คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 113

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 664 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของทุนทรัพย์ ไม่ใช่การแบ่งส่วนทรัพย์สิน
สัญญาจ้างว่าความที่ทนายความเรียกค่าจ้างจากลูกความยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้องคิดเป็นเงินค่าจ้าง 24,200 บาทนั้น เป็นค่าจ้างที่แน่นอน การที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนทุนทรัพย์ เป็นเพียงอาศัยเป็นเกณฑ์คำนวณค่าจ้างว่าความว่าจะเรียกร้องค่าจ้างคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าใดของทุนทรัพย์ที่ฟ้องเท่านั้น หาใช่เป็นสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทที่ลูกความจะพึงได้รับเมื่อชนะคดีไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฉะนั้น จึงย่อมบังคับกันได้ตามสัญญานั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความ: การคิดค่าจ้างเป็นเปอร์เซ็นต์ของทุนทรัพย์ ไม่ใช่การแบ่งส่วนทรัพย์สิน
สัญญาจ้างว่าความที่ทนายความเรียกค่าจ้างจากลูกความยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้องคิดเป็นเงินค่าจ้าง 24,200 บาท นั้น เป็นค่าจ้างที่แน่นอน การที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนทุนทรัพย์ เป็นเพียงอาศัยเป็นเกณฑ์คำนวณค่าจ้างว่าความว่าจะเรียกร้องค่าจ้างคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าใดของทุนทรัพย์ที่ฟ้องเท่านั้น หาใช่เป็นสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทที่ลูกความจะพึงได้รับเมื่อชนะคดีไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามกฎหมายและไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนฉะนั้น จึงย่อมบังคับกันได้ตามสัญญานั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ที่เจือปนดอกเบี้ยเกินกฎหมายเป็นโมฆะ แม้จะอ้างอิงจากหนี้เดิม
ยกเอาดอกเบี้ยส่วนที่เกินอัตรา ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้มาทำเป็นสัญญากู้เงินใหม่ สัญญานั้นย่อมเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เสรีภาพในการทำสัญญาและการระวังประโยชน์ตนเอง คู่สัญญามีสิทธิกำหนดเงื่อนไขได้ตามความสมัครใจ
การทำสัญญานั้น จะตกลงให้ได้เปรียบเสียเปรียบแก่กันอย่างไร แล้วแต่ความสมัครใจของคู่สัญญาซึ่งจะต้องระวังรักษาประโยชน์ของตน
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้ว จำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือคิลธรรมอันดีของประชาชนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เสรีภาพในการทำสัญญาและการยินยอมโดยสมัครใจ คู่สัญญามีสิทธิกำหนดเงื่อนไขและผลประโยชน์ได้เอง
การทำสัญญานั้นจะตกลงให้ได้เปรียบเสียเปรียบแก่กันอย่างไรแล้วแต่ความสมัครใจของคู่สัญญาซึ่งจะต้องระวังรักษาประโยชน์ของตน
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้วจำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานหนี้จากบัตรทดแทนเงินสดและใบรับฝากเงินที่สมบูรณ์ไม่เป็นโมฆะ แม้ไม่มีอากรแสตมป์
จำเลยออกบัตรสำหรับค่าแรงทำงานให้แก่โจทก์แทนการจ่ายเป็นธนบัตรรัฐบาลนั้นจะผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยผู้ออกบัตร ไม่เกี่ยวกับโจทก์ แต่ธนบัตรนั้นย่อมเป็นหลักฐานแสดงว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ โจทก์อยู่ตามจำนวนเงินในบัตร เมื่อโจทก์นำบัตรมาขอขึ้นเงินกับจำเลย และจำเลยออกใบรับฝากให้ ใบรับฝากเงินนั้นย่อมเป็นหลักฐานแห่งหนี้ที่สมบูรณ์ ไม่เป็นโมฆะ และใบรับฝากเงินนี้ก็มิใช่ใบรับเงินซึ่งจะต้องเสียอากรตามประมวลรัษฎากรแต่อย่างไร
หนังสือแต่งตั้งอนุญาตโดยตุลาการที่มิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์นั้น ผู้ทรงตราสารชอบที่จะยื่นตราสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอเสียอากรเมื่อใดก็ได้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่อนุมัติให้เสียอากรและเรียกเงินเพิ่มอากรตามกฎหมายแล้ว ตราสารนั้นย่อมใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานหนี้สมบูรณ์จากใบรับฝากเงิน & การรับสภาพหนี้ทำให้ฟ้องไม่ขาดอายุความ
จำเลยออกบัตรสำหรับค่าแรงทำงานให้แก่โจทก์แทนการจ่ายเป็นธนบัตรรัฐบาลนั้น จะผิดกฎหมายหรือไม่เป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยผู้ออกบัตร ไม่เกี่ยวกับโจทก์ แต่บัตรนั้นย่อมเป็นหลักฐานแสดงว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์อยู่ตามจำนวนเงินในบัตร เมื่อโจทก์นำบัตรมาขอขึ้นเงินกับจำเลย และจำเลยออกใบรับฝากให้ ใบรับฝากเงินนั้นย่อมเป็นหลักฐานแห่งหนี้ที่สมบูรณ์ ไม่เป็นโมฆะ และใบรับฝากเงินนี้ก็มิใช่ใบรับเงินซึ่งจะต้องเสียอากรตามประมวลรัษฎากรแต่อย่างไร
หนังสือแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการที่มิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์นั้นผู้ทรงตราสารชอบที่จะยื่นตราสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอเสียอากรเมื่อใดก็ได้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่อนุมัติให้เสียอากรและเรียกเงินเพิ่มอากรตามกฎหมายแล้ว ตราสารนั้นย่อมใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความสมบูรณ์ แม้ไม่ได้ลงสารบบ การขุดเหมืองเพื่อการเกษตรกรรมไม่เกิน 200 ไร่ ไม่ต้องขออนุญาต
เอกสารที่ถือว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว
โจทก์ขุดลำเหมืองจากทางน้ำเพื่อส่งน้ำไปใช้ในการทำนาเมื่อที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่ไม่เกินสองร้อยไร่โจทก์ไม่จำต้องขอและได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อนตามพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์ พ.ศ.2482 มาตรา 7 และเมื่อลำเหมืองนี้ผ่านที่ดินซึ่งจำเลยเข้าจับจอง จำเลยถมเหมืองเสียแล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยเปิดเหมืองให้โจทก์ใช้น้ำได้ตามปกติ ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ขุดเหมือง โดยไม่ได้รับอนุญาตสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมีลำเหมืองเป็นวัตถุประสงค์ผิดกฎหมายเป็นโมฆะ ย่อมฟังไม่ขึ้น
แม้ในตอนท้ายของสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ปลัดอำเภอผู้ทำสัญญาจะได้บันทึกไว้ด้วยว่าคู่กรณียอมไปอำเภอเพื่อลงสารบบความแพ่งและเพื่อเป็นหลักฐานต่อไปก็มิได้หมายความว่าต้องไปลงสารบบเสียก่อน สัญญาจึงจะสมบูรณ์และการที่เมื่อไปอำเภอกันแล้วจำเลยเกิดไม่ยอมปลัดอำเภอจึงจำหน่ายคดีจากสารบบ และบันทึกว่าเปรียบเทียบไม่ตกลงนั้น ก็ไม่ทำให้สัญญาประนีประนอมยอมความเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความสมบูรณ์ แม้จะไม่ได้ลงสารบบคดี และการขุดเหมืองไม่ผิดกฎหมายหากมีเนื้อที่ไม่เกิน 200 ไร่
เอกสารที่ถือว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว
โจทก์ขุดลำเหมืองจากทางน้ำเพื่อส่งน้ำไปใช้ในการทำนา เมื่อที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่ไม่เกินสองร้อยไร่ โจทก์ก็ไม่จำต้องขอและได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อนตามพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์ พ.ศ. 2482 มาตรา 7 และเมื่อลำเหมืองนี้ผ่านที่ดินซึ่งจำเลยเข้าจับจอง จำเลยถมเหมืองเสีย แล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมเปิดเหมืองให้โจทก์ใช้น้ำได้ ตามปกติ ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่า โจทก์ขุดเหมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมีลำเหมืองเป็นวัตถุประสงค์ผิดกฎหมาย เป็นโมฆะ ย่อมฟังไม่ขึ้น
แม้ในตอนท้ายของสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ปลัดอำเภอผู้ทำสัญญาจะได้บันทึกไว้ด้วยว่าคู่กรณียอมไปอำเภอเพื่อลงสารบบความแพ่งเพื่อเป็นหลักฐานต่อไป ก็มิได้หมายความว่า ต้องไปลงสารบบเสียก่อน สัญญาจึงจะสมบูรณ์และการที่เมื่อไปอำเภอกันแล้วจำเลยเกิดไม่ยอม ปลัดอำเภอจึงจำหน่ายคดีจากสารบบ และบันทีกว่าเปรียบเทียบไม่ตกลงนั้น ก็ไม่ทำให้สัญญาประนีประนอมยอมความเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คชำระหนี้กู้ยืมที่มีดอกเบี้ยเกินอัตรา: เช็คยังใช้บังคับได้ แต่ดอกเบี้ยเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค ได้ความว่าเป็นเช็คที่ออกให้เพื่อชำระหนี้เดิมซึ่งจำเลยกู้เงินโจทก์โดยมีดอกเบี้ยร้อยละสี่ต่อเดือนรวมอยู่ในจำนวนเงินที่ลงไว้ในเช็คนั้นด้วย ดอกเบี้ยทั้งหมดย่อมตกเป็นโมฆะ ผู้ให้กู้คงมีสิทธิเรียกร้องแต่เฉพาะต้นเงินเท่านั้น สัวนหนึ่งของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ คือ การคิดดอกเบี้ยอันเป็นหนี้อุปกรณ์ในนิติกรรมกู้ยืมเท่านั้น แต่ต้นเงินอันเป็นหนี้ประธานยังสมบูรณ์อยู่ แยกออกจากกันได้ เช็คที่โจทก์นำมาฟ้องนี้เป็นนิติกรรมที่ทำขึ้นเป็นคนละอันกับนิติกรรมกู้ยืมคือ เมื่อกู้ยืมกันแล้วจำเลยออกเช็คเพื่อชำระเงินกู้ โจทก์ยอมรับเอาเช็คนั้นแทนการชำระการชำระหนี้โดยใช้เงินตามมาตรา 321 อันจะมีผลให้หนี้กู้ยืมเดิมระงับไปต่อเมื่อเช็คนี้ได้ใช้เงินแล้ว โจทก์มีสิทธิอาศัยเช็คนี้เป็นมูลฟ้องจำเลยได้ เป็นแต่จำเลยมีสิทธิยกข้อที่ว่าดอกเบี้ยเกินอัตราตกเป็นโมฆะขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ เมื่อจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์เกินกว่าที่ตนต้องผูกพันไป จำเลยก็ต้องรับผิดเพียงเท่าที่ต้องผูกพัน แต่จะไม่ยอมรับผิดตามเช็คเสียเลยหาได้ไม่ กรณีหาใช่เรื่องเช็คนี้ตกเป็นโมฆะทั้งหมดหรือบางส่วนไม่.
(ประชุมใหญ่ ครั้ง 7/2506)
of 67