คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 113

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 664 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1007/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ากิจการหนังสือพิมพ์ที่ขัดต่อ พ.ร.บ.การพิมพ์ ถือเป็นโมฆะ
สัญญาเช่ากิจการพิมพ์และจ้างพิมพ์หนังสือซึ่งมีวัตถุประสงค์ว่าผู้เช่าเป็นฝ่ายตั้งกองบรรณาธิการเองโดยตลอด ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเกี่ยวข้องคงอาศัยแต่ชื่อผู้ให้เช่าลงพิมพ์เป็นบรรณาธิการเท่านั้น เป็นการหลีกเลี่ยงและฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 24 เป็นการกระทำที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย สัญญาตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1007/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ากิจการพิมพ์ที่ขัดต่อ พ.ร.บ.การพิมพ์ และมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้าม ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ
สัญญาเช่ากิจการพิมพ์และจ้างพิมพ์หนังสือซึ่งมีวัตถุประสงค์ว่าผู้เช่าเป็นฝ่ายตั้งกองบรรณาธิการเองโดยตลอด ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเกี่ยวข้องคงอาศัยแต่ชื่อผู้ให้เช่าลงพิมพ์เป็นบรรณาธิการเท่านั้น เป็นการหลีกเลี่ยงและฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 24 เป็นการกระทำที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย สัญญาตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชดใช้ค่าเสียหายแลกกับการไม่ดำเนินคดีอาญาเป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อย
บุตรจำเลยขับจักรยานยนต์ชนบุตรโจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัสโจทก์จำเลยจึงได้ทำสัญญาปรองดองกัน โดยฝ่ายจำเลยยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น ฝ่ายโจทก์ไม่เอาความผิดในคดีอาญา ดังนี้วัตถุประสงค์ของสัญญามีผลเท่ากับตกลงให้ระงับคดีอาญาแผ่นดินเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน สัญญาจึงตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมที่ระงับคดีอาญาแผ่นดินขัดต่อความสงบเรียบร้อย ถือเป็นโมฆะ
บุตรจำเลยขับจักรยานยนต์ชนบุตรโจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัสโจทก์จำเลยจึงได้ทำสัญญาปรองดองกัน โดยฝ่ายจำเลยยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น ฝ่ายโจทก์ไม่เอาความผิดในคดีอาญา ดังนี้ วัตถุประสงค์ของสัญญามีผลเท่ากับตกลงให้ระงับคดีอาญาแผ่นดินเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน สัญญาจึงตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงในสัญญาเช่าที่จำกัดสิทธิผู้เช่าในการให้ผู้อื่นเข้าอยู่อาศัยไม่ขัดกับกฎหมาย หากไม่สร้างภาระหน้าที่เพิ่มเติมแก่ผู้เช่า
ข้อตกลงที่ว่าผู้เช่าจะไม่ยอมให้ผู้อื่นมาอาศัยรวมอยู่ด้วยเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรนั้นหาใช่กรณีที่ผู้เช่าต้องมีหน้าที่หรือรับภาระใด ๆ ซึ่งตามกฎหมายผู้เช่า ไม่จำต้องมีหน้าที่หรือรับภาระนั้น ๆ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 มาตรา 12 (2) ไม่ข้อตกลงดังกล่าวไม่ขัดแย้งกับกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการเช่าที่จำกัดสิทธิผู้เช่าในการให้ผู้อื่นอยู่อาศัย ไม่ขัดกฎหมาย หากไม่สร้างภาระเกินความจำเป็น
ข้อตกลงที่ว่าผู้เช่าจะไม่ยอมให้ผู้อื่นมาอาศัยรวมอยู่ด้วยเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรนั้น หาใช่กรณีที่ผู้เช่าต้องมีหน้าที่หรือรับภาระใด ๆ ซึ่งตามกฎหมายผู้เช่าไม่จำต้องมีหน้าที่หรือรับภาระนั้น ๆ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 มาตรา 12(2) ไม่ข้อตกลงดังกล่าวไม่ขัดแย้งกับกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน เป็นโมฆะ
