พบผลลัพธ์ทั้งหมด 664 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้สมบูรณ์ แม้ไม้ถูกยึด เหตุวัตถุประสงค์ไม่ขัดกฎหมาย จำเลยต้องคืนเงินมัดจำ
จำเลยทำสัญญาจะขายไม้ให้แก่โจทก์แม้จะปรากฏว่าไม้ที่จำเลยทำสัญญาจะขายนั้นเป็นไม้ที่ถูกเจ้าพนักงานจับและยึดไว้เป็นของกลางเพราะใบอนุญาตขาดอายุ สัญญาจะซื้อขายไม้ดังกล่าวนั้นก็สมบูรณ์ไม่เป็นโมฆะเพราะวัตถุประสงค์ของสัญญานั้น คือการจะขายไม้ไม่ได้ถูกต้องห้ามโดยกฎหมายหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความสมบูรณ์ แม้มีข้อตกลงไม่ฟ้องคดีอาญา และการซื้อขายที่ดินเป็นการปฏิบัติตามสัญญาเดิม
สัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อระงับคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงและมีข้อความตอนหนึ่งว่าจำเลยยินยอมไม่ฟ้องคดีอาญาอันเนื่องมาจากการที่โจทก์ฟ้องคดีอาญาเรื่องฉ้อโกงนั้น ถือว่าข้อความตอนนี้เป็นส่วนที่พึงสันนิษฐานได้ว่าคู่กรณีเจตนาจะแยกส่วนนี้ออกหากจากส่วนอื่นได้ สัญญาประนีประนอมยอมความนี้จึงสมบูรณ์
สัญญาซื้อขายที่ดินที่ทำขึ้นอันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องทำสัญญาขึ้นใหม่เปลี่ยนแปลงยกเลิกเงื่อนไขในสัญญาประนีประนอมยอมความเดิม สัญญาประนีประนอมยอมความจึงไม่ระงับ.
สัญญาซื้อขายที่ดินที่ทำขึ้นอันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องทำสัญญาขึ้นใหม่เปลี่ยนแปลงยกเลิกเงื่อนไขในสัญญาประนีประนอมยอมความเดิม สัญญาประนีประนอมยอมความจึงไม่ระงับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความสมบูรณ์ แม้มีข้อตกลงไม่ฟ้องคดีอาญา และการทำสัญญาซื้อขายที่ดินเป็นการปฏิบัติตามสัญญาเดิม
สัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อระงับคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงและมีข้อความตอนหนึ่งว่า จำเลยยินยอมไม่ฟ้องคดีอาญาอันเนื่องมาจากการที่โจทก์ฟ้องคดีอาญาเรื่องฉ้อโกงนั้นถือว่าข้อความตอนนี้เป็นส่วนที่พึงสันนิษฐานได้ว่าคู่กรณีเจตนาจะแยกส่วนนี้ออกหากจากส่วนอื่นได้ สัญญาประนีประนอมยอมความนี้จึงสมบูรณ์
สัญญาซื้อขายที่ดินที่ทำขึ้นอันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น. ไม่ใช่เป็นเรื่องทำสัญญาขึ้นใหม่เปลี่ยนแปลงยกเลิกเงื่อนไขในสัญญาประนีประนอมยอมความเดิมสัญญาประนีประนอมยอมความจึงไม่ระงับ
สัญญาซื้อขายที่ดินที่ทำขึ้นอันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น. ไม่ใช่เป็นเรื่องทำสัญญาขึ้นใหม่เปลี่ยนแปลงยกเลิกเงื่อนไขในสัญญาประนีประนอมยอมความเดิมสัญญาประนีประนอมยอมความจึงไม่ระงับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องก่อนหนี้ถึงกำหนด: ประเด็นที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยหากไม่ยกขึ้นสู่การต่อสู้
ปัญหาที่ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ ในเมื่อหนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีหนี้ไม่ถึงกำหนดชำระ: ประเด็นที่มิได้ยกขึ้นต่อสู้และไม่กระทบความสงบเรียบร้อย
ปัญหาที่ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ ในเมื่อหนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเพื่อการค้า: การใช้ห้องพิพาทเพื่อการค้าทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมเช่าเคหะฯ แม้มีการอยู่อาศัยร่วมด้วย
สัญญาเช่าที่จำเลยทำกับโจทก์ระบุไว้ชัดเจนว่า'เพื่อทำการค้า' เมื่อจำเลยทำการค้า จดทะเบียนการค้าเสียภาษีการค้า ห้องพิพาทจะอยู่ในทำเลการค้าหรือไม่การค้าของจำเลยจะเล็กน้อยเพียงใดก็ไม่สำคัญและแม้จำเลยจะอยู่อาศัยในห้องพิพาทด้วยก็ตาม ก็ต้องถือว่าจำเลยเช่าห้องพิพาทเพื่อประกอบการค้าดังนี้ จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504
จำเลยทำสัญญาเช่าห้องพิพาทโดยเสียค่าเช่าให้โจทก์เดือนละ 30 บาท แต่มีเงื่อนไขตกลงกันอีกว่า การเสียค่าเช่าถ้าเทศบาลประเมินภาษีขึ้นจะต้องขึ้นค่าเช่าตามนั้นต่อมาเทศบาลได้ประเมินค่าเช่าเดือนละ 100 บาทดังนี้ ย่อมถือว่าข้อตกลงขึ้นค่าเช่าตามที่เทศบาลประเมินภาษีนั้นเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมายใช้บังคับได้
