คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 36

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 473 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2328/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนรถยนต์ของกลางแก่เจ้าของ เมื่อไม่รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกับจำเลยที่ 2ลักทรัพย์หรือรับของโจรเศษเหล็ก เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 ลักเอาเศษเหล็ก และไม่ทราบว่าเศษเหล็กดังกล่าวที่ซื้อไว้จากจำเลยที่ 2 ที่บรรทุกใส่รถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อจำเลยที่ 1กับภรรยามายื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลาง จึงเป็นผลให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กับภรรยาไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับจำเลยที่ 2 ใช้รถยนต์ของกลางในการกระทำความผิด ต้องคืนรถยนต์ของกลางแก่จำเลยที่ 1กับภรรยา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อกับสิทธิการเรียกร้องคืนทรัพย์สิน: การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและการรู้เห็นเป็นใจ
สัญญาเช่าซื้อระบุว่า กรณีเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เช่าซื้อในระหว่างอายุสัญญา เช่น ถูกขโมย ต้องอัคคีภัย วาตภัยอุปัทวเหตุใด ๆ หรือการกระทำใด ๆ จนทรัพย์สินที่เช่าซื้อเสียหายหรือสูญหาย ผู้เช่ายินยอมรับผิดชดใช้เงินค่าเช่าซื้อที่ยังค้างชำระอยู่ทั้งสิ้น ข้อสัญญาดังกล่าวแสดงวัตถุประสงค์อยู่ในตัวว่าผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อต้องการราคาค่าเช่าซื้อเป็นสำคัญผู้เช่าซื้อจะนำทรัพย์ที่ให้เช่าซื้อไปใช้อย่างไรก็ได้เมื่อทราบว่ารถจักรยานยนต์ของกลางถูกยึดแล้ว ผู้ร้องยังรับค่าเช่าซื้อต่อมาอีกไม่ได้บอกเลิกสัญญาหรือติดตามเอารถจักรยานยนต์คืน ทั้งไม่เคยขอรับคืนจากพนักงานสอบสวน การที่ผู้ร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ถือว่า ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดจึงไม่มีสิทธิร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลาง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ-รู้เห็นเป็นใจ: ผู้ให้เช่าซื้อไม่สุจริต ขอคืนรถไม่ได้ แม้เกิดความเสียหาย
สัญญาเช่าซื้อระบุว่า ตั้งแต่วันที่ผู้เช่าซื้อได้รับมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อเป็นต้นไป หากเกิดความเสียหายใด ๆ แก่ทรัพย์สินที่เช่าซื้อในระหว่างอายุสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อยินยอมรับผิดชดใช้เงินค่าเช่าซื้อที่ยังค้างชำระอยู่ทั้งสิ้น ข้อสัญญาดังกล่าวแสดงวัตถุประสงค์อยู่ในตัวว่าผู้ให้เช่าซื้อต้องการราคาค่าเช่าซื้อเป็นสำคัญ เมื่อผู้ให้เช่าซื้อทราบว่ารถจักรยานยนต์ของกลางถูกยึดแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อก็ยังคงรับค่าเช่าซื้อต่อมาอีกไม่ได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อหรือติดตามเอารถจักรยานยนต์คืน ทั้งผู้ให้เช่าซื้อไม่เคยไปขอรับรถจักรยานยนต์ของกลางคืนจากพนักงานสอบสวนการที่ผู้ให้เช่าซื้อขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ถือได้ว่าผู้ให้เช่าซื้อรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ผู้ให้เช่าซื้อจึงไม่มีสิทธิร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนของกลางในคดีพนัน ผู้ร้องเป็นเจ้าของและของกลางไม่ได้ใช้ในการกระทำผิด ศาลฎีกายืนคืนของกลาง
++ เรื่อง ความผิดต่อพระราชบัญญัติการพนัน (ชั้นขอคืนของกลาง) ++
++ โจทก์ฎีกา ++
++
++ คำพิพากษาสั่งออก - รอย่อ
++ แจ้งการอ่านแล้ว / โปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++
++
ในคดีร้องขอคืนของกลาง เมื่อได้ความว่าโทรทัศน์ของกลางมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดซึ่งศาลไม่มีอำนาจสั่งริบ จึงต้องคืนโทรทัศน์ของกลางให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนของกลางที่ไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด ผู้ร้องมีสิทธิได้รับคืน
ในคดีร้องขอคืนของกลาง เมื่อได้ความว่าโทรทัศน์ของกลางมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด ซึ่งศาลไม่มีอำนาจสั่งริบ จึงต้องคืนโทรทัศน์ของกลางให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5870/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในคดีพนัน: ความผิดต้องตรงกับบัญชี ก. พ.ร.บ.การพนัน และผลผูกพันบุคคลภายนอก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนีได้บังอาจร่วมกันเล่นการพนันรัสเซี่ยนพูล(ผีลาย) ซึ่งเป็นการพนันตามบัญชี ก.