พบผลลัพธ์ทั้งหมด 664 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิฟ้องร้องเป็นโมฆะ: สิทธิเรียกร้องไม่สามารถซื้อขายได้
จำเลยได้ให้การต่อสู้คดีว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เมื่อจำเลยแก้อุทธรณ์ จำเลยก็ยังโต้แย้งความข้อนี้อยู่ ประเด็นนี้ยังไม่ยุติศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้
เจ้าของที่ดินได้โอนการฟ้องร้องขอให้เพิกถอนหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างเจ้าของที่ดินกับจำเลยให้กับโจทก์ ซึ่งไม่ใช่เป็นการโอนสิทธิเรียกร้องจึงเท่ากับขายความเป็นการผิดศีลธรรมอันดี ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้โอนกันได้และไม่ใช่เป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เช่น มอบอำนาจหรือแต่งทนายไว้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องในนามตนเอง
เจ้าของที่ดินได้โอนการฟ้องร้องขอให้เพิกถอนหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างเจ้าของที่ดินกับจำเลยให้กับโจทก์ ซึ่งไม่ใช่เป็นการโอนสิทธิเรียกร้องจึงเท่ากับขายความเป็นการผิดศีลธรรมอันดี ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้โอนกันได้และไม่ใช่เป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เช่น มอบอำนาจหรือแต่งทนายไว้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องในนามตนเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1114/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินของคนต่างด้าวตาม พ.ร.บ.ที่ดิน 2486 ต้องมีสนธิสัญญาคุ้มครองและได้รับอนุญาต
พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 มาตรา 5,6 คนต่างด้าวจะเข้าถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ ก็ต่อเมื่อมีสนธิสัญญาบัญญัติให้ไว้ และแม้จะมีสนธิสัญญาเช่นว่านั้นก็ตาม แต่การได้มาจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนด ทั้งต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย แต่ถ้าไม่มีสนธิสัญญาให้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ คนต่างด้าวนั้นก็ไม่มีสิทธิจะได้มาซึ่งที่ดิน และแม้จะขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีอำนาจอนุญาตได้
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทยโจทก์จึงไม่มีทางได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามสัญญาได้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยตกเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 จำเลยไม่ใช่ฝ่ายผิดสัญญาและไม่ต้องชดใช้เบี้ยปรับ แต่จำเลยควรคืนมัดจำให้โจทก์ (อ้างฎีกาที่ 188/2492)
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทยโจทก์จึงไม่มีทางได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามสัญญาได้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยตกเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 จำเลยไม่ใช่ฝ่ายผิดสัญญาและไม่ต้องชดใช้เบี้ยปรับ แต่จำเลยควรคืนมัดจำให้โจทก์ (อ้างฎีกาที่ 188/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1114/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการซื้อที่ดินของคนต่างด้าว: ต้องมีสนธิสัญญาและได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีสัญญา สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ
พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 มาตรา 5, 6 คนต่างด้าวจะเข้าถือกรรมสิทธิในที่ดินได้ ก็ต่อเมื่อมีสนธิสัญญาบัญญัติให้ไว้ และแม้จะมีสนธิสัญญาเช่นว่านั้นก็ตาม แต่การได้มาจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนด ทั้งต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย แต่ถ้าไม่มีสนธิสัญญาให้มีกรรมสิทธิในที่ดินได้ คนต่างด้าวนั้นก็ไม่มีสิทธิจะได้มาซึ่งที่ดินและแม้จะขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ๆ ก็ไม่มีอำนาจอนุญาตได้.
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทย โจทก์จึงไม่มีทางได้กรรมสิทธิในที่ดินตามสัญญาได้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยตกเป็นโมฆะตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 113 จำเลยไม่ใช่ฝ่ายผิดสัญญาและไม่ต้องชดใช้เบี้ยปรับ แต่จำเลยควรคืนมัดจำให้โจทก์.
(อ้างฎีกา 188/2492)
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทย โจทก์จึงไม่มีทางได้กรรมสิทธิในที่ดินตามสัญญาได้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยตกเป็นโมฆะตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 113 จำเลยไม่ใช่ฝ่ายผิดสัญญาและไม่ต้องชดใช้เบี้ยปรับ แต่จำเลยควรคืนมัดจำให้โจทก์.
