พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,810 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1649/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างพนักงานฐานหมดความไว้วางใจ ศาลยืนตามเหตุผลของนายจ้างที่ไม่ยกเลิกคำสั่งเลิกจ้าง แม้พนักงานจะไม่มีความผิด
การที่จำเลยใช้ดุลพินิจเลิกจ้างโจทก์ฐานหมดความไว้วางใจไม่ถือว่าจำเลยเจตนากลั่นแกล้งให้โจทก์เสียหายเพราะการกระทำของโจทก์มีเหตุอันสมควรที่จำเลยจะหมดความไว้วางใจนอกจากนี้ยังมีข้อบังคับของจำเลยระบุว่า แม้โจทก์จะไม่มีความผิดแต่ถ้ามีมลทินหรือมัวหมอง ผู้อำนวยการมีคำสั่งให้เลิกจ้างได้ฉะนั้นการไม่ยกเลิกคำสั่งเลิกจ้าง จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากการจ่ายสินค้าผิดพลาด แม้เป็นตัวแทนก็ต้องรับผิดโดยตรงต่อเจ้าของสินค้า
จำเลยเป็นตัวแทนบริษัทเจ้าของเรือมอบใบสั่งให้ส่งมอบสินค้าให้บุคคลอื่นไปรับสินค้าทั้ง ๆ ที่โจทก์ยังมิได้สลักหลังโอนใบตราส่งจำเลยประมาทเลินเล่อจ่ายสินค้าไปโดยปราศจากคำสั่งของโจทก์ดังกล่าวทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดจำเลยจะอ้างไม่ได้ว่าเป็นเรื่องรับขนต้องใช้ศาลและกฎหมายของประเทศผู้ขนส่งกับจะอ้างว่าเป็นเรื่องที่จำเลยทำในฐานะตัวแทนไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวก็ไม่ได้เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1435/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้สกุลบิดา: บุตรเกิดนอกสมรส บิดาแสดงตนและมีหลักฐานสนับสนุน
เด็กเกิดจากบิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายบิดาแสดงต่อสาธารณชนทั่วไปว่าเป็นบุตร มีสูติบัตรระบุชื่อบิดาเด็กนั้นมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของบิดา ไม่เป็นละเมิดต่อภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในความเสียหายจากการยักยอกเงิน และขอบเขตการตีความสัญญาค้ำประกัน
จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้ายักยอกเอาเงินไปโดยไม่นำส่งมอบให้แก่จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นสมุห์บัญชีแล้วจำเลยที่ 3 ไม่ได้ติดตามตรวจสอบเรียกเงินหรือบิลใบเสร็จรับเงินจากจำเลยที่ 1 ตามหน้าที่เพื่อนำมาลงบัญชีเงินสดรับจ่ายประจำวันเสนอให้จำเลยที่ 4 ที่ 5 ปลัดสุขาภิบาลในฐานะกรรมการรักษาเงินทำการตรวจสอบจำเลยที่ 4 ที่ 5 ไม่มีหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยที่ 3 โดยตรงจำเลยที่ 4 ที่ 5 ตรวจสอบหลักฐานบัญชีการรับจ่ายเงินตามปกติไม่มีข้อบกพร่อง การที่จำเลยที่ 1 เบียดบังยักยอกเอาเงินของโจทก์ไปจึงไม่เป็นผลอันเกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 4 ที่ 5
ข้อที่ว่าต้องตีความในสัญญาค้ำประกันมิให้เป็นที่เสียหายแก่ผู้ค้ำประกันนั้นเมื่อสัญญาค้ำประกันมีข้อความแจ้งชัดไม่มีข้อจำกัดเฉพาะการขับรถจึงไม่จำเป็นต้องตีความเป็นอย่างอื่นและการที่จำเลยที่ 1 ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้จำเลยที่ 7 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาไว้ว่าจะรับผิดชดใช้เงินที่ยักยอกให้แก่โจทก์นั้น ก็หาเข้าลักษณะที่เจ้าหนี้ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 700 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อันจะทำให้จำเลยที่ 8 ในฐานะผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดอีกต่อไปไม่
ข้อที่ว่าต้องตีความในสัญญาค้ำประกันมิให้เป็นที่เสียหายแก่ผู้ค้ำประกันนั้นเมื่อสัญญาค้ำประกันมีข้อความแจ้งชัดไม่มีข้อจำกัดเฉพาะการขับรถจึงไม่จำเป็นต้องตีความเป็นอย่างอื่นและการที่จำเลยที่ 1 ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้จำเลยที่ 7 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาไว้ว่าจะรับผิดชดใช้เงินที่ยักยอกให้แก่โจทก์นั้น ก็หาเข้าลักษณะที่เจ้าหนี้ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 700 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อันจะทำให้จำเลยที่ 8 ในฐานะผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดอีกต่อไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรบกวนการครอบครองและการใช้ทรัพย์สิน การละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน และสิทธิในการใช้ประเพณีท้องถิ่น
