คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 216

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 447 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฎีกา: เริ่มนับเมื่อโจทก์ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้จำเลยทราบก่อน
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2508 แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เซ็นทราบการฟังคำพิพากษาในวันนั้นด้วย จนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2508 ความจึงปรากฏว่าจำเลยได้ลงชื่อในการฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แต่ฝ่ายเดียว ศาลชั้นต้นจึงสั่งให้เรียกโจทก์มาทราบคำพิพากษา และได้มีบันทึกว่า โจทก์ได้ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 28 ธันวาคม 2508 ดังนี้ จึงต้องนับอายุฎีกาตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2508 อันเป็นวันที่โจทก์ได้ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ยื่นฎีกาวันที่ 7 มกราคม 2509 ภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่โจทก์ได้ทราบคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เช่นนี้ ฎีกาของโจทก์ย่อมไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 216.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฎีกา: เริ่มนับเมื่อโจทก์ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้จำเลยฟังก่อน
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2508 แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เซ็นทราบการฟังคำพิพากษาในวันนั้นด้วย จนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2508 ความจึงปรากฏว่าจำเลยได้ลงชื่อในการฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แต่ฝ่ายเดียวศาลชั้นต้นจึงสั่งให้เรียกโจทก์มาทราบคำพิพากษา และได้มีบันทึกว่า โจทก์ได้ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 28 ธันวาคม 2508 ดังนี้จึงต้องนับอายุฎีกาตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2508 อันเป็นวันที่โจทก์ได้ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โจทก์ยื่นฎีกาวันที่ 7 มกราคม 2509 ภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่โจทก์ได้ทราบคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เช่นนี้ ฎีกาของโจทก์ย่อมไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองช้างเพื่อใช้ในการกระทำผิดทางอาญา: เจ้าของช้างต้องรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องว่าแปรรูปไม้ และมีไม้แปรรูปภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จริง แต่ช้างของกลางซึ่งใช้ชักลากไม้มาในความครอบครองของจำเลยจำเลยยืมมาจากผู้อื่น เจ้าของไม่รู้เห็นด้วย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าช้างเป็นของผู้ร้อง ขอให้คืนแก่ผู้ร้อง ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษาลงโทษจำเลย คืนช้างของกลางแก่เจ้าของ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่ไม่ริบของกลาง และให้พิจารณาพิพากษาใหม่เฉพาะประเด็นว่าช้างเป็นของใคร เจ้าของรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้คืนช้างของกลางแก่เจ้าของได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาพเปลือยที่ไม่เข้าข่ายภาพลามกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 เนื่องจากไม่มีลักษณะน่าเกลียดน่าอุจาดบัดสี
ภาพพิมพ์ของกลางเป็นเพียงภาพที่แสดงถึงส่วนสัดความสมบูรณ์ของร่างกายที่มิได้มีสิ่งปกปิดโดยเฉพาะส่วนล่างก็พยายามปกปิดหรือทำเป็นเพียงเงา ๆ และได้ลบเลือนให้เป็นอวัยวะที่ราบเรียบแล้ว ภาพไม่มีลักษณะน่าเกลียดน่าอุจาดบัดสีแล้ว ดังนี้ไม่ถือว่าเป็นภาพลามกตามความหมายที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาพสัดส่วนร่างกายที่ไม่เข้าข่ายภาพลามกตามประมวลกฎหมายอาญา
