พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,810 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2961/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในเหตุละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: ผู้ขับขี่ทางโทประมาทเป็นเหตุให้ชนรถทางเอก
ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ชำนาญพอ ขับรถทางโทโดยประมาทพุ่งเข้าชนรถยนต์จำเลยที่ขับอยู่ในทางเอก ดังนี้ ความเสียหายเกิดขึ้นจากความผิดของผู้ตายฝ่ายเดียว หาใช่เป็นผลโดยตรงที่เกิดจากการที่จำเลยขับรถยนต์ เมื่อจะผ่านทางแยกด้วยความเร็วประมาณ 30 - 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกินอัตราที่กำหนดอันเป็นการฝ่าฝืนบทบังคับแห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก แต่อย่างใดไม่ ฉะนั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2961/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางถนน: ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ประมาทเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย
ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ชำนาญพอ ขับออกจากทางโทโดยประมาทพุ่งเข้าชนรถยนต์จำเลยที่ขับอยู่ในทางเอกดังนี้ ความเสียหายเกิดขึ้นจากความผิดของผู้ตายฝ่ายเดียว หาใช่เป็น ผลโดยตรงที่เกิดจากการที่จำเลยขับรถยนต์เมื่อจะผ่านทางแยกด้วยความเร็วประมาณ 30-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกินอัตราที่กำหนดอันเป็นการฝ่าฝืนบทบังคับแห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ แต่อย่างใดไม่ ฉะนั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2948/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถเช่าซื้อ, อายุความฟ้อง, ความรับผิดทางละเมิดของนายจ้าง, คำพิพากษาทางอาญาไม่ผูกพันทางแพ่ง
คำฟ้องโจทก์บรรยายว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถโดยเช่าซื้อมาจากผู้อื่นเมื่อโจทก์นำสืบเชื่อได้ว่าโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วน ทะเบียนรถโอนเป็นชื่อโจทก์แล้วรถย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าซ่อมตัวรถของโจทก์ที่เสียหายเพราะการละเมิดได้
แม้จำเลยจะให้การต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแต่ชั้นพิจารณาศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นไว้ และจำเลยมิได้คัดค้าน จำเลยจะยกปัญหาเรื่องอายุความขึ้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 5 เป็นคดีอาญาฐานขับรถยนต์โดยประมาทผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 เป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแต่โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์โดยสารปรับอากาศที่ได้รับความเสียหายไม่อยู่ในฐานะที่พนักงานอัยการจะฟ้องจำเลยที่ 5 แทนโจทก์คำพิพากษาทางอาญาจึงไม่ผูกพันโจทก์ ศาลฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นได้
แม้จำเลยจะให้การต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแต่ชั้นพิจารณาศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นไว้ และจำเลยมิได้คัดค้าน จำเลยจะยกปัญหาเรื่องอายุความขึ้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 5 เป็นคดีอาญาฐานขับรถยนต์โดยประมาทผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 เป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแต่โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์โดยสารปรับอากาศที่ได้รับความเสียหายไม่อยู่ในฐานะที่พนักงานอัยการจะฟ้องจำเลยที่ 5 แทนโจทก์คำพิพากษาทางอาญาจึงไม่ผูกพันโจทก์ ศาลฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2904/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อการละเมิดของลูกจ้างขณะปฏิบัติงาน แม้ลูกจ้างจะเบี่ยงเบนจากระเบียบ
จำเลยที่ 1 นำรถออกไปขนขยะอันเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 หน้าที่ของจำเลยที่ 1 เริ่มตั้งแต่นำรถออกจากอู่ของจำเลยที่ 2 และจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อนำรถเข้าจอดที่อู่ตามเดิมเมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปธุระส่วนตัวในระหว่างออกไปปฏิบัติงานตามหน้าที่และกระทำละเมิดต่อโจทก์ภายในเส้นทางที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้างจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
