คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 42 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลสูงมีอำนาจยกคำพิพากษาและพิพากษายกฟ้องได้
ฟ้องขอให้โอนที่ดินให้ตามสัญญาจะซื้อขายนั้น เป็นคดีมีทุนทรัพย์ ( อ้างคำสั่งคำร้องที่ 12/2493 และ ฎีกาที่ 1065/2493 )
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงจำเลยต่อสู้ว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แต่เมื่อศาลแขวงสั่งว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง แล้วพิจารณาคดีต่อไปนั้น แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในทันที และมิได้โต้แย้งคำสั่งไว้ จนศาลพิพากษาแล้ว จึงมาอุทธรณ์เรื่องอำนาจศาลอีก ดังนี้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องอำนาจศาลเป็นข้อ ก.ม.อันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142 (5) และเมื่อเห็นว่าคดีเกินอำนาจศาลแขวง ศาลสูงก็ย่อมมีอำนาจให้ยกคำพิพากษาแขวงแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีภาษีเงินได้เกินอำนาจศาลแขวง: การเพิกถอนการประเมินภาษีและคืนเงินที่ชำระแล้ว
โจทก์ฟ้องประกอบด้วยคำขอท้ายฟ้อง แสดงให้เห็นว่าเจ้าพนักงานประเมินภาษี เงินได้ประเมินภาษีเงินได้ให้โจทก์ชำระเงิน 71,936.10 บาทเป็นการไม่ถูกต้อง จึงขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งที่เจ้าพนักงานประเมินภาษีได้ประเมินให้โจทก์ชำระภาษี71,936.10 บาท ซึ่งโจทก์ได้นำเงินไปชำระแล้วนั้นเสียดังนี้ ผลของคำพิพากษาในเมื่อโจทก์ชนะคดีก็คือโจทก์ย่อมได้รับเงินที่ชำระไว้แล้วคืน จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 เกินอำนาจศาลแขวงจะพิจารณาพิพากษาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับการชำระภาษีแล้ว ศาลพิจารณาว่ามีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง
โจทก์ฟ้องประกอบด้วยคำขอท้ายฟ้อง แสดงให้เห็นว่าเจ้าพนักงานประเมินภาษีเงินได้ประเมินภาษีเงินได้ให้โจทก์ชำระเงิน 71936.10 บาทเป็นการไม่ถูกต้อง จึงขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งที่เจ้าพนักงานประเมินภาษีได้ประเมินให้โจทก์ชำระภาษี 71936.10 บาท ซึ่งโจทก์ได้นำเงินไปชำระแล้วนั้นเสีย ดังนี้ ผลของคำพิพากษาในเมื่อโจทก์ชนะคดีก็คือ โจทก์ย่อมได้รับเงินที่ชำระไว้แล้วคืน จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 150 เกินอำนาจศาลแขวงจะพิจารณาพิพากษาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวง: คดีนอกฟ้องเกินอำนาจศาลหรือไม่ ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาได้หากบทที่ถูกอ้างถึงเป็นบทนอกฟ้อง
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 223,304 นั้นอยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุตติธรรม แม้หนังสือที่ปลอมจะเป็นหนังสือสำคัญอันจะเป็นความผิดตามมาตรา 224,225 ซึ่งมีอัตราโทษเกินอำนาจศาลแขวงก็ดี ก็เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกความประสงค์ของโจทก์จึงเป็นคดีที่ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้อยู่นั่นเอง
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง ขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: คดีอาญาที่เกินอำนาจศาลแขวงแต่โจทก์ไม่โต้แย้ง จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์และฎีกา
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 223,304 นั้นอยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม แม้หนังสือที่ปลอมจะเป็นหนังสือสำคัญอันจะเป็นความผิดตามมาตรา 224,225 ซึ่งมีอัตราโทษเกินอำนาจศาลแขวงก็ดีก็เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกความประสงค์ของโจทก์จึงเป็นคดีที่ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้อยู่นั่นเอง
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวงโจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พิพาทกรรมสิทธิที่ดิน: การประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อกำหนดค่าขึ้นศาล
