พบผลลัพธ์ทั้งหมด 664 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาว่าจ้างทนายเพื่อแบ่งทรัพย์พิพาทในคดีเป็นโมฆะ
เมื่อสัญญาที่โจทก์รับจ้างว่าความแก้ต่างให้จำเลยเพื่อแบ่งทรัพย์พิพาทในคดี สัญญานี้จึงมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้ง โดยพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2508 มาตรา 41ประกอบกับพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2477 มาตรา 12(2) การที่โจทก์จำเลยจะทำสัญญากันก่อนว่าความหรือระหว่างว่าความหาเป็นผลให้ กฎหมายดังกล่าวไม่ใช้บังคับไม่ สัญญานี้จึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาว่าความเพื่อแบ่งทรัพย์พิพาทเป็นโมฆะตามกฎหมายทนายความ
เมื่อสัญญาที่โจทก์รับจ้างว่าความแก้ต่างให้จำเลยเพื่อแบ่งทรัพย์พิพาทในคดี สัญญานี้จึงมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้ง โดยพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2508 มาตรา 41 ประกอบกับพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2477 มาตรา 12(2) การที่โจทก์จำเลยจะทำสัญญากันก่อนว่าความหรือระหว่างว่าความหาเป็นผลให้กฎหมายดังกล่าวไม่ใช้บังคับไม่ สัญญานี้จึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในทรัพย์ที่ถูกยึดเพื่อดำเนินคดีแทน เป็นนิติกรรมขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ผู้ร้องร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ถอนการยึดทรัพย์โดยที่ผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียอยู่ในขณะที่มีการยึดทรัพย์ แต่เป็นผู้รับโอนสิทธิมาในระหว่างที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดทรัพย์รายพิพาทไว้แล้วโดยผู้ร้องเองก็ทราบดี เหตุที่มีการโอนก็เพราะผู้ซื้อทรัพย์รายพิพาทในระหว่างการยึดถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกไปสอบสวน เกรงจะมีข้อยุ่งยากจึงขอร้องให้ผู้ร้องซื้อทรัพย์รายพิพาทไว้ เห็นได้ว่าเป็นการโอนสิทธิในการดำเนินคดีให้ผู้ร้องเข้าเป็นผู้มีส่วนได้เสียเพื่อดำเนินคดีแทนหรือซื้อขายความนั่นเอง จึงเป็นนิติกรรมที่มีวัตถุที่ประสงค์เป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตกเป็นโมฆะและปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในทรัพย์ที่ถูกยึดเพื่อดำเนินคดีแทน เป็นนิติกรรมขัดขวางความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ผู้ร้องร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ถอนการยึดทรัพย์โดยที่ผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียอยู่ในขณะที่มีการยึดทรัพย์ แต่เป็นผู้รับโอนสิทธิมาในระหว่างที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดทรัพย์รายพิพาทไว้แล้วโดยผู้ร้องเองก็ทราบดี เหตุที่มีการโอนก็เพราะผู้ซื้อทรัพย์รายพิพาทในระหว่างการยึดถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกไปสอบสวน เกรงจะมีข้อยุ่งยากจึงขอร้องให้ผู้ร้องซื้อทรัพย์รายพิพาทไว้ เห็นได้ว่าเป็นการโอนสิทธิในการดำเนินคดีให้ผู้ร้องเข้าเป็นผู้มีส่วนได้เสียเพื่อดำเนินคดีแทนหรือซื้อขายความนั่นเอง จึงเป็นนิติกรรมที่มีวัตถุที่ประสงค์เป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตกเป็นโมฆะ และปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3880/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยสุจริต แม้มีข้อตกลงซื้อขายก่อนระหว่างเจ้าของเดิมกับผู้อื่น ไม่ทำให้สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ
