พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,810 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2603/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนรถยนต์ของกลางที่ศาลฎีกายืนให้คืน และการชดใช้ค่าเสียหายจากการใช้รถทดแทน
คนขับรถยนต์ของโจทก์นำรถไปบรรทุกไม้ผิดกฎหมายศาลพิพากษาลงโทษและสั่งริบรถยนต์ ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาให้คืนรถยนต์ของกลางแก่โจทก์ตามคำร้อง โจทก์ขอรับรถคืนสารวัตรสถานีตำรวจจำเลยที่ 3 ไม่คืนให้ เพราะได้ขายทอดตลาดไปแล้ว ดังนี้ กรมตำรวจจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ต้องร่วมกันคืนรถหรือใช้ราคารถตามสภาพขณะยึดมาเป็นของกลางไม่ใช่ตีราคาโดยอาศัยราคาที่ได้จากการขายทอดตลาด รวมทั้งค่าเสียหายที่ไม่ได้ใช้รถด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2602/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีละเมิด: ผู้เสียหายต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับจากวันที่รู้ตัวผู้กระทำผิดและมูลละเมิด
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงวันที่ทำการละเมิดและรู้ตัวว่าจำเลยเป็นผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว โจทก์จึงต้องฟ้องคดีเสียภายในหนึ่งปีนับแต่นั้น โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินหนึ่งปี โจทก์ก็จะต้องบรรยายในฟ้องให้เห็นว่าเหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเมื่อเกินหนึ่งปีได้เมื่อโจทก์มิได้บรรยายเหตุที่โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีดังกล่าวได้และเมื่อจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้ศาลก็ต้องฟังว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2602/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีละเมิด: โจทก์ต้องระบุเหตุมีสิทธิฟ้องคดีแม้เกินหนึ่งปีนับจากวันที่รู้ตัวผู้กระทำละเมิด
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงวันที่ทำการละเมิดและรู้ตัวว่าจำเลยเป็นผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว โจทก์จึงต้องฟ้องคดีเสียภายในหนึ่งปีนับแต่นั้น โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินหนึ่งปี โจทก์ก็จะต้องบรรยายในฟ้องให้เห็นว่าเหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเมื่อเกินหนึ่งปีได้ เมื่อโจทก์มิได้บรรยายเหตุที่โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีดังกล่าวได้ และเมื่อจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้ศาลก็ต้องฟังว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2565/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่ดินหลังแบ่งแยกกรรมสิทธิ์และสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310 และมาตรา 1312เป็นบทบัญญัติเรื่องที่ผู้สร้างมิได้รู้ว่า ที่ดินที่สร้างโรงเรือนหรือสร้างรุกล้ำนั้นเป็นที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริต จะนำมาใช้ในกรณีจำเลยสร้างโรงเรือนในที่ดินขณะยังเป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างโจทก์จำเลยและบุคคลอื่นอยู่ หลังจากรังวัดแบ่งแยกที่ดินแล้วปรากฏว่า เรือนจำเลยปลูกสร้างอยู่ในที่ดินของโจทก์ไม่ได้ จำเลยต้องรื้อเรือนออกไป และไม่มีสิทธิฟ้องร้องว่ากล่าวเกี่ยวกับค่าแห่งที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะการสร้างโรงเรือนของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2517/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทจากการขนส่งเสาเข็มโดยรถลากจูง และความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อลูกจ้าง
รถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับมาในเวลากลางคืนลากจูงรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มคอนกรีตยาวประมาณ 25 เมตรมาด้วย 2 ต้น ไม่มีสัญญาณไฟตามแนวความยาวของเสาเข็ม เมื่อรถลากจูงเลี้ยวขวาจากถนนหนึ่งเข้าอีกถนนหนึ่งไปแล้ว ตัวรถพ่วงเสาเข็มยังทะแยงขวางถนนอยู่ เป็นเหตุให้รถจี๊ปตรวจการณ์ปะทะกับส่วนกลางของเสาเข็มถูกลากติดไปกับส่วนหน้าของรถพ่วงและอัดติดอยู่ใต้เสาเข็มผู้ตายซึ่งนั่งมาในรถจี๊ปถึงแก่ความตายทันที ดังนี้เป็นความประมาทของจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 2 รับว่าจำเลยที่ 1 รับเหมาขนเสาเข็มโดยใช้รถของห้างจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ยังได้ไปตกลงเรื่องค่าเสียหายกับฝ่ายโจทก์ หุ้นส่วนคนหนึ่งของจำเลยที่ 2 เบิกความว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 บรรทุกเสาเข็มไปส่งให้แก่ลูกค้าในวันเกิดเหตุเช่นนี้ ย่อมฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 รับว่าจำเลยที่ 1 รับเหมาขนเสาเข็มโดยใช้รถของห้างจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ยังได้ไปตกลงเรื่องค่าเสียหายกับฝ่ายโจทก์ หุ้นส่วนคนหนึ่งของจำเลยที่ 2 เบิกความว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 บรรทุกเสาเข็มไปส่งให้แก่ลูกค้าในวันเกิดเหตุเช่นนี้ ย่อมฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2517/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากรถลากจูงบรรทุกเสาเข็มโดยประมาท และความสัมพันธ์นายจ้าง-ลูกจ้าง
รถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับมาในเวลากลางคืนลากจูงรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มคอนกรีตยาวประมาณ 25 เมตรมาด้วย 2 ต้นไม่มีสัญญาณไฟตามแนวความยาวของเสาเข็ม เมื่อรถลากจูงเลี้ยวขวาจากถนนหนึ่งเข้าอีกถนนหนึ่งไปแล้ว ตัวรถพ่วงเสาเข็มยังทะแยงขวางถนนอยู่เป็นเหตุให้รถจี๊ปตรวจการณ์ปะทะกับส่วนกลางของเสาเข็มถูกลากติดไปกับส่วนหน้าของรถพ่วงและอัดติดอยู่ใต้เสาเข็มผู้ตายซึ่งนั่งมาในรถจี๊ปถึงแก่ความตายทันที ดังนี้เป็นความประมาทของจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 2 รับว่าจำเลยที่ 1 รับเหมาขนเสาเข็มโดยใช้รถของห้างจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ยังได้ไปตกลงเรื่องค่าเสียหายกับฝ่ายโจทก์ หุ้นส่วนคนหนึ่งของจำเลยที่ 2 เบิกความว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 บรรทุกเสาเข็มไปส่งให้แก่ลูกค้าในวันเกิดเหตุเช่นนี้ ย่อมฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 รับว่าจำเลยที่ 1 รับเหมาขนเสาเข็มโดยใช้รถของห้างจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ยังได้ไปตกลงเรื่องค่าเสียหายกับฝ่ายโจทก์ หุ้นส่วนคนหนึ่งของจำเลยที่ 2 เบิกความว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 บรรทุกเสาเข็มไปส่งให้แก่ลูกค้าในวันเกิดเหตุเช่นนี้ ย่อมฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2495/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินจากการมอบเป็นประกันหนี้: การบุกรุกถือเป็นการละเมิด
การที่ ส.มอบที่พิพาทให้โจทก์ไว้เป็นประกันเงินกู้และให้ทำกินต่างดอกเบี้ยนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิครอบครองที่พิพาทจนกว่าจะได้รับชำระหนี้ครบถ้วนตามสัญญาเมื่อจำเลยบุกรุกเข้าไปทำนาในที่พิพาทจึงเป็นการละเมิดสิทธิครอบครองของโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2417/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บริษัทประกันภัยไม่อาจรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ประมาทเองได้ แม้จะจ่ายเงินชดใช้ให้
