟและการประมาทของผู้ตายในการข้ามทางรถไฟ
จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานขับรถจักรขับรถไฟไปจอดที่สถานีแล้วนำหัวรถจักรไปรับตู้รถสินค้ามาต่อกับตู้รถโดยสารเพื่อเดินทางต่อไปได้ถอยหัวรถจักรเข้าต่อรับเอาตู้รถสินค้าในขณะที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นพนักงานสับเปลี่ยนคอยให้สัญญาณแก่จำเลยที่ 1 โดยไม่มีพนักงานผู้ช่วยมาคอยควบคุมดูแลความปลอดภัยอยู่ท้ายขบวนรถ เป็นเหตุให้ตู้รถสินค้าที่อยู่ท้ายขบวนถอยหลังไปชนผู้ตายขณะกำลังเดินผ่านข้ามรางรถไฟ ดังนี้จำเลยที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อ จำเลยที่ 2 และการรถไฟแห่งประเทศไทยจำเลยที่ 3ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำละเมิดดังกล่าวแต่ผู้ตายคุ้นเคยกับการเดินผ่านข้ามทางรถไฟในบริเวณดังกล่าว เดินผ่านรางรถไฟมาพร้อมกับคนอื่นหลายคนมีผู้ตายประสบอุบัติเหตุเพียงคนเดียว แสดงว่าผู้ตายไม่ได้ใช้ความระมัดระวังเพียงพอ เดินผ่านข้ามรางห่างตู้รถสินค้าในระยะกระชั้นชิด ต้องถือว่าผู้ตายมีส่วนประมาทเช่นเดียวกัน เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นจากการกระทำของจำเลยที่ 2 แต่ผู้ตายก็มีส่วนก่อ ให้เกิดความเสียหาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 ที่ 3 ร่วมรับผิด ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่จำเลยครึ่งหนึ่งของค่าเสียหายทั้งหมด
of 481