(อ้างฎีกา 188/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาตกลงรับผิดแม้เกิดเหตุสุดวิสัย ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม และศาลใช้ดุลพินิจลดค่าปรับได้
การทำสัญญายินยอมรับผิดตลอดถึงเหตุสุดวิสัยนั้น หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างใดไม่
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนข้าวไป 5,500 กระสอบ โดยมีข้อสัญญาว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยเหตุสุดวิสัย หรือเหตุใดใดก็ตาม จำเลยยอมใช้เบี้ยปรับให้แก่โจทก์เป็นเงิน 813,998 บาท ปรากฏว่าข้าวสารส่งถึงปลายทางเพียง 2605 กระสอบขาดไป 2895 กระสอบ ศาลย่อมใช้ดุลพินิจให้จำเลยใช้เบี้ยปรับลดลงเป็นเงิน 400,000 บาทได้
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนข้าวไป 5,500 กระสอบ โดยมีข้อสัญญาว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยเหตุสุดวิสัย หรือเหตุใดใดก็ตาม จำเลยยอมใช้เบี้ยปรับให้แก่โจทก์เป็นเงิน 813,998 บาท ปรากฏว่าข้าวสารส่งถึงปลายทางเพียง 2605 กระสอบขาดไป 2895 กระสอบ ศาลย่อมใช้ดุลพินิจให้จำเลยใช้เบี้ยปรับลดลงเป็นเงิน 400,000 บาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยผู้ไม่มีสิทธิ (ชาวต่างด้าว) สัญญาเป็นโมฆะ และไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย
ผู้รับโอนที่ดินเป็นชาวจีนแต่มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2485 มาตรา5,6 จึงไม่มีสิทธิจะรับโอนที่ดิน สัญญาจะซื้อขายที่ทำขึ้นไว้ ก็ใช้บังคับไม่ได้
โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่จำเลย และได้รับเงินค่าที่ดินไว้จากจำเลยเต็มจำนวนราคาขายแล้ว เมื่อศาลพิพากษาให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายเสีย ตามพฤติการณ์ดังนี้ โจทก์ไม่ควรได้ค่าเสียหายอีก
โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่จำเลย และได้รับเงินค่าที่ดินไว้จากจำเลยเต็มจำนวนราคาขายแล้ว เมื่อศาลพิพากษาให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายเสีย ตามพฤติการณ์ดังนี้ โจทก์ไม่ควรได้ค่าเสียหายอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินกับชาวต่างชาติที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่ดิน สัญญาเป็นโมฆะ และไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
ผู้รับโอนที่ดินเป็นชาวจีน แต่มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวแก่คนต่างด้าว พ.ศ. 2485 มาตรา 5, 6 จึงไม่มีสิทธิจะรับโอนที่ดิน สัญญาจะซื้อขายที่ทำขึ้นไว้ ก็ใช้บังคับไม่ได้
โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่จำเลย และได้รับเงินค่าที่ดินไว้จากจำเลยเต็มจำนวนราคาขายแล้ว เมื่อศาลพิพากษาให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายเสีย ตามพฤตติการณ์ดังนี้ โจทก์ไม่ควรได้ค่าเสียหายอีก
โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่จำเลย และได้รับเงินค่าที่ดินไว้จากจำเลยเต็มจำนวนราคาขายแล้ว เมื่อศาลพิพากษาให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายเสีย ตามพฤตติการณ์ดังนี้ โจทก์ไม่ควรได้ค่าเสียหายอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแสวงหาประโยชน์จากการเป็นความขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม
โจทก์จำเลยทำสัญญากันว่าโจทก์จ่ายเงินให้จำเลยในการที่จำเลยจะหาทนายฟ้องนายหมะ เรื่องแย่งกรรมสิทธิที่ดิน 6 แปลง ถ้าแพ้คดีนายหมะ เงินที่โจทก์จ่ายไปเป็นพับ ถ้าคดีชนะจำเลยยอมมอบกรรมสิทธิที่ดิน 6 แปลงให้แก่โจทก์ แต่โจทก์ต้องเลี้ยงดูจำเลยจนตลอดชีวิตร ดังนี้ เป็นสัญญาที่ทำขึ้นโดยตกลงให้ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการเป็นความ ซึ่งคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งไม่มีส่วนในมูลคดีนั้น ๆ ย่อมเป็นการแสวงหาประโยชน์จากผู้อื่น อันเป็นความกัน นับว่าเป็นการขัดแก่ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนตาม ป.ม.แพ่ง มาตรา 113
(อ้างฎีกา 510 / 2468)
(อ้างฎีกา 510 / 2468)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว: ต้องมีสนธิสัญญาและได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 มาตรา 5,6คนต่างด้าวจะเข้าถือสิทธิในที่ดินได้ ก็ต่อเมื่อมีสนธิสัญญาบัญญัติให้ไว้แต่ถ้าไม่มีสนธิสัญญาบัญญัติให้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้คนต่างด้าวก็ไม่มีสิทธิจะได้มาซึ่งที่ดิน และแม้จะขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่ ก็ไม่มีอำนาจอนุญาตได้
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทยโจทก์ไม่มีทางที่จะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามสัญญาได้ จำเลยต้องคืนเงินมัดจำให้โจทก์
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทยโจทก์ไม่มีทางที่จะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามสัญญาได้ จำเลยต้องคืนเงินมัดจำให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าวตาม พ.ร.บ.ที่ดิน 2486: ต้องมีสนธิสัญญา และได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 มาตรา 5, 6 คนต่างด้าวจะเข้าถือสิทธิในที่ดินได้ ก็ต่อเมื่อมีสนธิสัญญาบัญญัติให้ไว้ แต่ถ้าไม่มีสนธิสัญญาบัญญัติให้มีกรรมสิทธิในที่ดินได้ คนต่างด้าวก็ไม่มีสิทธิจะได้มาซึ่งที่ดิน และแม้จะขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีอำนาจอนุญาตได้
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทย โจทก์ไม่มีทางที่จะได้กรรมสิทธิในที่ดินตามสัญญาได้ จำเลยต้องคืนเงินมัดจำให้โจทก์.
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทย โจทก์ไม่มีทางที่จะได้กรรมสิทธิในที่ดินตามสัญญาได้ จำเลยต้องคืนเงินมัดจำให้โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงถอนฟ้องคดีอาญาแผ่นดินเพื่อแลกกับทรัพย์สิน เป็นโมฆะเนื่องจากขัดต่อความสงบเรียบร้อย
โจทก์ถอนฟ้องคดีอาญาแผ่นดิน โดยมีข้อตกลงว่า โจทก์ยอมรับเอาส่วนแบ่งในที่ดินเป็นการตอบแทน ข้อตกลงนั้นเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อย จึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113