ช. ขับรถยนต์ชนกับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีจำเลยที่ 1 ลูกจ้างเป็นผู้ขับขี่ไปในทางการที่จ้าง ช. ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาและศาลพิพากษาลงโทษฐานขับรถยนต์ประมาทเป็น เหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย คดีถึงที่สุด ดัง นั้น ช. ไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ที่จะมีสิทธิเรียกร้อง ค่าเสียหายได้จากจำเลยทั้งสอง แม้โจทก์ซึ่งรับประกันภัย รถยนต์ไว้จาก ช. จะได้ชำระเงินให้แก่ ช. ไป ก็เป็นการปฏิบัติไปตามสัญญาในกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ทำไว้กับ ช. แต่หาอาจก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะรับช่วงสิทธิ จาก ช. นำคดีมาฟ้องจำเลยทั้งสองให้ร่วมกันรับผิดต่อ โจทก์ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 นั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2417/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ประมาทเอง ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้อื่น แม้มีประกันภัย
ช. ขับรถยนต์ชนกับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีจำเลยที่ 1 ลูกจ้างเป็นผู้ขับขี่ไปในทางการที่จ้าง ช. ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาและศาลพิพากษาลงโทษฐานขับรถยนต์ประมาทเป็น เหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย คดีถึงที่สุด ดัง นั้น ช. ไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ที่จะมีสิทธิเรียกร้อง ค่าเสียหายได้จากจำเลยทั้งสอง แม้โจทก์ซึ่งรับประกันภัย รถยนต์ไว้จาก ช. จะได้ชำระเงินให้แก่ ช. ไป ก็เป็นการปฏิบัติไปตามสัญญาในกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ทำไว้กับ ช. แต่หาอาจก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะรับช่วงสิทธิ จาก ช. นำคดีมาฟ้องจำเลยทั้งสองให้ร่วมกันรับผิดต่อ โจทก์ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 นั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2326/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมูลที่ราชการสงวนสิทธิเลือกผู้ประมูล ผู้เข้าประมูลยินยอมแล้ว ไม่มีสิทธิฟ้อง
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เข้าประมูลเช่าโรงงานสุราบางยี่ขันร่วมกับจำเลยที่ 3 และผู้อื่น ได้ยินยอมตกลงตามแจ้งความของทางราชการที่สงวนสิทธิในการเลือกผู้เข้าประมูลรายใดก็ได้ให้เป็นผู้เช่าตามที่เห็นสมควร โดยผู้เข้าประมูลไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น ดังนี้เมื่อทางราชการได้ใช้สิทธิเลือกจำเลยที่ 3 ให้เป็นผู้เช่า โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาเช่าที่ทางราชการได้ทำขึ้นกับผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้เช่า หรือขอให้ใช้ค่าเสียหาย
มติคณะรัฐมนตรีที่ให้บริษัท ส. เป็นผู้ประมูลได้ และลงมติอนุมัติให้บริษัทดังกล่าวทำสัญญาเช่าโรงงานสุราบางยี่ขันเป็นการปฏิบัติราชการตามอำนาจและหน้าที่ของฝ่ายบริหารโดยเฉพาะ ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนมติดังกล่าวหาได้ไม่ ทั้งโจทก์ก็ยินยอมให้ทางราชการสงวนสิทธิที่จะเลือกผู้เข้าประมูลคนใดให้เป็นผู้เช่าได้ตามที่เห็นสมควร โจทก์จึงไม่มี อำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนมติดังกล่าว
มติคณะรัฐมนตรีที่ให้บริษัท ส. เป็นผู้ประมูลได้ และลงมติอนุมัติให้บริษัทดังกล่าวทำสัญญาเช่าโรงงานสุราบางยี่ขันเป็นการปฏิบัติราชการตามอำนาจและหน้าที่ของฝ่ายบริหารโดยเฉพาะ ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนมติดังกล่าวหาได้ไม่ ทั้งโจทก์ก็ยินยอมให้ทางราชการสงวนสิทธิที่จะเลือกผู้เข้าประมูลคนใดให้เป็นผู้เช่าได้ตามที่เห็นสมควร โจทก์จึงไม่มี อำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนมติดังกล่าว