พบผลลัพธ์ทั้งหมด 447 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1936/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกงและการยักยอกทรัพย์: การแยกความผิดฐานและความสมบูรณ์ของฟ้อง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยฉ้อโกงและว่าจำเลยเอาทรัพย์ที่ฉ้อโกงไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียนั้น ไม่เป็นฟ้องในความผิดฐานยักยอก
คดีความผิดฐานฉ้อโกงศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง คดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฉะนั้นศาลฎีกาย่อมจะไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์ในฐานฉ้อโกงหรือไม่ เพราะย่อมไม่มีผลให้มีต้องยกฟ้องโจทก์
คดีความผิดฐานฉ้อโกงศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง คดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฉะนั้นศาลฎีกาย่อมจะไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์ในฐานฉ้อโกงหรือไม่ เพราะย่อมไม่มีผลให้มีต้องยกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยหลบหนีเรือนจำ ทำให้ศาลไม่สามารถวินิจฉัยคดีได้
จำเลยยื่นฎีกา โดยทนายจำเลยลงชื่อแทนในฎีกา แต่จำเลยได้หลบหนีเรือนจำไปก่อนวันยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้ ดังนี้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ เพราะจำเลยไม่มีตัวอยู่ในอำนาจศาล และสั่งจำหน่ายฎีกาของจำเลยเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาของจำเลยที่หลบหนีเรือนจำ: ศาลไม่รับวินิจฉัยและจำหน่ายคดี
ทนายจำเลยยื่นฎีกา โดยทนายจำเลยลงชื่อแทนในฎีกา แต่จำเลยได้หลบหนีเรือนจำไปก่อนวันยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้ดังนี้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้เพราะจำเลยไม่มีตัวอยู่ในอำนาจศาล และสั่งจำหน่ายฎีกาของจำเลยเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่สมบูรณ์ก่อนจำเลยรับทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หลายครั้ง จำเลยไม่มา จึงอ่านให้โจทก์ฟังฝ่ายเดียว โจทก์ยื่นฎีกาและจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วเช่นนี้ ถือว่าโจทก์เป็นเพียงยื่นฎีการอไว้ ไม่เข้าลักษณะเป็นฎีกา จนกว่าจำเลยจะได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องยื่นหลังจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ การยื่นก่อนถือว่ายังไม่สมบูรณ์
ศาลชั้นต้นนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หลายครั้งจำเลยไม่มา จึงอ่านให้โจทก์ฟังฝ่ายเดียว โจทก์ยื่นฎีกาและจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วเช่นนี้ ถือว่าโจทก์เป็นเพียงยื่นฎีการอไว้ ไม่เข้าลักษณะฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาต้องหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในคดีอาญา จำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทนายจำเลยจะยื่นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาต้องหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในคดีอาญา จำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทนายจำเลยจะยื่นฎีกา ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาอาญา: การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเป็นสำคัญ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 บัญญัติให้ฎีกาภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง ฉะนั้นเมื่อตัวจำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้โจทก์และทนายจำเลยจะได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วทนายจำเลยก็ยังไม่มีสิทธิฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาอาญา: การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเป็นสำคัญ
ป.ม.วิ.อาญามาตรา 216 บัญญัติให้ฎีกาภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาหรือมีคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง ฉะนั้นเมื่อตัวจำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้โจทก์และทนายจำเลยจะได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว หมายจำเลยก็ยังไม่มีสิทธิฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444-1445/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาจำเลยแม้ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาเดิม: จำเลยมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงเพื่อขอให้ยกฟ้องได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 20 ปี จำเลยมิได้อุทธรณ์คงมีโจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลวางโทษจำเลยโดยไม่ลดฐานปราณีด้วย แม้ศาลอุทธรณ์จะคงพิพากษายืน จำเลยก็มีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ไม่ต้องห้ามตามกฎหมายแต่อย่างใด (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2496)