พบผลลัพธ์ทั้งหมด 664 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว: การอนุญาตและทางบังคับสิทธิ
คนต่างด้าวเป็นโจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของที่พิพาทและขอให้จำเลยโอนที่พิพาทให้ถ้าไม่สามารถโอนได้ก็ให้จำเลยคืนเงินที่โจทก์ได้ทดรองจ่ายไปดังนี้ ศาลจะพิพากษายกฟ้องเสียทีเดียวโดยเห็นว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่ปรากฏว่าได้รับอนุญาตให้ยึดถือที่พิพาทได้นั้นยังไม่ชอบเพราะ พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 นั้น หาใช่เป็นกฎหมายที่ห้ามคนต่างด้าวมิให้เป็นเจ้าของที่ดินเสียทีเดียวไม่เป็นแต่ว่าจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อนเท่านั้น ซึ่งถ้าโจทก์ปฏิบัติตามเงื่อนไขแห่ง กฎหมายนั้นแล้ว ก็ย่อมบังคับได้หรือก็มีทางบังคับทางคืนเงินตามที่โจทก์ได้ขอมาด้วยท้ายฟ้องอีกวิธีหนึ่ง ฉะนั้นศาลชอบที่จะพิจารณาฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนจนสิ้นกระแสความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อที่ดินร่วมกับเงื่อนไขการโอนสิทธิ - การโอนโดยไม่สุจริตไม่กระทบสิทธิเจ้าของร่วม
โจทก์ออกเงินซื้อที่ดินร่วมกับจำเลยโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยจะโอนโฉนดใส่ชื่อโจทก์ร่วมด้วย ดังนี้ หาเป็นสัญญาที่ผิดกฎหมายไม่ และต่อมาเมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อที่ดินร่วมกับเงื่อนไขการโอน และผลกระทบต่อสิทธิเจ้าของเมื่อมีการโอนโดยไม่สุจริต
โจทก์ออกเงินซื้อที่ดินร่วมกับจำเลยโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียกร้อยแล้ว จำเลยจะโอนโฉนดใส่ชื่อโจทก์ร่วมด้วย ดังนี้หาเป็นสัญญาที่ผิดกฎหมายไม่และต่อมาเมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงและการมีส่วนร่วมในวัตถุประสงค์ผิดกฎหมายทำให้ขาดอำนาจร้องทุกข์
การที่ผู้เสียหายตกลงจะซื้อธนบัตรปลอมจากจำเลยแม้จะเป็นโดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงก็ดี ก็เป็นความตกลงที่มีวัตถุประสงค์จะกระทำผิดกฎหมาย มิได้เป็นไปด้วยความสุจริต จะถือว่าตนเป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายมิได้ ฉะนั้นพนักงานอัยการจึงไม่มีสิทธิที่จะนำคดีอันเนื่องจากคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายเช่นนี้ มาว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่สุจริตของผู้เสียหายในการซื้อขายธนบัตรปลอม ทำให้ไม่มีสิทธิร้องทุกข์
การที่ผู้เสียหายตกลงจะซื้อธนบัตรปลอมจากจำเลย แม้จะเป็นโดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงก็ดีก็เป็นความตกลงที่มีวัตถุประสงค์จะกระทำผิดกฎหมาย มิได้เป็นไปด้วยความสุจริตจะถือตนว่าเป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายมิได้ ฉะนั้นพนักงานอัยการจึงไม่มีสิทธิที่จะนำคดีอันเนื่องจากคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายเช่นนี้ มาว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายแร่: การส่งมอบ, ข้อจำกัดการอ้างเหตุสุดวิสัย, และการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญา
การที่จำเลยทำสัญญาขายแร่ในนามของตนเอง ในสัญญามิได้ระบุว่าทำแทนใคร แม้จะมีตัวการตัวการก็ไม่เคยแสดงต่อผู้ซื้อมาก่อนว่าจำเลยทำแทน ดังนี้จำเลยต้องรับผิดตามสัญญา ตัวการหาอาจทำให้เสื่อมสิทธิของผู้ซื้อที่มีต่อจำเลย ฐานจำเลยผิดสัญญาได้ไม่
เมื่อข้อความในสัญญามิได้ระบุว่า จำเลยทำแทนผู้ใด ที่จำเลยนำสืบว่าทำในฐานะตัวแทน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94
ข้อสัญญาที่ว่า ค่าส่งจากสถานีถึงโกดังผู้ซื้อ ผู้ขายต้องเสียเองนั้นหมายถึงว่า ผู้ขายต้องส่งมอบถึงโกดังผู้ซื้อ ไม่หมายเลยไปถึงว่า ผู้ขายจะต้องไปเอาแร่จากที่ใดที่หนึ่งมาส่ง ผู้ขายจึงอ้างเหตุสุดวิสัยว่าไม่สามารถขนส่งแร่จากที่หนึ่งมาแก้ตัวไม่ได้
