พบผลลัพธ์ทั้งหมด 236 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินก่อนย่อมได้สิทธิเหนือผู้เข้ามาภายหลัง แม้จะมีการขอใบเหยียบย่ำ
เข้าจับจองที่ดินซึ่งมีผู้ก่อสร้างครอบครองอยู่ก่อนแล้วใบเหยียบย้ำส่วนที่ทับที่ผู้อื่นครอบครองอยู่ก่อนแล้ว จึงใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย
ก่อสร้างถางป่าทำเป็นนาขึ้น แล้วไปค้าขายต่างถิ่น แต่บุตรภรรยายังคงทำนาอยู่ ได้ชื่อว่าบุตรภรรยาครอบครองแทน ไม่เรียกว่าได้สละการครอบครองแล้ว
ก่อสร้างถางป่าทำเป็นนาขึ้น แล้วไปค้าขายต่างถิ่น แต่บุตรภรรยายังคงทำนาอยู่ ได้ชื่อว่าบุตรภรรยาครอบครองแทน ไม่เรียกว่าได้สละการครอบครองแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินก่อนบุคคลอื่นทำให้ใบเหยียบย่ำเป็นโมฆะ แม้มีการทำนาต่อเนื่อง
เข้าจับจองที่ซึ่งมีผู้โก่นสร้างครอบครองอยู่ก่อนแล้วใบเหยียบย่ำส่วนที่ทับที่ผู้อื่นครอบครองอยู่ก่อนแล้ว จึงใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย
โก่นสร้างถางป่าทำเป็นนาขึ้น แล้วไปค้าขายต่างถิ่นแต่บุตรภรรยายังคงทำนาอยู่ ได้ชื่อว่าบุตรภรรยาครอบครองแทน ไม่เรียกว่าได้สละการครอบครองแล้ว
โก่นสร้างถางป่าทำเป็นนาขึ้น แล้วไปค้าขายต่างถิ่นแต่บุตรภรรยายังคงทำนาอยู่ ได้ชื่อว่าบุตรภรรยาครอบครองแทน ไม่เรียกว่าได้สละการครอบครองแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนผู้อื่น แม้ช้านาน ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น
การที่จำเลยครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์ แม้จะช้านานเพียงไร ผู้ครอบครองก็จะเอาของผู้ที่ตนครอบครองแทนนั้นเป็นสิทธิเสียมิได้เพราะมิใช่เป็นการครอบครองในฐานเป็นเจ้าของ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนมิอาจทำให้ได้กรรมสิทธิ์ แม้จะครอบครองเป็นเวลานาน
การที่จำเลยครอยครองที่พิพาทแทนโจทก์ แม้จะช้านานเพียงไร ผู้ครอบครองก็จะเอาของที่ผู้ที่ตนครอบครองแทนนั้นเป็นสิทธิเสียมิได้ เพราะมิใช่เป็นการครอบครองในฐานเป็นเจ้าของ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์จากนิติกรรมขายฝากไม่สมบูรณ์: เจตนาคู่กรณีและการแสดงสิทธิของเจ้าของเดิม
ที่พิพาทเดิมเป็นของบิดามารดาโจทก์ ได้เอามาขายฝากโดยทำสัญญากันเองไว้แก่บิดามารดาจำเลย บิดามารดาจำเลยตายแล้วจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทเกิน 10 ปีแล้ว และเมื่อบิดามารดาโจทก์ตายโจทก์ก็มิได้จัดการจดทะเบียนรับมรดกปล่อยให้ฝ่ายจำเลยครอบครองมาเกิน 10 ปี จนจำเลยได้มาร้องต่อศาลให้แสดงกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของจำเลย ศาลก็ได้สั่งแสดงกรรมสิทธิ์ไปแล้ว ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าแม้นิติกรรมการขายฝากไม่สมบูรณ์ก็พึงเห็นเจตนาของคู่กรณีได้ว่า บิดามารดาโจทก์มอบที่ดินให้บิดามารดาจำเลยดังเช่นขาย แต่สงวนไว้เพียงสิทธิไถ่ถอน ฉะนั้นจะเรียกว่าบิดามารดาจำเลยยึดถือที่ดินไว้ในฐานผู้แทนผู้ครอบครองตามมาตรา1381 