คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดวง ดีวาจิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 281 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการคัดค้านคำตัดสินชี้ขาด จำเลยต้องแสดงเหตุผลชัดเจนว่าหากพิจารณาคดีใหม่จะชนะได้อย่างไร
คำขอให้พิจารณาใหม่ที่กล่าวถึงเหตุที่จำเลยได้ขาดนัดแต่ประการเดียวมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรหากมีการพิจารณาคดีใหม่ จำเลยอาจชนะคดีได้อย่างไรบ้าง แม้จำเลยจะอ้างว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องมาด้วย ก็เป็นการอ้างมาลอย ๆ หาได้คัดค้านในเนื้อหาแห่งคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นไม่ ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการยกคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ จำเลยต้องแสดงเหตุคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดอย่างชัดเจน
คำขอให้พิจารณาใหม่ที่กล่าวถึงเหตุที่จำเลยได้ขาดนัดแต่ประการเดียวมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรหากมีการพิจารณาคดีใหม่ จำเลยอาจชนะคดีได้อย่างไรบ้าง แม้จำเลยจะอ้างว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องมาด้วย ก็เป็นการอ้างมาลอย ๆหาได้คัดค้านในเนื้อหาแห่งคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นไม่ ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปที่ถูกต้องตามกฎหมาย: หนังสือกำกับไม้คุ้มครองการครอบครอง
ไม้สักแปรรูปของกลางเป็นไม้ของโรงค้าไม้ที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย. เมื่อโรงค้าไม้ขายไม้นี้ให้จำเลยโดยออกหนังสือกำกับไม้แปรรูปให้โดยถูกต้อง หนังสือกำกับไม้แปรรูปนั้นย่อมคุ้มครองการครอบครองไม้ของจำเลยนับแต่ได้ซื้อไม้ไว้ในความครอบครองแล้ว จำเลยหาจำต้องกลับไปขออนุญาตมีไม้ของกลางจากพนักงานเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้อีกครั้งหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปที่ถูกต้องตามกฎหมาย: หนังสือกำกับไม้คุ้มครองการครอบครอง แม้ไม่ขออนุญาตเพิ่มเติม
ไม้สักแปรรูปของกลางเป็นไม้ของโรงค้าไม้ที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย. เมื่อโรงค้าไม้ขายไม้นี้ให้จำเลยโดยออกหนังสือกำกับไม้แปรรูปให้โดยถูกต้อง หนังสือกำกับไม้แปรรูปนั้นย่อมคุ้มครองการครอบครองไม้ของจำเลยนับแต่ได้ซื้อไม้ไว้ในความครอบครองแล้ว จำเลยหาจำต้องกลับไปขออนุญาตมีไม้ของกลางจากพนักงานเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้อีกครั้งหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คที่แท้จริงและอำนาจร้องทุกข์ในคดีเช็ค – เช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ช. เป็นผู้นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของ ช. ขอให้ธนาคารเรียกเก็บเงินจากจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่าย ช. จึงเป็นผู้ทรงเช็คในฐานะเป็นผู้มีเช็คไว้ในครอบครองโดยฐานเป็นผู้รับเงิน และเป็นผู้ถือเช็คฉบับนี้ด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904
ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชีอันจะพึงจ่ายให้ได้นั้นสารสำคัญอยู่ที่วันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค เมื่อวันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ช. เป็นผู้ทรงเช็ค ช. จึงเป็นผู้เสียหาย แม้เดิมจำเลยจะได้ออกเช็คพิพาทให้ ว. ว. ก็มิใช่ผู้เสียหาย ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คที่แท้จริงและการมีอำนาจฟ้องคดีเช็ค: ผู้รับเช็คและผู้ถือเช็คมีสิทธิฟ้อง
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ช. เป็นผู้นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของ ช. ขอให้ธนาคารเรียกเก็บเงินจากจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่าย ช. จึงเป็นผู้ทรงเช็คในฐานะเป็นผู้มีเช็คไว้ในครอบครองโดยฐานเป็นผู้รับเงิน และเป็นผู้ถือเช็คฉบับนี้ด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904
ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค หรือฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชีอันจะพึงจ่ายให้ได้นั้น สารสำคัญอยู่ที่วันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค เมื่อวันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ช.เป็นผู้ทรงเช็คช. จึงเป็นผู้เสียหาย แม้เดิมจำเลยจะได้ออกเช็คพิพาทให้ ว. ว. ก็มิใช่ผู้เสียหาย ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้เป็นการตอบแทนสละสิทธิ และการปลูกสร้างบนที่ดินที่ได้รับยกให้ โดยไม่ถือว่าเป็นการรุกล้ำ
หนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดินเพิ่มเติมซึ่งทำภายหลังจากได้ทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดินฉบับเดิม มีข้อความตกลงว่าผู้แทนโจทก์กับเจ้าของร่วมคนอื่นยินยอมยกที่ดินในโฉนดที่ 3878ให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลย เพื่อเป็นการตอบแทนที่จำเลยสละสิทธิ์ที่จะไม่ขอทำทางเท้าให้กว้างขึ้นเป็นถนนจากที่ดินโฉนดที่ 7386ผ่านที่ดินโฉนดที่ 3878 ไปสู่ถนนใหญ่ อันเป็นสิทธิที่จำเลยพึงเรียกร้องได้ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินฉบับแรกที่ทำไว้แต่เดิม ข้อตกลงเช่นนี้แม้ไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็มีผลผูกพันบังคับระหว่างคู่สัญญากันได้ ไม่ใช่สัญญาให้โดยเสน่หาและไม่ใช่สัญญาจะซื้อขายจึงไม่อยู่ใต้บังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา 456, 525ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยปลูกเรือนในที่ดินของจำเลยล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนดอื่น อันเป็นส่วนที่จำเลยได้รับยกให้ตามสัญญาจะซื้อขายเพิ่มเติมดังกล่าวโดยโจทก์รู้เห็น และมิได้ทักท้วงเท่ากับโจทก์รับว่าจำเลยปลูกเรือนในที่ดินพิพาทได้โจทก์ ไม่มีสิทธิให้จำเลยรื้อถอนโรงเรือนหลังนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายเพิ่มเติมที่ดิน แม้ไม่ได้จดทะเบียนก็มีผลผูกพันได้ หากโจทก์รู้เห็นยินยอมการเข้าใช้ประโยชน์ของจำเลย ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องให้รื้อถอน
หนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดินเพิ่มเติมซึ่งทำภายหลังจากได้ทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดินฉบับเดิม มีข้อความตกลงว่าผู้แทนโจทก์กับเจ้าของร่วมคนอื่นยินยอมยกที่ดินในโฉนดที่3878 ให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลย เพื่อเป็นการตอบแทนที่จำเลยสละสิทธิ์ที่จะไม่ขอทำทางเท้าให้กว้างขึ้นเป็นถนนจากที่ดินโฉนดที่ 7386 ผ่านที่ดินโฉนดที่ 3878 ไปสู่ถนนใหญ่ อันเป็นสิทธิที่จำเลยพึงเรียกร้องได้ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินฉบับแรกที่ทำไว้แต่เดิม ข้อตกลงเช่นนี้แม้ไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็มีผลผูกพันบังคับระหว่างคู่สัญญากันได้ ไม่ใช่สัญญาให้โดยเสน่หาและไม่ใช่สัญญาจะซื้อขายจึงไม่อยู่ใต้บังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา 456,525 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยปลูกเรือนในที่ดินของจำเลยล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนดอื่น อันเป็นส่วนที่จำเลยได้รับยกให้ตามสัญญาจะซื้อขายเพิ่มเติมดังกล่าวโดยโจทก์รู้เห็น และมิได้ทักท้วง เท่ากับโจทก์รับว่าจำเลยปลูกเรือนในที่ดินพิพาทได้โจทก์ ไม่มีสิทธิให้จำเลยรื้อถอนโรงเรือนหลังนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสั่งให้คืนทรัพย์ในคดีอาญา สิ้นสุดเมื่อไม่มีความผิดฐานยักยอก ผู้เสียหายต้องฟ้องทางแพ่ง
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 ประกอบกับมาตรา 44 วรรค 2 อำนาจของพนักงานอัยการที่จะเรียกทรัพย์สิน หรือราคาแทนผู้เสียหายในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งแห่งคดีอาญา และอำนาจการพิพากษาในส่วนเรียกทรัพย์สินหรือราคา ก็เป็นส่วนหนึ่งแห่งคดีอาญา เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานยักยอกดังที่โจทก์ฟ้อง อำนาจของพนักงานอัยการที่จะเรียกทรัพย์สินหรือราคาแทนผู้เสียหายตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 43 ย่อมสิ้นไป ศาลจึงไม่มีอำนาจที่จะพิพากษาให้คืน หรือใช้ราคาทรัพย์ได้
(ถูก 1039/2516 ประชุมใหญ่ ทับเสียแล้ว)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความระงับสิทธิภารจำยอม ผู้รับโอนที่ดินย่อมผูกพันตามสัญญา
เดิมจำเลยได้เป็นโจทก์ฟ้อง ด. เจ้าของเดิมของที่พิพาทว่า ในที่พิพาทมีทางจำเป็น ด. ยอมให้จำเลยใช้มากว่าสิบปี ตกเป็นภารจำยอม ด. ต่อสู้ว่าทางในที่พิพาทไม่ใช่ทางภารจำยอมหรือทางจำเป็น คดียังไม่มีการสืบพยานจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ ด. มีข้อความว่าด. ยอมให้จำเลยเช่าทางพิพาทตามสภาพเดิม ในอัตราค่าเช่าเดือนละ 100 บาท จำเลยตกลงเช่า.ดังนี้ ข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ก่อนทำสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นย่อมระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 ครั้นต่อมา ด.ขายที่พิพาทให้โจทก์ โจทก์บอกเลิกการเช่า แล้วโจทก์มาฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่พิพาท จำเลยจะอ้างสิทธิอันมีมาก่อนทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นข้อต่อสู้ฟ้องแย้งขอแสดงว่ามีทางอันเป็นภารจำยอมในที่พิพาทอีกหาได้ไม่
สิทธิในภารจำยอมอาจสิ้นสุดลงได้ด้วยเหตุหลายประการ ไม่เฉพาะที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1397,1399 เท่านั้น ภารจำยอมอาจสิ้นสุดลงโดยนิติกรรมระหว่างเจ้าของสามยทรัพย์และภารยทรัพย์ตกลงกันให้ภารจำยอมที่มีอยู่ระงับสิ้นไปก็ได้ โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1299 และ1301 เมื่อจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทเรื่องภารจำยอมกับ ด. เจ้าของที่พิพาทเดิม จนศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว จำเลยและ ด. ย่อมจะต้องผูกพันตามคำพิพากษาในคดีนั้น เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิอ้างทางภารจำยอมมายัน ด.จำเลยย่อมจะอ้างทางภารจำยอมมายันโจทก์ผู้รับโอนที่พิพาทจาก ด. ไม่ได้ด้วย
of 29