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนขายที่ดินแก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยต่อสู้ว่า ไม่ได้มีการทำสัญญาขายแก่โจทก์ ดังนี้ เป็นการพิพาทกันด้วยกรรมสิทธิที่ดิน ต้องเรียกคู่ขึ้นศาลตามราคาที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1869/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวง: ความผิดหลายบท ใช้บทหนัก แม้บทเบาอยู่ในอำนาจ
ในกรณีที่ฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำความผิดซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบทด้วยกันนั้น หากพิจารณาได้ข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์แล้ว ศาลก็ต้องใช้อาญาที่เป็นบทหนักลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 70 ฉะนั้นเมื่อความผิดตามบทกฎหมายที่หนักนั้น เกินอำนาจศาลแขวงแม้ความผิดบทเบา จะอยู่ในอำนาจศาลแขวง ศาลแขวงก็ต้องพิพากษายกฟ้องเสีย เพราะต้องถือว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการฟ้องเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินต้องมีกรรมสิทธิร่วม หากไม่มีสิทธิฟ้องย่อมไม่มีผล
ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน โดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินนั้นด้วยการซื้อขายทำกันไม่สมบูรณ์เพราะตนหรือเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งไม่ ได้เป็นผู้ขาย หากแต่จำเลยคนหนึ่งทำใบมอบฉันทะปลอมขึ้นว่าเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งนั้นมอบฉันทะให้จำเลยขายแก่จำเลยอีก คนหนึ่งฝ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องใบมอบฉันทะที่ให้จำเลยขายนั้น เป็นใบมอบฉันทะที่แท้จริงและผู้มอบฉันทะก็เป็นเจ้าของที่ดินแต่ผู้เดียว ดังนี้ถือว่าเป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ซึ่งกำหนดลงเป็นราคาเงินมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน: โจทก์ต้องพิสูจน์กรรมสิทธิ์ร่วม หากพิสูจน์ไม่ได้ สิทธิฟ้องไม่มี
ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน โดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินนั้นด้วย การซื้อขายทำกันไม่สมบูรณ์เพราะตนหรือเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งไม่ได้เป็นผู้ขาย หากแต่จำเลยคนหนึ่งทำใบมอบฉันทะปลอมขึ้นว่า เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งนั้นมอบฉันทะให้จำเลยขายแก่จำเลยอีกคนหนึ่งฝ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง ใบมอบฉันทะที่ให้จำเลยขายนั้น เป็นใบมอบฉันทะที่แท้จริง และผู้มอบฉันทะก็เป็นเจ้าของที่ดินแต่ผู้เดียว ดังนี้ ถือว่าเป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ซึ่งกำหนดลงเป็นราคาเงินมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลและการพิพาทกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน: คดีเกินอำนาจศาลแขวงเนื่องจากราคาเกินเกณฑ์
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเรือนพิพาทโดยอ้างว่าเป็นของบิดา บิดาตาย จึงเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่า โรงเรือนพิพาทไม่ใช่ของบิดาโจทก์เป็นโรงเรือนที่จำเลยร่วมกับผู้มีชื่อออกเงินทุนสร้างขึ้นเป็นสถานกุศลกิจดังนี้ เป็นคดีพิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิ์ในโรงเรือนพิพาทนั้น เมื่อโรงเรือนพิพาทมีราคาถึง 6000 บาท คดีก็เกินอำนาจผู้พิพากษานายเดียวจะพิจารณาพิพากษาได้
โจทก์ฟ้องคดีเกินอำนาจศาลแขวงต่อศาลแขวง แม้จำเลยจะไม่ได้ยกอำนาจศาลขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลแขวงนั้น ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจศาลตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าวศาลสูงก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
of 5