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ยังไม่ได้ กรณีเช่นนี้เรียกได้ว่าบิดามารดาจำเลยเข้าครอบครองเพื่อตนโดยอาศัยการอนุญาตของเจ้าของ จึงมีปัญหาข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาว่าฝ่ายจำเลยได้ครอบครองมาโดยสงบเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาจนเกิน 10 ปีหรือไม่ การที่จะแสวงหาความจริงข้อนี้ ต้องพิเคราะห์กิริยาอาการของฝ่ายโจทก์ผู้มอบที่ดินให้นั้นด้วยเพราะถ้าเจ้าของเดิมไม่แสดงอาการเป็นเจ้าของเกี่ยวข้องกับที่นั้นเลย สละละทิ้งไปจนเกินเวลาอันสมควรแล้ว ก็พึงเห็นเจตนาของคู่กรณีได้ว่าทั้งสองฝ่ายยินยอมให้ฝ่ายครอบครองทำการครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเพื่อผู้ครอบครองนั้นเองตั้งแต่ต้นมาทั้งนี้ได้เคยมีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้แล้วว่าทำสัญญากันเองเป็นทำนองขายฝากนั้นเจ้าของเดิมจะมาฟ้องเอาที่คืนโดยอ้างข้อสัญญาที่ให้ไถ่นั้นหาได้ไม่ (ฎีกาที่ 5/2465,352/2492) สำหรับคดีนี้โจทก์จะชนะคดีได้ก็ด้วยการแสดงว่าโจทก์มีสิทธิดีกว่าตามข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น แต่คดีนี้โจทก์อ้างว่าโจทก์ยังคงแสดงสิทธิเป็นเจ้าของอยู่ ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานเสียนั้นยังไม่สมควรจึงต้องพิพากษายก ให้ศาลชั้นต้นดำเนินต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์จากสัญญาขายฝากไม่สมบูรณ์ ศาลพิจารณาเจตนาคู่กรณีและพฤติการณ์เจ้าของเดิม
ที่พิพาทเดิมเป็นของบิดามารดาโจทก์ ได้เอามาขายฝากโดยทำสัญญากันเองไว้แก่บิดามารดาจำเลย บิดามารดาจำเลยตายแล้วจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทเกิน 10 ปีแล้ว และเมื่อบิดามารดาโจทก์ตาย โจทก์ก็มิได้จัดการจดทะเบียนรับมฤดก ปล่อยให้ฝ่ายจำเลยครอบครองมาเกิน 10 ปี จนจำเลยได้มาร้องต่อศาลให้แสดงกรรมสิทธิว่าเป็นของจำเลย ศาลก็ได้สั่งแสดงกรรมสิทธิไปแล้ว ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าแม้นิติกรรมการขายฝากไม่สมบูรณ์ก็พึงเห็นเจตนาของคู่กรณีได้ว่า บิดามารดาโจทก์มอบที่ดินให้บิดามารดาจำเลยดังเช่นขาย แต่สงวนไว้เพียงสิทธิไถ่ถอน ฉะนั้นจะเรียกว่าบิดามารดาจำเลยยึดถือที่ดินไว้ในฐานผู้แทนผู้ครอบครองตามมาตรา 1381 ป.ม.แพ่งยังไม่ได้ กรณีเช่นนี้เรียกได้ว่า บิดามารดาจำเลยเข้าครอบครองเพื่อตนโดยอาศัยการอนุญาตของเจ้าของ จึงมีปัญหาข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาว่าฝ่ายจำเลยได้ครอบครองมาโดยสงบเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาจนเกิน 10 ปีหรือไม่ การที่จะแสวงหาความจริงข้อนี้ ต้องพิเคราะห์กิริยาอาการของฝ่ายโจทก์ผู้มอบที่ดินให้นั้นด้วย เพราะถ้าเจ้าของเดิมไม่แสดงอาการเป็นเจ้าของเกี่ยวข้องกับที่นั้นเลย สละละทิ้งไปจนเกินเวลาอันสมควรแล้ว