การซื้อขายแร่แม้ผู้ซื้อขายไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติความผิดอยู่ที่ไม่ขออนุญาตกฎหมายมิได้ห้ามการซื้อขายแร่ทั้งสัญญาได้ทำในจังหวัดที่ยังมิได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ฯ 2474 สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะ
เมื่อข้อความในสัญญามิได้ระบุว่า จำเลยทำแทนผู้ใด ที่จำเลยนำสืบว่าทำในฐานะตัวแทน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94
ข้อสัญญาที่ว่า ค่าส่งจากสถานีถึงโกดังผู้ซื้อ ผู้ขายต้องเสียเองนั้นหมายถึงว่า ผู้ขายต้องส่งมอบถึงโกดังผู้ซื้อ ไม่หมายเลยไปถึงว่า ผู้ขายจะต้องไปเอาแร่จากที่ใดที่หนึ่งมาส่ง ผู้ขายจึงอ้างเหตุสุดวิสัยว่าไม่สามารถขนส่งแร่จากที่หนึ่งมาแก้ตัวไม่ได้
การซื้อขายแร่แม้ผู้ซื้อขายไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติความผิดอยู่ที่ไม่ขออนุญาตกฎหมายมิได้ห้ามการซื้อขายแร่ทั้งสัญญาได้ทำในจังหวัดที่ยังมิได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ฯ 2474 สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องเงินช่วยเหลือสงคราม: การพิสูจน์ฐานะผู้รับตามเจตนาผู้จ่าย
ผู้ตายจ่ายเงินให้แก่องค์การณ์ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สงเคราะห์ชนชาติอังกฤษในไทยในระหว่างสงคราม บัดนี้ชนชาติอังกฤษนำคืนมาเพื่อคืนแก่ผู้ที่ควรได้รับเงิน แต่โจทก์จำเลยต่างโต้เถียงกัน ดังนี้ โจทก์มาฟ้องจำเลยต่อศาลขอให้แสดงว่าตนอยู่ในฐานะที่ควรได้รับเงินตามความประสงค์ของผู้จ่ายได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2492)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสุกรผิดกฎหมายและผลกระทบต่อการบังคับชำระหนี้
จำเลยต่อสู้ว่า หนี้ค่าสุกรเกิดจากการซื้อขายอันมีวัตถุประสงค์ขัดต่อกฎหมายจะต้องนำสืบให้ปรากฏว่าโจทก์ได้สมคบในการฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงานควบคุมฯด้วย
คดีแพ่งที่จะถือตามข้อเท็จจริงในคดีอาญานั้น ต้องปรากฏว่าคู่ความในคดีอาญากับในคดีแพ่งเป็นคนเดียวกันและศาลพิพากษาคดีอาญาโดยอาศัยข้อเท็จจริงดังนั้น
ศาลอาจฟังหลักฐานไม่ตรงกับถ้อยคำคู่ความที่อำเภอบันทึกไว้ได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเอกสาร เพราะไม่ใช่เรื่องที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดง
คดีแพ่งที่จะถือตามข้อเท็จจริงในคดีอาญานั้น ต้องปรากฏว่าคู่ความในคดีอาญากับในคดีแพ่งเป็นคนเดียวกันและศาลพิพากษาคดีอาญาโดยอาศัยข้อเท็จจริงดังนั้น
ศาลอาจฟังหลักฐานไม่ตรงกับถ้อยคำคู่ความที่อำเภอบันทึกไว้ได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเอกสาร เพราะไม่ใช่เรื่องที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าและการชำระค่าเช่า ณ สำนักงานผู้ให้เช่า ข้อตกลงพิเศษมีผลเหนือมาตรา 560
ผู้เช่ามีหน้าที่จะต้องนำค่าเช่าไปชำระในสำนักของผู้ให้เช่า
โจทก์ฟ้องในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากหญิงมีสามี เมื่อปรากฏว่าในหนังสือมอบอำนาจที่โจทก์นำมาฟ้องนั้น ทั้งสามีของจ. และ จ. ได้ลงนามมอบอำนาจให้ ป. ฟ้องร้อง และดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลได้ ดังนี้ เป็นการแสดงความยินยอมของสามี ให้ภริยาทำการฟ้องร้อง หรือมอบอำนาจให้ตัวการทำการฟ้องร้องคดีได้
บทบัญญัติมาตรา 560 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น บัญญัติไว้เพื่อเป็นข้อสันนิษฐานเจตนาของคู่สัญญาในเมื่อไม่มีความตกลงกันเป็นอย่างอื่นเท่านั้น หาใช่เป็นบทบัญญัติอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามความหมายของมาตรา 113,114 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้นไม่
