พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,810 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของเจ้าหน้าที่รังวัดและกรมที่ดิน กรณีคำนวณเนื้อที่ดินผิดพลาดจนทำให้เจ้าของที่ดินเสียประโยชน์
จำเลยที่ 2 เป็นข้าราชการในกรมที่ดินจำเลยที่ 1 และเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำแผนที่ ได้ทำการรังวัดและคำนวณเนื้อที่ดินในแผนที่พิพาท ในคดีที่โจทก์ฟ้องผู้มีชื่อผิดพลาดด้วยความประมาทเลินเล่อ โดยว่าที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่เกินไปจากที่ระบุไว้ในโฉนด ซึ่งความจริงที่ดินของโจทก์ก็ได้มีเนื้อที่เกินไปจากโฉนดแต่อย่างใด เป็นเหตุให้ศาลวินิจฉัยฟังว่าที่ดินพิพาทในคดีดังกล่าวอยู่นอกเขตโฉนดของโจทก์และพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เช่นนี้จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของข้าราชการที่ทำการรังวัดที่ดินผิดพลาด ทำให้เจ้าของที่ดินเสียประโยชน์
จำเลยที่ 2 เป็นข้าราชการในกรมที่ดินจำเลยที่ 1 และเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำแผนที่ ได้ทำการรังวัดและคำนวณเนื้อที่ดินในแผนที่พิพาท ในคดีที่โจทก์ฟ้องผู้มีชื่อผิดพลาดด้วยความประมาทเลินเล่อ โดยว่าที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่เกินไปจากที่ระบุไว้ในโฉนด ซึ่งความจริงที่ดินของโจทก์มิได้มีเนื้อที่เกินไปจากโฉนดแต่อย่างใด เป็นเหตุให้ศาลวินิจฉัยฟังว่าที่ดินพิพาทในคดีดังกล่าวอยู่นอกเขตโฉนดของโจทก์และพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เช่นนี้ จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2947/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการจดทะเบียนสิทธิที่ดินปลอม และความประมาทของผู้รับซื้อฝาก
จำเลยที่ 2 ผู้ช่วยหัวหน้าเขตที่ดินมีหน้าที่สอบสวนการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้แทนของกรมที่ดินจำเลยที่ 3 เมื่อจำเลยที่ 2 ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ของผู้ขายฝากโดยประมาทเลินเล่อจึงไม่ทราบว่าผู้ขายฝากไม่ใช่เจ้าของที่ดิน และรับจดทะเบียนขายฝากไป ทำให้โจทก์ผู้รับซื้อฝากเสียหายจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย
โจทก์รับซื้อฝากที่ดินโดยไม่ได้สืบสวนว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดหรือไม่ แต่ให้คำรับรองต่อจำเลยที่ 2 ว่า โจทก์ติดต่อกับเจ้าของที่ดินโดยตรง หากเกิดความผิดพลาดโจทก์ขอรับผิดชอบเอง ถือได้ว่าโจทก์มีส่วนส่งเสริมให้จำเลยที่ 2 ประมาทนับว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อด้วยควรร่วมรับผิดในผลละเมิดเป็นจำนวนหนึ่งในนั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดในกรณีเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 รับผิดน้อยลง ศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลตลอดถึงจำเลยที่ 1 ได้
โจทก์รับซื้อฝากที่ดินโดยไม่ได้สืบสวนว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดหรือไม่ แต่ให้คำรับรองต่อจำเลยที่ 2 ว่า โจทก์ติดต่อกับเจ้าของที่ดินโดยตรง หากเกิดความผิดพลาดโจทก์ขอรับผิดชอบเอง ถือได้ว่าโจทก์มีส่วนส่งเสริมให้จำเลยที่ 2 ประมาทนับว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อด้วยควรร่วมรับผิดในผลละเมิดเป็นจำนวนหนึ่งในนั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดในกรณีเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 รับผิดน้อยลง ศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลตลอดถึงจำเลยที่ 1 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2947/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของเจ้าหน้าที่ที่ดิน, ผู้รับซื้อฝาก และการประมาทเลินเล่อในการจดทะเบียนสิทธิที่ดิน