ภาพพิมพ์ของกลางเป็นเพียงภาพที่แสดงถึงส่วนสัดความสมบูรณ์ของร่างกายที่มิได้มีสิ่งปกปิด โดยเฉพาะส่วนล่างก็พยายามปกปิดหรือทำเป็นเพียงเงาๆ และได้ลบเลือนให้เป็นอวัยวะที่ราบเรียบแล้ว ภาพไม่มีลักษณะน่าเกลียดน่าอุดจาดบัดสีแล้ว ดังนี้ไม่ถือว่าเป็นภาพลามกตามความหมายที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเริ่มนับโทษจำคุกต้องเป็นไปตามกฎหมายอาญามาตรา 22 มิใช่ตามประกาศคณะปฏิวัติ จำเลยฎีกาล่วงหน้าไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี มิได้กล่าวว่าให้นับโทษจำคุกตั้งแต่วันใด จำเลยจะฎีกาว่าศาลไม่นับระยะเวลาที่จำเลยถูกควบคุมตัวตามประกาศคณะปฏิวัติหาได้ไม่ เพราะการเริ่มนับวันจำคุกวันใด ต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 22 บัญญัติไว้ ซึ่งศาลจะสั่งในชั้นบังคับคดี เมื่อจำเลยมิได้ฎีกาขอให้ศาลสั่งนับโทษเป็นอย่างอื่นนอกจากที่กฎหมายบัญญัติไว้ ดังนี้ จึงถือว่าฎีกาของจำเลยมิใช่ฎีกาคัดค้านคำพิพากษา แต่เป็นการฎีกาในการบังคับคดีจำเลยจะฎีกาล่วงหน้ามาก่อนหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเริ่มนับโทษจำคุกและการฎีกาในชั้นบังคับคดี: ศาลสั่งนับโทษตามกฎหมายเมื่อไม่ได้ระบุในคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี มิได้กล่าวว่าให้นับโทษจำคุกตั้งแต่วันใด จำเลยจะฎีกาว่าศาลไม่นับระยะเวลาที่จำเลยถูกควบคุมตัวตามประกาศคณะปฏิวัติหาได้ไม่ เพราะการเริ่มนับวันจำคุกวันใด ต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 บัญญัติไว้ ซึ่งศาลจะสั่งในชั้นบังคับคดี เมื่อจำเลยมิได้ฎีกาขอให้ศาลสั่งนับโทษเป็นอย่างอื่นนอกจากที่กฎหมายบัญญัติไว้ ดังนี้ จึงถือว่าฎีกาของจำเลยมิใช่ฎีกาคัดค้านคำพิพากษา แต่เป็นการฎีกาในการบังคับคดี จำเลยจะฎีกาล่วงหน้ามาก่อนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอให้นับโทษต่อหลังศาลอุทธรณ์แก้พิพากษา โจทก์ต้องฎีกาหรือแก้ฎีกา หากไม่ทำตามสิทธิจะระงับ
ฟ้องขอให้ลงโทษและขอให้นับโทษต่อ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยผิดจริง แต่พิพากษาแก้ไม่นับโทษต่อให้จำเลยฎีกา โจทก์ไม่ฎีกาหรือแก้ฎีกาในข้อที่ศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษต่อครั้นศาลฎีกาวินิจฉัยเสร็จส่งคำพิพากษาพร้อมสำนวนคืนโจทก์เพิ่งยื่นคำร้องขอให้นับโทษต่อในวันเดียวกับที่ศาลชั้นต้นได้รับสำนวน เช่นนี้ไม่ได้เพราะเป็นคำร้องที่เป็นโทษแก่จำเลย และโจทก์ชอบที่จะฎีกาหรือแก้ฎีกาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอให้นับโทษต่อหลังศาลอุทธรณ์แก้พิพากษา โจทก์ต้องฎีกาหรือแก้ฎีกาในข้อนั้นทันที
ฟ้องขอให้ลงโทษและขอให้นับโทษต่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษและให้นับโทษต่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยผิดจริง แต่พิพากษาแก้ไม่นับโทษต่อให้ จำเลยฎีกา โจทก์ไม่ฎีกาหรือแก้ฎีกาในข้อที่ศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษต่อครั้นศาลฎีกาวินิจฉัยเสร็จส่งคำพิพากษาพร้อมสำนวนคืน โจทก์เพิ่งยื่นคำร้องขอให้นับโทษต่อในวันเดียวกับที่ศาลชั้นต้นได้รับสำนวน เช่นนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคำร้องที่เป็นโทษแก่จำเลยและโจทก์ชอบที่จะฎีกาหรือแก้ฎีกาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้าม ศาลฎีกาแก้คำสั่งให้รับอุทธรณ์เฉพาะปัญหากฎหมาย
ศาลแขวงไต่สวนข้อมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามไม่รับ โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์เห็นดังศาลชั้นต้น ให้ยกคำร้อง โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาสั่งให้รับอุทธรณ์โจทก์ในข้อที่ว่า โจทก์จะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 วรรค 1 ได้หรือไม่ เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
of 45