การซื้อขายที่ดินเป็นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินผู้มีกรรมสิทธิ์ย่อมมีอำนาจขายได้ สิทธิของจำเลยกับเจ้าของที่ดินตามที่อ้างว่าได้ทำสัญญากันไว้ให้จำเลยมีโอกาสซื้อที่ดินส่วนที่จำเลยเช่าได้ก่อนคนอื่นนั้นไม่ผูกพันโจทก์หากเจ้าของที่ดินผิดสัญญากับจำเลยก็ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหาก การซื้อขายที่ดินระหว่างโจทก์กับเจ้าของที่ดินมิใช่กรณีที่มีวัตถุที่ประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย หรือเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่ประการใด นิติกรรมหาเป็นโมฆะกรรมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3880/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยสุจริต ไม่ผูกพันสิทธิสัญญาเช่าเดิมระหว่างจำเลยกับเจ้าของที่ดิน
การซื้อขายที่ดินเป็นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สิน ผู้มีกรรมสิทธิ์ย่อมมีอำนาจขายได้ สิทธิของจำเลยกับเจ้าของที่ดินตามที่อ้างว่าได้ทำสัญญากันไว้ให้จำเลยมีโอกาสซื้อที่ดินส่วนที่จำเลยเช่าได้ก่อนคนอื่นนั้นไม่ผูกพันโจทก์หากเจ้าของที่ดินผิดสัญญากับจำเลยก็ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหาก การซื้อขายที่ดินระหว่างโจทก์กับเจ้าของที่ดินมิใช่กรณีที่มีวัตถุที่ประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย หรือเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่ประการใด นิติกรรมหาเป็นโมฆะกรรมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3393/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินช่วงห้ามโอนเป็นโมฆะ แม้ต่อมามีการแก้ไขกฎหมายแล้ว
ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 มีเจตนารมณ์จะปกป้องราษฎรให้มีที่ดินไว้ทำกินเป็นเวลาอย่างน้อยสิบปี ดังนั้น การที่โจทก์กับผู้มีสิทธิ ในที่ดินทำสัญญาอันมีผลเป็นการโอนสิทธิในที่ดินโดยส่งมอบ การครอบครองให้แก่กันภายในกำหนดระยะเวลาห้ามโอน แม้จะเรียกว่าสัญญาจะซื้อขายและระบุในสัญญาว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์เมื่อพ้นกำหนดห้ามโอนแล้ว ก็เป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้าม ชัดแจ้งโดยกฎหมาย สัญญานี้จึงเป็นโมฆะ และถึงแม้ต่อมา จะมีการยกเลิกความในมาตรา 31 มิให้ใช้บังคับกับที่ดินในคดีนี้ ก็ตามก็ไม่ทำให้นิติกรรมที่เป็นโมฆะแล้วนั้นกลับสมบูรณ์ได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3393/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินช่วงห้ามโอนเป็นโมฆะ แม้ต่อมามีการแก้ไขกฎหมายแล้วก็ไม่สมบูรณ์
ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 มีเจตนารมณ์จะปกป้องราษฎรให้มีที่ดินไว้ทำกินเป็นเวลาอย่างน้อยสิบปี ดังนั้น การที่โจทก์กับผู้มีสิทธิ ในที่ดินทำสัญญาอันมีผลเป็นการโอนสิทธิในที่ดิน โดยส่งมอบการครอบครองให้แก่กันภายในกำหนดระยะเวลาห้ามโอน แม้จะเรียกว่าสัญญาจะซื้อขายและระบุในสัญญาว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์เมื่อพ้นกำหนดห้ามโอนแล้ว ก็เป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้าม ชัดแจ้งโดยกฎหมาย สัญญานี้จึงเป็นโมฆะ และถึงแม้ต่อมา จะมีการยกเลิกความในมาตรา 31 มิให้ใช้บังคับกับที่ดินในคดีนี้ ก็ตามก็ไม่ทำให้นิติกรรมที่เป็นโมฆะแล้วนั้นกลับสมบูรณ์ได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3345/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินมีข้อห้ามโอนตามกฎหมายที่ดิน เป็นโมฆะ แม้ต่อมาจะแก้ไขกฎหมายแล้วก็ไม่ทำให้สัญญาสมบูรณ์