โจทก์จำเลยทำนาเกลือโดยต่างขุดลำรางชักน้ำจากทะเลสู่นาเกลือของตน แม้จำเลยเคยขุดลอกลำรางของโจทก์ ก็เพื่อความสะดวกในการชักน้ำเป็นครั้งคราวกรณียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยยึดถือเพื่อตน จำเลยจึงไม่ได้สิทธิครอบครองลำรางของโจทก์
การที่จำเลยขุดฝังท่อลอดใต้ลำรางของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาตย่อมเป็นการรบกวนการครอบครองและการใช้ทรัพย์ของโจทก์ เป็นการกระทำโดยจงใจให้โจทก์ได้รับความเสียหาย หรือมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ จำเลยจะอ้างว่ามีสิทธิทำได้ตามประเพณีแห่งท้องถิ่นไม่ได้
การที่จำเลยขุดฝังท่อลอดใต้ลำรางของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาตย่อมเป็นการรบกวนการครอบครองและการใช้ทรัพย์ของโจทก์ เป็นการกระทำโดยจงใจให้โจทก์ได้รับความเสียหาย หรือมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ จำเลยจะอ้างว่ามีสิทธิทำได้ตามประเพณีแห่งท้องถิ่นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ต้องหลีกเลี่ยงเอง
การที่ลูกจ้างขับรถของจำเลยจอดรถไว้โดยไม่เปิดไฟก็ดีไม่จอดรถชิดขอบทางก็ดีเป็นการผิดกฎจราจรเท่านั้นผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์มาควรจะหลบหลีกได้แต่กลับแล่นเข้าชนรถจำเลยความเสียหายจึงเกิดขึ้นเพราะผู้ตายกระทำขึ้นเองไม่ได้เกิดเพราะความประมาทของลูกจ้างจำเลยจำเลยหาต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุมัติโครงการวิทยานิพนธ์ ไม่ถือเป็นการละเมิด หากไม่มีโครงการเสนอ
จำเลยที่ 3 ไม่รับโครงการวิทยานิพนธ์ของโจทก์เสนอต่อคณะกรรมการอนุมัติโครงการวิทยานิพนธ์ เพราะโจทก์ไม่มีโครงการวิทยานิพนธ์เสนอต่อจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาตามระเบียบหาเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ไม่การที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้บังคับให้จำเลยที่ 3 รับโครงการวิทยานิพนธ์ของโจทก์เสนอต่อคณะกรรมการอนุมัติโครงการวิทยานิพนธ์จึงไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิยาม 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา: พืชไร่คือพืชที่ต้องการน้ำน้อย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 บัญญัติว่า "นา"หมายถึงที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ และคำว่า "พืชไร่" หมายความว่าพืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือน
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้ามันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าวที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่องในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่บนร่องปลูกต้นมันเทศบางร่องมีต้นถั่วฝักยาวปลูกอยู่ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศีรษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ย่อมถือว่าเป็น "นา" ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้ามันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าวที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่องในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่บนร่องปลูกต้นมันเทศบางร่องมีต้นถั่วฝักยาวปลูกอยู่ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศีรษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ย่อมถือว่าเป็น "นา" ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาว่าที่ดินเป็น 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา โดยพิจารณาจากชนิดพืชที่ปลูก
