พบผลลัพธ์ทั้งหมด 447 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาจำเลย: กรณีศาลอุทธรณ์สั่งให้ไต่สวนใหม่ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาเพราะเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาล
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนต่อไปใหม่ เช่นนี้ จำเลยจะฎีกาหาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการฎีกาจำกัดเฉพาะคู่ความ คดีระหว่างโจทก์กับศาล จำเลยไม่มีสิทธิฎีกา
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนต่อไปใหม่ เช่นนี้ จำเลยจะฎีกาหาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและแก้ไขโทษรวมกระทง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.250 ข้อ 3 ม.184 และ ม.120 รวม 3 กะทงเมื่อลดโทษตาม ม.59 แล้วคงรวมกะทงลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ตาม ม.36
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ.ม.245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม ม.250 ข้อ 2 ไม่ใช่ข้อ 3 และที่ว่ารวมกะทงลงโทษตาม ม.36 ก็ไม่ถูกต้องเป็น ม.71 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามบทมาตราดังกล่าวนอกจากที่แก้คงยืนดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษได้
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ.ม.245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม ม.250 ข้อ 2 ไม่ใช่ข้อ 3 และที่ว่ารวมกะทงลงโทษตาม ม.36 ก็ไม่ถูกต้องเป็น ม.71 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามบทมาตราดังกล่าวนอกจากที่แก้คงยืนดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขบทมาตราความผิดและกระทงโทษในคดีอาญา, จำเลยฎีกาขอลดหย่อนโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา250 ข้อ2,3 มาตรา 184 และ มาตรา 120 รวม 3 กระทงเมื่อลดโทษตาม มาตรา 59 แล้วคงรวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ตาม มาตรา 36
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 250 ข้อ 2 ไม่ใช่ข้อ 3 และที่ว่ารวมกระทงลงโทษตาม มาตรา 36 ก็ไม่ถูกต้องเป็น มาตรา 71 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามบทมาตราดังกล่าวนอกจากที่แก้คงยืนดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษได้
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 250 ข้อ 2 ไม่ใช่ข้อ 3 และที่ว่ารวมกระทงลงโทษตาม มาตรา 36 ก็ไม่ถูกต้องเป็น มาตรา 71 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามบทมาตราดังกล่าวนอกจากที่แก้คงยืนดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่เริ่มนับหากจำเลยยังไม่ได้รับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
เมื่อปรากฏตามสำนวนว่าจำเลยยังมิได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตราบใด ฎีกาที่โจทก์ยื่นไว้นั้นก็ยังไม่เริ่มนับเป็นฎีกาตาม ป.วิ.อาญา ม.216 จึงจำต้องจำหน่ายคดีจากสารบบความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่เริ่มนับ หากจำเลยยังไม่ได้รับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
เมื่อปรากฏตามสำนวนว่าจำเลยยังมิได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตราบใดฎีกาที่โจทก์ยื่นไว้นั้นก็ยังไม่เริ่มนับเป็นฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา216 จึงจำต้องจำหน่ายคดีจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากโจทก์ไม่สามารถส่งสำเนาให้จำเลยได้ แม้คดีไม่มีเหตุต้องห้าม
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องการให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกา แต่ส่งสำเนาให้จำเลยไม่ได้ จึงส่งสำนวนมายังศาลฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาโจทก์ต้องห้ามตาม ก.ม.ศาลฎีกาจะพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์เสียเลยก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีอาญา: การพิสูจน์หลักฐานการฆ่า และการยกฎีกาเนื่องจากข้อจำกัดในการแจ้งสำเนา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกา แต่ส่งสำเนาให้จำเลยไม่ได้ จึงส่งสำนวนมายังศาลฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาโจทก์ต้องห้ามตาม กฎหมาย ศาลฎีกาจะพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์เสียเลยก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์หลักฐานในคดีอาญา: การยกฟ้องเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกา แต่ส่งสำเนาให้จำเลยไม่ได้ จึงส่งสำนวนมายังศาลฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาโจทก์ต้องห้ามตาม กฎหมาย ศาลฎีกาจะพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์เสียเลยก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1936/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอก: การฟ้องไม่สมบูรณ์ในฐานยักยอกเมื่อได้ทรัพย์มาจากการฉ้อโกง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยฉ้อโกงและว่าจำเลยเอาทรัพย์ที่ฉ้อโกงไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียนั้น ไม่เป็นฟ้องในความผิดฐานยักยอก
คดีความผิดฐานฉ้อโกงศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง คดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฉะนั้นศาลฎีกาย่อมจะไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์ในฐานฉ้อโกงหรือไม่ เพราะย่อมไม่มีผลให้มิต้องยกฟ้องโจทก์
คดีความผิดฐานฉ้อโกงศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง คดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฉะนั้นศาลฎีกาย่อมจะไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์ในฐานฉ้อโกงหรือไม่ เพราะย่อมไม่มีผลให้มิต้องยกฟ้องโจทก์