ระเบียบเกี่ยวกับการใช้รถเป็นวิธีปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเพื่อปฏิเสธความรับผิดซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกได้
ระเบียบเกี่ยวกับการใช้รถเป็นวิธีปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเพื่อปฏิเสธความรับผิดซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2904/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดของลูกจ้าง แม้ลูกจ้างจะฝ่าฝืนระเบียบ หากการกระทำเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติงานตามหน้าที่
จำเลยที่ 1 นำรถออกไปขนขยะอันเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 หน้าที่ของจำเลยที่ 1 เริ่มตั้งแต่นำรถออกจากอู่ของจำเลยที่ 2 และจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อนำรถเข้าจอดที่อู่ตามเดิม เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปธุระส่วนตัวในระหว่างออกไปปฏิบัติงานตามหน้าที่และกระทำละเมิดต่อโจทก์ภายในเส้นทางที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
ระเบียบเกี่ยวกับการใช้รถเป็นวิธีปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเพื่อปฏิเสธความรับผิดซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกได้
ระเบียบเกี่ยวกับการใช้รถเป็นวิธีปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเพื่อปฏิเสธความรับผิดซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2867/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีละเมิดของผู้ถือหุ้น: ผู้ถือหุ้นไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำละเมิดต่อบริษัท
ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องละเมิด และอ้างผลที่ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นผลโดยตรงต่อบริษัท ร.โจทก์ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท ร. จึงมิใช่ผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำของจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดูแลควบคุมบุตร การใช้รถผิดประเภท และความรับผิดในความเสียหาย
จำเลยที่ 1 อายุ 17 ปี อยู่ในความปกครองของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นบิดามารดา จำเลยที่ 1 ขับรถแทรกเตอร์ของโจทก์เข้าไปดับไฟซึ่งลุกไหม้ที่ไร่อ้อยเป็นเหตุให้รถแทรกเตอร์ของโจทก์ถูกไฟไหม้เสียหาย แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 เคยเห็นจำเลยที่ 1 ขับรถแทรกเตอร์ของโจทก์มาก่อนและมิได้ว่ากล่าวห้ามปรามก็ตามการขับรถแทรกเตอร์ของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 รู้เห็นและมิได้ห้ามปรามนั้นเป็นการขับรถแทรกเตอร์ตามปกติแต่การกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ในคดีนี้เป็นการขับรถแทรกเตอร์ของโจทก์เข้าไปดับไฟ โดยรถแทรกเตอร์ของโจทก์มิได้มีไว้เพื่อใช้ในการดับไฟ เป็นการใช้รถแทรกเตอร์ของโจทก์ผิดจากปกติ หาใช่การขับรถที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 มิได้ว่ากล่าวห้ามปรามไม่ ทั้งขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ที่ 3 อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุถึง 1 กิโลเมตรเศษย่อมไม่อาจห้ามปรามมิให้จำเลยที่ 1 ขับรถเข้าไปดับไฟได้ และการที่ไฟไหม้ไร่อ้อยเป็นเหตุเกิดขึ้นโดยปัจจุบัน จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่อาจคาดหมายและกำชับล่วงหน้ามิให้จำเลยที่ 1 ขับรถเข้าไปดับไฟ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลจำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่ต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของบิดามารดาต่อการกระทำละเมิดของบุตร การใช้รถผิดประเภท และการดูแลตามสมควร