จำเลยที่ 2 ผู้ช่วยหัวหน้าเขตที่ดินมีหน้าที่สอบสวนการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้แทนของกรมที่ดินจำเลยที่ 3 เมื่อจำเลยที่ 2ตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ของผู้ขายฝากโดยประมาทเลินเล่อจึงไม่ทราบว่าผู้ขายฝากไม่ใช่เจ้าของที่ดินและรับจดทะเบียนขายฝากไปทำให้โจทก์ผู้รับซื้อฝากเสียหาย จำเลยที่ 3 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย
โจทก์รับซื้อฝากที่ดิน โดยไม่ได้สืบสวนว่าจำเลยที่ 1เป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดหรือไม่ แต่ให้คำรับรองต่อจำเลยที่ 2 ว่าโจทก์ติดต่อกับเจ้าของที่ดินโดยตรง หากเกิดความผิดพลาดโจทก์ขอรับผิดชอบเอง ถือได้ว่าโจทก์มีส่วนส่งเสริมให้จำเลยที่ 2ประมาทนับว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อด้วยควรร่วมรับผิดในผลละเมิดเป็นจำนวนหนึ่งในห้า
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิด กรณีเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 รับผิดน้อยลง ศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลตลอดถึงจำเลยที่ 1 ได้
โจทก์รับซื้อฝากที่ดิน โดยไม่ได้สืบสวนว่าจำเลยที่ 1เป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดหรือไม่ แต่ให้คำรับรองต่อจำเลยที่ 2 ว่าโจทก์ติดต่อกับเจ้าของที่ดินโดยตรง หากเกิดความผิดพลาดโจทก์ขอรับผิดชอบเอง ถือได้ว่าโจทก์มีส่วนส่งเสริมให้จำเลยที่ 2ประมาทนับว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อด้วยควรร่วมรับผิดในผลละเมิดเป็นจำนวนหนึ่งในห้า
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิด กรณีเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 รับผิดน้อยลง ศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลตลอดถึงจำเลยที่ 1 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2930/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันบังคับได้ แม้เป็นการตกลงเรื่องการรุกล้ำที่ดิน การละเมิดสิทธิในที่ดินต้องรับผิด
บันทึกรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีซึ่งมีข้อความเป็นการตกลงระงับพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยในเรื่องการสร้างรั้วรุกล้ำ และได้ลงลายมือชื่อโจทก์จำเลยไว้เป็นหลักฐานด้วย ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850,851
การที่จำเลยก่อสร้างกำแพงรุกล้ำที่ดินของโจทก์และขนเศษอิฐเศษปูนที่นำไปทิ้งในที่ดินของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลย จะอ้างว่าการกระทำดังกล่าวเป็นประโยชน์แก่โจทก์ทำให้เกิด ความสวยงามและที่ดินของโจทก์ราคาสูงขึ้นไม่ได้เพราะประเด็น สำคัญอยู่ที่ว่าการ กระทำของจำเลยเป็นการละเมิดสิทธิในที่ดินของโจทก์
การที่จำเลยก่อสร้างกำแพงรุกล้ำที่ดินของโจทก์และขนเศษอิฐเศษปูนที่นำไปทิ้งในที่ดินของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลย จะอ้างว่าการกระทำดังกล่าวเป็นประโยชน์แก่โจทก์ทำให้เกิด ความสวยงามและที่ดินของโจทก์ราคาสูงขึ้นไม่ได้เพราะประเด็น สำคัญอยู่ที่ว่าการ กระทำของจำเลยเป็นการละเมิดสิทธิในที่ดินของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2919/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของตัวแทนและความรับผิดทางละเมิด: การเปลี่ยนแปลงตัวแทนและการฟ้องร้องที่ไม่ชัดเจน
แม้โจทก์จะมีสัญญากับบริษัท พ. ให้โจทก์แต่ผู้เดียวเป็นผู้จำหน่ายและผูกขาดการนำสินค้าของบริษัท พ. เข้ามาในประเทศไทย แต่ต่อมาบริษัท พ. ได้มอบหมายให้จำเลยเป็นตัวแทนเกี่ยวกับสินค้าดังกล่าวแทนโจทก์แล้ว ดังนั้นจึงถือไม่ได้ว่าการที่จำเลยสั่งสินค้าดังกล่าวเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ หากสัญญาระหว่างโจทก์กับบริษัท พ. ยังมีผลบังคับและโจทก์ได้รับความเสียหายก็อาจเป็นเรื่องผิดสัญญาที่โจทก์ชอบที่จะว่ากล่าวเอากับบริษัท พ. ซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรง
โจทก์อ้างว่าจำเลยร่วมกันใส่ร้ายโจทก์ต่อบริษัท พ. เพื่อให้บริษัท พ. ตั้งจำเลยเป็นตัวแทนในประเทศไทยแทนโจทก์ แต่มิได้บรรยายฟ้องให้ชัดแจ้งว่าจำเลยใส่ความโจทก์อย่างไรคำฟ้องในเรื่องนี้จึงเคลือบคลุม
โจทก์อ้างว่าจำเลยร่วมกันใส่ร้ายโจทก์ต่อบริษัท พ. เพื่อให้บริษัท พ. ตั้งจำเลยเป็นตัวแทนในประเทศไทยแทนโจทก์ แต่มิได้บรรยายฟ้องให้ชัดแจ้งว่าจำเลยใส่ความโจทก์อย่างไรคำฟ้องในเรื่องนี้จึงเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาห้ามเรื่องอายุความและกรรมสิทธิ์รถที่ไม่ยกขึ้นในศาลล่าง และยืนตามศาลอุทธรณ์เรื่องความรับผิดของเจ้าของรถ
ข้อที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ หรือต่อสู้ไว้แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นและจำเลยมิได้คัดค้านนั้น เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถเพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานะหนึ่งด้วยเท่านั้นกรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบ และ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถเพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานะหนึ่งด้วยเท่านั้นกรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบ และ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาประเด็นใหม่ & ความรับผิดเจ้าของรถกรณีผู้ขับเป็นคนเดียวกัน
ข้อที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ หรือต่อสู้ไว้แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นและจำเลยมิได้คัดค้าน นั้น เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถ เพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานหนึ่งด้วยเท่านั้น กรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบและศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถ เพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานหนึ่งด้วยเท่านั้น กรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบและศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2762/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท: การทำนาในที่ดินของตนเองไม่เป็นการละเมิด แม้จะทำลายพืชผลที่โจทก์ปลูกโดยไม่สุจริต
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 ไม่ใช่ของโจทก์ การที่จำเลยเข้าไปทำนาในที่พิพาท จึงไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ และโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปปลูกพืชผลในที่ดินนั้น การที่โจทก์เข้าไปปลูกจึงเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต จำเลยมีสิทธิขัดขวางมีให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของตน และเป็นการใช้สิทธิในที่ดินของจำเลยตามสมควรแก่การทำนาของจำเลย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2762/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดิน: การทำนาในที่ดินของตนเองไม่เป็นการละเมิด แม้จะทำลายพืชผลที่ผู้อื่นปลูกไว้
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ 1ไม่ใช่ของโจทก์ การที่จำเลยเข้าไปทำนาในที่พิพาทจึงไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ และโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปปลูกพืชผลในที่ดินนั้น การที่โจทก์เข้าไปปลูกจึงเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต จำเลยมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของตน และเป็นการใช้สิทธิในที่ดินของจำเลยตามสมควรแก่การทำนาของจำเลยการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์