อันดับที่ 18 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ซึ่งประเภทของการพนันที่โจทก์ระบุมาในฟ้องไม่ใช่บิลเลียดรู หรือตีผี ดังที่ระบุไว้ในบัญชี ก. อันดับที่ 18 ดังกล่าว การกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวในฟ้อง จึงมิใช่การกระทำที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478บัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ ดังนั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ และศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าทรัพย์สินของกลางเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันให้ริบก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าวก็ไม่ผูกพันผู้ร้อง และกรณีเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นอ้าง ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เมื่อการกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวในฟ้องมิใช่การกระทำที่เป็นความผิด ทรัพย์สินของกลางที่เจ้าพนักงานยึดซึ่งผู้ร้องขอคืนจึงมิใช่อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันที่มาตรา 10วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจริบได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5870/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในคดีพนัน: การกระทำความผิดต้องตรงตามบัญชี ก. ของ พ.ร.บ.การพนัน มิฉะนั้นศาลไม่มีอำนาจริบ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนีได้บังอาจร่วมกันเล่นการพนันรัสเซี่ยนพูล (ผีลาย) ซึ่งเป็นการพนันตามบัญชี ก.อันดับที่ 18 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ซึ่งประเภทของการพนันที่โจทก์ระบุมาในฟ้องไม่ใช่บิลเลียดรู หรือตีผี ดังที่ระบุไว้ในบัญชี ก. อันดับที่ 18 ดังกล่าว การกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวในฟ้อง จึงมิใช่การกระทำที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478บัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ ดังนั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ และศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าทรัพย์สินของกลางเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันให้ริบก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าวก็ไม่ผูกพันผู้ร้อง และกรณีเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นอ้าง ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เมื่อการกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวในฟ้องมิใช่การกระทำที่เป็นความผิด ทรัพย์สินของกลางที่เจ้าพนักงานยึดซึ่งผู้ร้องขอคืนจึงมิใช่อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันที่มาตรา 10วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจริบได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5451/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์จากการกระทำความผิด พ.ร.บ.ขนส่งทางบก: เจ้าของรถไม่รู้เห็นเป็นใจ ไม่ต้องริบ
สาระสำคัญของการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ. 2522 อยู่ที่จำเลยใช้รถผิดประเภท และใช้รถยนต์โดยสารแล่นทับเส้นทางสัมปทานของผู้อื่น อันเป็นความผิดเพราะไม่ได้รับอนุญาตรถยนต์ของกลางจึงมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบการที่ศาลชั้นต้นริบจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลาง จึงต้องคืนแก่ผู้ร้องโดยไม่จำต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยหรือไม่ แม้ผู้ร้องจะมิได้ฎีกาแต่ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง,225.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5451/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์คดีขนส่งทางบก: เจ้าของรถไม่ต้องรับผิดหากไม่รู้เห็นการกระทำผิด
สาระสำคัญของการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522อยู่ที่จำเลยใช้รถผิดประเภท และใช้รถยนต์โดยสารแล่นทับเส้นทางสัมปทานของผู้อื่น อันเป็นความผิดเพราะไม่ได้รับอนุญาต รถยนต์ของกลางจึงมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบ การที่ศาลชั้นต้นริบจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลาง จึงต้องคืนแก่ผู้ร้องโดยไม่จำต้องวินิจฉัยว่า ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยหรือไม่ แม้ผู้ร้องจะมิได้ฎีกาแต่ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง, 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5066/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถเช่าซื้อและการขอคืนรถหลังจำเลยกระทำผิด ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิขอคืนได้หากไม่มีเจตนาช่วยเหลือจำเลย
เมื่อรถจักรยานยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้องให้จำเลยเช่าซื้อไปโดยจำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนผู้ร้องบอกเลิกสัญญาแล้วนั้นเมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าผู้ร้องมาขอรถจักรยานยนต์คืนเพื่อประโยชน์ของจำเลยแล้ว แม้สัญญาเช่าซื้อมีข้อความระบุว่า หากทรัพย์ที่เช่าซื้อถูกริบ ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินที่เหลือจนครบก็ตาม ก็เป็นเงื่อนไขในสัญญาระบุเกี่ยวกับความรับผิดที่ผู้เช่าซื้อมีต่อผู้ให้เช่าซื้อเท่านั้น อันเป็นเงื่อนไขที่กำหนดกันไว้ได้ตามกฎหมายเช่นเงื่อนไขที่ให้สิทธิแก่ผู้ให้เช่าซื้อ ซึ่งผู้ให้เช่าซื้อจะใช้หรือไม่ก็ได้ การที่ผู้ให้เช่าซื้อไม่ใช้สิทธิดังกล่าว แต่มาขอรถจักรยานยนต์ของกลางคืนนั้น หาถือว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยอันเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตไม่.
of 48