ที่นาพิพาทมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ออกให้แก่ ค. มีข้อความว่าห้ามโอนสิบปีตามมาตรา 31 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 334 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515 ข้อ 6 การที่ ค. ผู้ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ในที่นาพิพาทอันสืบเนื่องมาจากใบจองตามมาตรา 30 และมาตรา 33 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ได้ทำสัญญาจะซื้อขายขึ้นในระหว่างระยะเวลาการห้ามโอนจะขายที่นาพิพาทให้แก่ อ. เป็นเงิน 30,000 บาท และได้รับเงินกับได้มอบที่นาพิพาทให้ อ. เข้าครอบครองทำกินแล้ว เพียงแต่ตกลงจะจดทะเบียนการโอนให้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา การห้ามโอนสิบปี ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นการจงใจหลีกเลี่ยงข้อห้ามการโอน ตามมาตรา 31 ดังนี้ย่อมเป็นการอันมีวัตถุที่ประสงค์เป็นการต้องห้าม ชัดแจ้งโดยกฎหมาย หนังสือสัญญาจะซื้อขายจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
แม้ต่อมาประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 ซึ่งห้ามการโอนจะได้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมอันมีผลมิให้ใช้บังคับข้อห้ามการโอนในกรณีดังเช่นคดีนี้ก็ตาม ก็หาทำให้สัญญาจะซื้อขายดังกล่าวซึ่งเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก กลับมีผลสมบูรณ์ขึ้นไม่
แม้ต่อมาประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 ซึ่งห้ามการโอนจะได้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมอันมีผลมิให้ใช้บังคับข้อห้ามการโอนในกรณีดังเช่นคดีนี้ก็ตาม ก็หาทำให้สัญญาจะซื้อขายดังกล่าวซึ่งเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก กลับมีผลสมบูรณ์ขึ้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3345/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินช่วงมีข้อห้ามโอน ถือเป็นโมฆะ แม้กฎหมายแก้ไขภายหลัง
ที่นาพิพาทมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ออกให้แก่ ค. มีข้อความว่าห้ามโอนสิบปีตามมาตรา 31 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 334 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515 ข้อ 6 การที่ ค. ผู้ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ในที่นาพิพาทอันสืบเนื่องมาจากใบจองตามมาตรา 30 และมาตรา 33 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ได้ทำสัญญาจะซื้อขายขึ้นในระหว่างระยะเวลาการห้ามโอนจะขายที่นาพิพาทให้แก่ อ. เป็นเงิน30,000 บาท และได้รับเงินกับได้มอบที่นาพิพาทให้ อ.เข้าครอบครองทำกินแล้ว เพียงแต่ตกลงจะจดทะเบียนการโอนให้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา การห้ามโอนสิบปี ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นการจงใจหลีกเลี่ยงข้อห้ามการโอน ตามมาตรา 31 ดังนี้ย่อมเป็นการอันมีวัตถุที่ประสงค์เป็นการต้องห้าม ชัดแจ้งโดยกฎหมาย หนังสือสัญญาจะซื้อขายจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
แม้ต่อมาประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 ซึ่งห้ามการโอนจะได้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมอันมีผลมิให้ใช้บังคับข้อห้ามการโอนในกรณีดังเช่นคดีนี้ก็ตาม ก็หาทำให้สัญญาจะซื้อขายดังกล่าวซึ่งเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก กลับมีผลสมบูรณ์ขึ้นไม่
แม้ต่อมาประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 ซึ่งห้ามการโอนจะได้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมอันมีผลมิให้ใช้บังคับข้อห้ามการโอนในกรณีดังเช่นคดีนี้ก็ตาม ก็หาทำให้สัญญาจะซื้อขายดังกล่าวซึ่งเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก กลับมีผลสมบูรณ์ขึ้นไม่