ก็พึงเห็นเจตนาของคู่กรณีได้ว่าทั้งสองฝ่ายยินยอมให้ฝ่ายครอบครอบทำการครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเพื่อผู้ครอบครองนั้นเองตั้งแต่ต้นมาทั้งนี้ได้เคยมีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้แล้วว่าทำสัญญากันเองเป็นทำนองขายฝากนั้นเจ้าของเดิมจะมาฟ้องเอาที่คืนโดยอ้างข้อสัญญาที่ให้ไถ่นั้นหาได้ไม่ (ฎีกาที่ 5/2465, 352/2492) สำหรับคดีนี้โจทก์จะชนะคดีได้ก็ด้วยการแสดงว่าโจทก์มีสิทธิดีกว่าตามข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น แต่คดีนี้โจทก์อ้างว่าโจทก์ยังคงแสดงสิทธิเป็เจ้าของอยู่ ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานเสียนั้นยังไม่สมควร จึงต้องพิพากษายก ให้ศาลชั้นต้นดำเนินพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์มรดกและการขาดอายุความ การครอบครองร่วมต้องปรากฏชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ต.ซึ่งปรากฏในคำฟ้องว่าตายมาประมาณ5 ปีแล้ว โดยโจทก์อ้างว่า โจทก์จำเลยได้ครอบครองร่วมกันมา เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าทายาทได้มอบให้จำเลยครอบครองทรัพย์มรดกมาแต่ผู้เดียวโจทก์ไปอยู่ที่อื่น ซึ่งมีการช่วยทำนาบ้าง แต่ไปทำเพราะช่วยจำเลย โดยจำเลยมีคนน้อย ดังนี้ ฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มรดกร่วมมากับจำเลย คดีของโจทก์ก็ขาดอายุความ
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมรดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมรดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์มรดกและการขาดอายุความฟ้องร้องแบ่งมรดก
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมฤดก ต. ซึ่งปรากฎในคำฟ้องว่า ตายมาประมาณ 5 ปีแล้ว โดยโจทก์อ้างว่า โจทก์,จำเลยได้ครอบครองร่วมกันมา เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าทายาทได้มอบให้จำเลยครอบครองทรัพย์มฤดกมาแต่ผู้เดียว โจทก์ไปอยู่ที่อื่น ซึ่งมีการช่วยทำนาบ้าง แต่ไปทำเพราะช่วยจำเลย โดยจำเลยมีคนน้อย ดังนี้ ฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มฤดกร่วมมากับจำเลย คดีของโจทก์ก็ขาดอายุความ
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมฤดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น.
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมฤดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการสืบสิทธิในมรดก หากผู้ครอบครองแสดงตนเป็นเจ้าของและผู้สืบสิทธิไม่ฟ้องร้องเป็นเวลาเกิน 10 ปี
โจทก์อ้างว่า ป.ครอบครองที่ดินไว้แทนโจทก์ แต่ ป.ได้ตายมา 10 ปีกว่าแล้ว ข้อที่ว่า ป.ปกครองแทนหรือไม่ ต่างนำสืบโต้เถียงกัน และจำเลยนำสืบว่า จำเลยปกครองเป็นของจำเลยตลอดมา ดังนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการขาดอายุความทางมรดก กรณีผู้ครอบครองอ้างสิทธิในฐานะเจ้าของ
โจทก์อ้างว่า ป. ครอบครองที่ดินไว้แทนโจทก์แต่ ป. ได้ตายมา 10 ปีกว่าแล้ว ข้อที่ว่า ป. ปกครองแทนหรือไม่ ต่างนำสืบโต้เถียงกันและจำเลยนำสืบว่า จำเลยปกครองเป็นของจำเลยตลอดมา ดังนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้อง