จำเลยที่ 1 อายุ 17 ปี อยู่ในความปกครองของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นบิดามารดา จำเลยที่ 1 ขับรถแทรกเตอร์ของโจทก์เข้าไปดับไฟซึ่งลุกไหม้ที่ไร่อ้อยเป็นเหตุให้รถแทรกเตอร์ของโจทก์ถูกไฟไหม้เสียหาย แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 เคยเห็นจำเลยที่ 1 ขับรถแทรกเตอร์ของโจทก์มาก่อนและมิได้ว่ากล่าวห้ามปรามก็ตามการขับรถแทรกเตอร์ของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 รู้เห็นและมิได้ห้ามปรามนั้นเป็นการขับรถแทรกเตอร์ตามปกติ แต่การกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1ในคดีนี้เป็นการขับรถแทรกเตอร์ของโจทก์เข้าไปดับไฟ โดยรถแทรกเตอร์ของโจทก์มิได้มีไว้เพื่อใช้ในการดับไฟ เป็นการใช้รถแทรกเตอร์ของโจทก์ผิดจากปกติ หาใช่การขับรถที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 มิได้ว่ากล่าวห้ามปรามไม่ ทั้งขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ที่ 3 อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุถึง1 กิโลเมตรเศษย่อมไม่อาจห้ามปรามมิให้จำเลยที่ 1 ขับรถเข้าไปดับไฟได้ และการที่ไฟไหม้ไร่อ้อยเป็นเหตุเกิดขึ้นโดยปัจจุบัน จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่อาจคาดหมายและกำชับล่วงหน้ามิให้จำเลยที่ 1 ขับรถเข้าไปดับไฟ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลจำเลยที่ 1แล้ว จำเลยที่ 2 ที่ 3ไม่ต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2663/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบพิสูจน์ความเสียหายในคดีละเมิด และขอบเขตการคัดค้านพยานเอกสาร
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหลายรายการ จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำการตามที่โจทก์กล่าวอ้างและโจทก์มิได้เสียหายโจทก์มีหน้าที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่า จำเลยได้ทำการต่างๆ อันเป็นเหตุให้โจทก์มิได้รับความเสียหายเป็นจำนวนดังที่ฟ้องมา
การคัดค้านพยานเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 125 ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้คัดค้านเสียก่อนวันสืบพยานนั้น เป็นการให้คัดค้านในเรื่องการมีอยู่ของต้นฉบับความแท้จริงของต้นฉบับหรือความถูกต้องตามต้นฉบับของสำเนาที่อ้าง หาใช่บังคับให้ต้องคัดค้านไว้ก่อนว่าข้อความในเอกสารไม่ถูกต้อง แม้จำเลยมิได้คัดค้านบัญชีงบดุลที่โจทก์ส่งศาล จำเลยก็ยังโต้เถียงได้ว่าการคิดบัญชีนั้นไม่ถูกต้อง
การคัดค้านพยานเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 125 ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้คัดค้านเสียก่อนวันสืบพยานนั้น เป็นการให้คัดค้านในเรื่องการมีอยู่ของต้นฉบับความแท้จริงของต้นฉบับหรือความถูกต้องตามต้นฉบับของสำเนาที่อ้าง หาใช่บังคับให้ต้องคัดค้านไว้ก่อนว่าข้อความในเอกสารไม่ถูกต้อง แม้จำเลยมิได้คัดค้านบัญชีงบดุลที่โจทก์ส่งศาล จำเลยก็ยังโต้เถียงได้ว่าการคิดบัญชีนั้นไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2663/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานหลักฐานในคดีละเมิด และการโต้แย้งความถูกต้องของเอกสารบัญชี
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหลายรายการ จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำการตามที่โจทก์กล่าวอ้างและโจทก์มิได้เสียหายโจทก์มีหน้าที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่า จำเลยได้ทำการต่างๆ อันเป็นเหตุให้โจทก์มิได้รับความเสียหายเป็นจำนวนดังที่ฟ้องมา
การคัดค้านพยานเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 125 ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้คัดค้านเสียก่อนวันสืบพยานนั้น เป็นการให้คัดค้านในเรื่องการมีอยู่ของต้นฉบับความแท้จริงของต้นฉบับหรือความถูกต้องตามต้นฉบับของสำเนาที่อ้าง หาใช่บังคับให้ต้องคัดค้านไว้ก่อนว่าข้อความในเอกสารไม่ถูกต้อง แม้จำเลยมิได้คัดค้านบัญชีงบดุลที่โจทก์ส่งศาล จำเลยก็ยังโต้เถียงได้ว่าการคิดบัญชีนั้นไม่ถูกต้อง
การคัดค้านพยานเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 125 ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้คัดค้านเสียก่อนวันสืบพยานนั้น เป็นการให้คัดค้านในเรื่องการมีอยู่ของต้นฉบับความแท้จริงของต้นฉบับหรือความถูกต้องตามต้นฉบับของสำเนาที่อ้าง หาใช่บังคับให้ต้องคัดค้านไว้ก่อนว่าข้อความในเอกสารไม่ถูกต้อง แม้จำเลยมิได้คัดค้านบัญชีงบดุลที่โจทก์ส่งศาล จำเลยก็ยังโต้เถียงได้ว่าการคิดบัญชีนั้นไม่ถูกต้อง