ผู้เช่าได้ทำสัญญาตกลงกับผู้ให้เช่าว่าถ้าผู้เช่าประพฤติผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้เช่าตามกฎหมายผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะให้เช่าบอกเลิกเพิกถอนสัญญาเช่าและกลับเข้ายึดถือครอบครองทรัพย์ที่เช่าทันที โดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้เช่าทราบก็ได้ข้อตกลงนี้หาตกเป็นโมฆะไม่
โจทก์ฟ้องในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากหญิงมีสามี เมื่อปรากฏว่าในหนังสือมอบอำนาจที่โจทก์นำมาฟ้องนั้น ทั้งสามีของจ. และ จ. ได้ลงนามมอบอำนาจให้ ป. ฟ้องร้อง และดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลได้ ดังนี้ เป็นการแสดงความยินยอมของสามี ให้ภริยาทำการฟ้องร้อง หรือมอบอำนาจให้ตัวการทำการฟ้องร้องคดีได้
บทบัญญัติมาตรา 560 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น บัญญัติไว้เพื่อเป็นข้อสันนิษฐานเจตนาของคู่สัญญาในเมื่อไม่มีความตกลงกันเป็นอย่างอื่นเท่านั้น หาใช่เป็นบทบัญญัติอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามความหมายของมาตรา 113,114 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้นไม่
ผู้เช่าได้ทำสัญญาตกลงกับผู้ให้เช่าว่าถ้าผู้เช่าประพฤติผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้เช่าตามกฎหมายผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะให้เช่าบอกเลิกเพิกถอนสัญญาเช่าและกลับเข้ายึดถือครอบครองทรัพย์ที่เช่าทันที โดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้เช่าทราบก็ได้ข้อตกลงนี้หาตกเป็นโมฆะไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและการบอกเลิกสัญญา: สิทธิของผู้ให้เช่าในการบอกเลิกสัญญาเมื่อผู้เช่าผิดนัดชำระค่าเช่า
ผู้เช่ามีหน้าที่จะต้องนำค่าเช่าไปชำระในสำนักของผู้ให้เช่า
โจทก์ฟ้องในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากหญิงมีสามี เมื่อปรากฎว่าในหนังสือมอบอำนาจที่โจทก์นำมาฟ้องนั้น ทั้งสามีของ จ.และ จ.ได้ลงนามมอบอำนาจให้ป.ฟ้องร้อง และดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลได้ ดังนี้ เป็นการแสดงความยินยอมของสามี ให้ภริยาทำการฟ้องร้อง หรือมอบอำนาจให้ตัวการทำการฟ้องร้องคดีได้
บทบัญญัติมาตรา 560 ป.ม.แพ่งฯนั้น บัญญัติไว้เพื่อเป็นข้อสันนิษฐานเจตนาของคู่สัญญาในเมื่อไม่มีความตกลงกันเป็นอย่างอื่นเท่านั้น หาใช่เป็นบทบัญญัติอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามความหมายของมาตรา 113,114 ป.ม.แพ่งฯนั้นไม่
ผู้เช่าได้ทำสัญญาตกลงกับผู้ให้เช่าว่า ถ้าผู้เช่าประพฤตติผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้เช่าตามกฎหมาย ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะบอกเลิกเพิกถอนสัญญาเช่าและกลับเข้ายึดถือครอบครองทรัพย์ที่เช่าทันที โดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้เช่าทราบก็ได้ ข้อตกลงนี้หาตกเป็นโมฆะไม่
โจทก์ฟ้องในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากหญิงมีสามี เมื่อปรากฎว่าในหนังสือมอบอำนาจที่โจทก์นำมาฟ้องนั้น ทั้งสามีของ จ.และ จ.ได้ลงนามมอบอำนาจให้ป.ฟ้องร้อง และดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลได้ ดังนี้ เป็นการแสดงความยินยอมของสามี ให้ภริยาทำการฟ้องร้อง หรือมอบอำนาจให้ตัวการทำการฟ้องร้องคดีได้
บทบัญญัติมาตรา 560 ป.ม.แพ่งฯนั้น บัญญัติไว้เพื่อเป็นข้อสันนิษฐานเจตนาของคู่สัญญาในเมื่อไม่มีความตกลงกันเป็นอย่างอื่นเท่านั้น หาใช่เป็นบทบัญญัติอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามความหมายของมาตรา 113,114 ป.ม.แพ่งฯนั้นไม่
ผู้เช่าได้ทำสัญญาตกลงกับผู้ให้เช่าว่า ถ้าผู้เช่าประพฤตติผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้เช่าตามกฎหมาย ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะบอกเลิกเพิกถอนสัญญาเช่าและกลับเข้ายึดถือครอบครองทรัพย์ที่เช่าทันที โดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้เช่าทราบก็ได้ ข้อตกลงนี้หาตกเป็นโมฆะไม่