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 มาตรา 4 บัญญัติว่า "นา" หมายถึงที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ และคำว่า "พืชไร่" หมายความว่า พืชต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือน
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าว ที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่อง ในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ บนร่องปลูกมันเทศ บางร่องมีต้นถั่วฝักยาว ปลูกอยู่ ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศรีษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ ย่อมถือว่าเป็นนา ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าว ที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่อง ในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ บนร่องปลูกมันเทศ บางร่องมีต้นถั่วฝักยาว ปลูกอยู่ ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศรีษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ ย่อมถือว่าเป็นนา ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันความรับผิดของลูกหนี้ทุจริตยักยอกเงินธนาคาร ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดตามสัญญา
จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานธนาคารโจทก์จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์จำเลยที่ 1 ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นผลสืบเนื่องมาจากจำเลยที่ 1 ทุจริตยักยอกเงินที่ผู้จัดการธนาคารสั่งให้จำเลยที่ 1 ไปรับเงินฝากจากลูกค้าซึ่งการรับเงินดังกล่าวเป็นการที่จำเลยที่ 1 รับไว้แทนโจทก์และจำเลยที่ 1 มีหน้าที่นำมามอบให้พนักงานธนาคารโจทก์เพื่อนำเข้าบัญชีของลูกค้าซึ่งต่อมาโจทก์ได้ชดใช้เงินดังกล่าวให้แก่ลูกค้าไปแล้วดังนี้ แม้ขณะจำเลยที่ 1 ทำหนังสือรับสภาพหนี้โจทก์ยังมิได้ใช้เงินให้แก่ลูกค้าก็ตามโจทก์ก็มีอำนาจฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดตามสัญญาค้ำประกันได้
สัญญาค้ำประกันจำเลยที่ 1 เข้าทำงานที่จำเลยที่ 2 ทำไว้ต่อโจทก์มีข้อความว่าถ้าธนาคารโจทก์รับจำเลยที่ 1 เข้าทำงานไม่ว่าในหน้าที่หรือตำแหน่งใดแล้วหากจำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานบกพร่องต่อหน้าที่หรือประมาทเลินเล่อหรือกระทำการทุจริตหรือก่อหนี้สินผูกพันกับธนาคารโจทก์อันทำให้ธนาคารโจทก์ได้รับความเสียหายไม่ว่ากรณีใดที่กล่าวมาจำเลยที่ 2 ยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ธนาคารโจทก์โดยตรงและทันทีทุกกรณีภายในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นพนักงานขับรถยนต์ของธนาคารโจทก์แต่เมื่อโจทก์มอบหมายให้จำเลยที่ 1 ไปรับเงินจากลูกค้าเพื่อนำฝากเข้าบัญชีของลูกค้าจำเลยที่ 1 ก็มีหน้าที่จะต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวมาฝากเข้าบัญชีลูกค้าเมื่อจำเลยที่ 1 ทุจริตยักยอกเงินนั้นไปจำเลยที่ 2 ก็ต้องรับผิดต่อธนาคารตามสัญญาค้ำประกัน
สัญญาค้ำประกันจำเลยที่ 1 เข้าทำงานที่จำเลยที่ 2 ทำไว้ต่อโจทก์มีข้อความว่าถ้าธนาคารโจทก์รับจำเลยที่ 1 เข้าทำงานไม่ว่าในหน้าที่หรือตำแหน่งใดแล้วหากจำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานบกพร่องต่อหน้าที่หรือประมาทเลินเล่อหรือกระทำการทุจริตหรือก่อหนี้สินผูกพันกับธนาคารโจทก์อันทำให้ธนาคารโจทก์ได้รับความเสียหายไม่ว่ากรณีใดที่กล่าวมาจำเลยที่ 2 ยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ธนาคารโจทก์โดยตรงและทันทีทุกกรณีภายในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นพนักงานขับรถยนต์ของธนาคารโจทก์แต่เมื่อโจทก์มอบหมายให้จำเลยที่ 1 ไปรับเงินจากลูกค้าเพื่อนำฝากเข้าบัญชีของลูกค้าจำเลยที่ 1 ก็มีหน้าที่จะต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวมาฝากเข้าบัญชีลูกค้าเมื่อจำเลยที่ 1 ทุจริตยักยอกเงินนั้นไปจำเลยที่ 2 ก็ต้องรับผิดต่อธนาคารตามสัญญาค้ำประกัน