จำเลยทำสัญญาเช่าห้องพิพาทโดยเสียค่าเช่าให้โจทก์เดือนละ 30 บาท แต่มีเงื่อนไขตกลงกันอีกว่า การเสียค่าเช่าถ้าเทศบาลประเมินภาษีขึ้นจะต้องขึ้นค่าเช่าตามนั้นต่อมาเทศบาลได้ประเมินค่าเช่าเดือนละ 100 บาทดังนี้ ย่อมถือว่าข้อตกลงขึ้นค่าเช่าตามที่เทศบาลประเมินภาษีนั้นเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมายใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ชดใช้ค่าเสียหายจากเหตุละเมิด ไม่เป็นโมฆะ แม้ลงวันที่ย้อนหลัง หากเจตนาคือการชดใช้ค่าเสียหาย ไม่ใช่เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยตามสัญญากู้ ซึ่งมีมูลหนี้เดิมจากการทำละเมิดของจำเลย อายุความเรียกร้องต้องเป็นไปตามเรื่องกู้ มิใช่เรื่องมูลละเมิด
จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์สินของโจทก์โดยประมาทเลินเล่อและยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์โดยทำสัญญากู้ให้ไว้และโจทก์ยอมให้ลงวันที่ในสัญญากู้ย้อนหลังไปไม่ถือว่าสัญญากู้นั้นมีวัตถุประสงค์โดยตรงอันจะมีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากการต้องหาคดีอาญาฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทและไม่ใช่เป็นการทำสัญญากู้เพื่อให้โจทก์ช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิดทางอาญาด้วยสัญญากู้จึงไม่เป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนเนื่องจากเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีเป็นเรื่องจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่กัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยก่อให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทแก่เรือน เรือนครัว ยุ้งข้าว ข้าวเปลือก สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านและต้นผลไม้ถือว่าโจทก์ได้บรรยายรายละเอียดแห่งทรัพย์สินที่เสียหายไว้ในฟ้องชัดแจ้งแล้ว
จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์สินของโจทก์โดยประมาทเลินเล่อและยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์โดยทำสัญญากู้ให้ไว้และโจทก์ยอมให้ลงวันที่ในสัญญากู้ย้อนหลังไปไม่ถือว่าสัญญากู้นั้นมีวัตถุประสงค์โดยตรงอันจะมีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากการต้องหาคดีอาญาฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทและไม่ใช่เป็นการทำสัญญากู้เพื่อให้โจทก์ช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิดทางอาญาด้วยสัญญากู้จึงไม่เป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนเนื่องจากเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีเป็นเรื่องจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่กัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยก่อให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทแก่เรือน เรือนครัว ยุ้งข้าว ข้าวเปลือก สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านและต้นผลไม้ถือว่าโจทก์ได้บรรยายรายละเอียดแห่งทรัพย์สินที่เสียหายไว้ในฟ้องชัดแจ้งแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ชดใช้ค่าเสียหายจากการทำละเมิด ไม่เป็นโมฆะ แม้มีการลงวันที่ย้อนหลัง หากเจตนาคือการชดใช้ค่าเสียหาย ไม่ใช่ช่วยเหลือจำเลยหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยตามสัญญากู้ซิ่งมีมูลหนี้เดิมจากการทำละเมิดของจำเลย อายุความเรียกร้องต้องเป็นไปตามเรื่องกู้ มิใช่เรื่องมูลละเมิด
จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์สินของโจทก์โดยประมาทเลินเล่อ และยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ โดยทำสัญญากู้ให้ไว้และโจทก์ยอมให้ลงวันที่ในสัญญากู้ย้อนหลังไป ไม่ถือว่าสัญญากู้นั้นมีวัตถุประสงค์โดยตรงอันจะมีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากการต้องหาคดีอาญาฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และไม่ใช่เป็นการทำสัญญากู้เพื่อให้โจทก์ช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิดทางอาญาด้วย สัญญากู้จึงไม่เป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสวบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เนื่องจากเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณี เป็นเรื่องจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่กัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยก่อให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทแก่เรือน เรือนครัว ยุ้งข้าว ข้าวเปลือก สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านและต้นผลไม้ ถือว่าโจทก์ได้บรรยายรายละเอียดแห่งทรัพย์สินที่เสียหายไว้ในฟ้องชัดแจ้งแล้ว
จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์สินของโจทก์โดยประมาทเลินเล่อ และยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ โดยทำสัญญากู้ให้ไว้และโจทก์ยอมให้ลงวันที่ในสัญญากู้ย้อนหลังไป ไม่ถือว่าสัญญากู้นั้นมีวัตถุประสงค์โดยตรงอันจะมีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากการต้องหาคดีอาญาฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และไม่ใช่เป็นการทำสัญญากู้เพื่อให้โจทก์ช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิดทางอาญาด้วย สัญญากู้จึงไม่เป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสวบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เนื่องจากเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณี เป็นเรื่องจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่กัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยก่อให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทแก่เรือน เรือนครัว ยุ้งข้าว ข้าวเปลือก สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านและต้นผลไม้ ถือว่าโจทก์ได้บรรยายรายละเอียดแห่งทรัพย์สินที่เสียหายไว้ในฟ้องชัดแจ้งแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาการค้าเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ที่ขัดต่อกฎหมาย พ.ร.บ.วิทยุฯ ถือเป็นโมฆะ
ผู้มีสิทธิผูกขาดการค้าเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ตามกฎหมาย แต่ได้ทำสัญญาอนุญาตหรือมอบให้ผู้อื่นสั่งเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์เข้ามาจำหน่ายอีกต่อหนึ่งโดยเรียกเอาผลประโยชน์นั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องตัวการตั้งตัวแทน แต่เป็นการโอนอำนาจในการค้าดังกล่าวให้ผู้ที่ไม่มีอำนาจทำการค้าไปทำการค้าอันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติวิทยุฯลฯ มาตรา 8 และมาตรา 20 สัญญานี้จึงมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 ฟ้องเรียกเงินตามสัญญาไม่ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2507)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาอนุญาตค้าวิทยุโทรทัศน์ขัดกฎหมาย: การโอนอำนาจทำการค้าให้ผู้อื่นที่ไม่ได้รับอนุญาตเป็นโมฆะ
ผู้มีสิทธิผูกขาดการค้าเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ตามกฎหมายแต่ได้ทำสัญญาอนุญาตหรือมอบให้ผู้อื่นสั่งเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์เข้ามาจำหน่ายอีกต่อหนึ่งโดยเรียกเอาผลประโยชน์นั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องตัวการตั้งตัวแทนแต่เป็นการโอนอำนาจในการค้าดังกล่าวให้ผู้ที่ไม่มีอำนาจทำการค้าไปทำการค้า อันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติวิทยุฯ มาตรา 8 และมาตรา 20 สัญญานี้จึงมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 ฟ้องเรียกเงินตามสัญญาไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 28/2507)