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ซึ่งเป็นบิดาผู้เยาว์มีข้อความว่า จำเลยยินยอมชดใช้เงินให้แก่โจทก์ โดยจะนำเงินมามอบให้ในวันที่ได้กำหนดไว้ หากถึงกำหนดวันนั้น จำเลยไม่ชำระ โจทก์จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่ถ้าจำเลยปฏิบัติตามข้อตกลง โจทก์ก็จะถอนคดีด้วยความเต็มใจ การที่จำเลยยินยอมชดใช้เงินให้แก่โจทก์ก็เพราะจำเลยประสงค์ให้โจทก์ถอนคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ที่ได้แจ้งความไว้ แต่ความผิดฐานพรากผู้เยาว์นี้เป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ฉะนั้น ข้อตกลงดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ เพราะมีวัตถุประสงค์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน (อ้างฎีกาที่ 1181/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความที่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนเป็นโมฆะ
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ซึ่งเป็นบิดาผู้เยาว์มีข้อความว่า จำเลยยินยอมชดใช้เงินให้แก่โจทก์ โดยจะนำเงินมามอบให้ในวันที่ได้กำหนดไว้ หากถึงกำหนดวันนั้น จำเลยไม่ชำระ โจทก์จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่ถ้าจำเลยปฏิบัติตามข้อตกลง โจทก์ก็จะถอนคดีด้วยความเต็มใจ การที่จำเลยยินยอมชดใช้เงินให้แก่โจทก์ก็เพราะจำเลยประสงค์ให้โจทก์ถอนคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ที่ได้แจ้งความไว้ แต่ความผิดฐานพรากผู้เยาว์นี้เป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ฉะนั้น ข้อตกลงดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะเพราะมีวัตถุประสงค์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
(อ้างฎีกาที่ 1181/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเรียกเงินคืนจากการสัญญาช่วยเหลือทางคดี การฟ้องไม่เคลือบคลุม และไม่ใช่การช่วยเหลือที่ผิดกฎหมาย
ฟ้องเรียกเงินคืนที่โจทก์บรรยายข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหามาแล้วว่า เมื่อเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ 2511 ก่อนพนักงานอัยการยื่นฟ้องบุตรโจทก์ต่อศาล จำเลยได้เรียกเอาเงินโจทก์ไป 2 คราว ๆ ละ 500 บาท โดยจำเลยรับจะช่วยบุตรโจทก์ให้พ้นโทษ โดยจะหาทนายสู้คดีหรือช่วยด้วยวิธีอื่นให้บุตรโจทก์ถูกปล่อย โจทก์หลงเชื่อจึงมอบเงินให้จำเลยไป เมื่อบุตรโจทก์ถูกฟ้องศาล จำเลยไม่ช่วยเหลืออย่างใด กลับบอกให้บุตรโจทก์รับสารภาพโดยบอกว่าอายุยังไม่ถึง 20 ปี ศาลไม่ลงโทษ เป็นเหตุให้บุตรโจทก์หลงเชื่อรับสารภาพ ดังนี้ ไม่จำเป็นต้องระบุว่าจำเลยเรียกเอาเงินจากโจทก์ที่ไหน จำเลยก็เข้าใจฟ้องได้ดีแล้ว เป็นฟ้องไม่เคลือบคลุมและไม่ใช่เป็นฟ้องที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เพราะไม่ใช่ให้เงินแก่จำเลยเพื่อช่วยเหลือโดยวิธีที่ผิดกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเรียกเงินคืนจากการสัญญาช่วยเหลือทางคดีที่ไม่เป็นผล การฟ้องไม่เคลือบคลุมและไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
ฟ้องเรียกเงินคืนที่โจทก์บรรยายข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหามาแล้วว่า เมื่อเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2511 ก่อนพนักงานอัยการยื่นฟ้องบุตรโจทก์ต่อศาล จำเลยได้เรียกเอาเงินโจทก์ไป 2 คราว ๆ ละ500 บาท โดยจำเลยรับจะช่วยบุตรโจทก์ให้พ้นโทษ โดยจะหาทนายสู้คดีหรือช่วยด้วยวิธีอื่นให้บุตรโจทก์ถูกปล่อย โจทก์หลงเชื่อจึงมอบเงินให้จำเลยไป เมื่อบุตรโจทก์ถูกฟ้องศาล จำเลยไม่ช่วยเหลืออย่างใดกลับบอกให้บุตรโจทก์รับสารภาพโดยบอกว่า อายุยังไม่ถึง 20 ปี ศาลไม่ลงโทษเป็นเหตุให้บุตรโจทก์หลงเชื่อรับสารภาพ ดังนี้ ไม่จำเป็นต้องระบุว่าจำเลยเรียกเอาเงินจากโจทก์ที่ไหน จำเลยก็เข้าใจฟ้องได้ดีแล้ว เป็นฟ้องไม่เคลือบคลุม และไม่ใช่เป็นฟ้องที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เพราะไม่ใช่ให้เงินแก่จำเลยเพื่อช่วยเหลือโดยวิธีที่ผิดกฎหมาย
of 67