พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาครอบครองที่ดิน: การครอบครองโดยตั้งใจคืนที่ดินให้รัฐ ไม่ถือเป็นการยึดถือเพื่อตน
เข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยตั้งใจว่า เมื่อทางราชการต้องการก็จะคืนไป เพียงมีเจตนาเท่านี้จะถือว่าไม่ได้ยืดถือโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนตามมาตรา 1367 หรือสละเจตนาครอบครองตามมาตรา 1377 ยังไม่ได้ เพราะตราบใดที่ทางราชการยังไม่ต้องการผู้นั้นก็ยังต้องการเอาไว้อยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการควบคุมการค้ากำไรเกินควร ไม่จำกัดเฉพาะการกำหนดราคาสูงสุด
ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้น คณะกรรมการส่วนจังหวัดอาจประกาศห้ามมิให้ส่งของออกนอกท้องที่ได้ โดยไม่ต้องมีการประกาศกำหนดราคาสูงสุดแห่งสิ่งของนั้นด้วย เพราะวิธีการสั่งควบคุมหรือป้องกันการค้ากำไรเกินควรนี้ คณะกรรมการหาจำเป็นต้องกำหนดราคาสูงสุดทุกกรณีไม่ (มีฎีกาที่ 844/2492 วินิจฉัยแนวเดียวกัน)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการควบคุมการค้ากำไรเกินควร ไม่จำต้องกำหนดราคาสูงสุดเสมอไป
ตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้น คณะกรรมการส่วนจังหวัดอาจประกาศห้ามมิให้ส่งของออกนอกท้องที่ได้ โดยไม่ต้องมีการประกาศกำหนดราคาสูงสุดแห่งสิ่งของนั้นด้วย เพราะวิธีการสั่งควบคุมหรือป้องกันการค้ากำไรเกินควรนี้ คณะกรรมการหาจำเป็นต้องกำหนดราคาสูงสุดทุกกรณีไม่ (มีฎีกาที่844/2492วินิจฉัยแนวเดียวกัน)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้กำลังตอบโต้เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธ
ผู้เสียหายลวนลามหลานสาวของจำเลย จำเลยจึงถือมีดพร้าเข้ามาในห้องเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ใช้มีดบางแทงจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดพร้าฟันผู้เสียหายเป็นการป้องกันตัว แต่ปรากฏว่ามีดของจำเลยใหญ่ยาวกว่ามีดของผู้เสียหายมากประกอบกับขณะนั้นผู้เสียหายน่าจะคิดหนีไปให้พ้น ที่ใช้มีดทำร้ายจำเลยก็เพราะจำเลยถือมีดพร้ายืนขวางประตูอยู่หนีไปทางอื่นไม่ได้ และไม่ปรากฏว่าก่อนจำเลยจะฟันผู้เสียหายนั้น ผู้เสียหายจะแทงซ้ำอีกแต่อย่างใด เมื่อพิจารณาถึงอาวุธที่ใช้ทำร้ายประกอบกับบาดแผลและพฤติการณ์ต่างๆ ดังกล่าวมา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: พิจารณาอาวุธ, พฤติการณ์, และเจตนาของผู้ถูกทำร้าย
พฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารแนบท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง ไม่ต้องระบุในบัญชีพยาน และการเสียค่าธรรมเนียมอ้างเอกสาร
โจทก์กล่าวถึงหนังสือซื้อขายมาในฟ้อง และแนบหนังสือซื้อขายมาท้ายฟ้องต้องถือว่าหนังสือซื้อขายเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง โจทก์ไม่จำต้องระบุอ้างในบัญชีพยานอีก ส่วนการเสียค่าธรรมเนียมอ้างเอกสารนั้น เมื่อโจทก์ยื่นเอกสารมาพร้อมกับฟ้อง ต้องสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า โจทก์อ้างเอกสารนั้น เมื่อปรากฏว่ายังไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมอ้าง ก็เรียกเสียให้ครบถ้วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารแนบท้ายฟ้องถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง ไม่ต้องระบุในบัญชีพยาน การเสียค่าธรรมเนียมอ้างเอกสาร
โจทก์กล่าวถึงหนังสือซื้อขายมาในฟ้อง และแนบหนังสือซื้อขายมาท้ายฟ้อง ต้องถือว่าหนังสือซื้อขายเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง โจทก์ไม่จำต้องระบุอ้างในบัญชีพยานอีก ส่วนการเสียค่าธรรมเนียมอ้างเอกสารนั้น เมื่อโจทก์ยื่นเกสารมาพร้อมกับฟ้อง ต้องสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า โจทก์อ้างเอกสารนั้น เมื่อปรากฏว่ายังไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมอ้าง ก็เรียกเสียให้ครบถ้วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดให้มีการเล่นการพนัน ต้องแสดงเจตนาช่วยเหลือหรือร่วมรู้ในการดำเนินการ
ที่จะถือว่าเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันนั้น อย่างน้อยก็ต้องได้กระทำการแสดงว่า ร่วมรู้ช่วยเหลืออย่างใดอย่างหนึ่งให้มีการเล่นการพนันขึ้น เช่นช่วยเหลือจัดสถานที่ให้เล่น
เพียงแต่ว่าจำเลยเป็นเจ้าของบ้าน ขณะเกิดเหตุจำเลยนอนเป็นไข้อยู่ชั้นบนไม่ได้ลงมาเกี่ยวข้องในการเล่นยังถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน
เพียงแต่ว่าจำเลยเป็นเจ้าของบ้าน ขณะเกิดเหตุจำเลยนอนเป็นไข้อยู่ชั้นบนไม่ได้ลงมาเกี่ยวข้องในการเล่นยังถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดให้มีการเล่นการพนัน ต้องแสดงเจตนาช่วยเหลือหรือจัดการสถานที่ ไม่ใช่แค่ทราบว่ามีการเล่น
ที่จะถือว่าเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันนั้น อย่างน้อยก็ต้องได้กระทำการอันแสดงว่า ร่วมรู้ช่วยเหลืออย่างใดอย่างหนึ่งให้มีการเล่นการพนันขึ้น เช่นช่วยเหลือจัดสถานที่ให้เล่น
เพียงแต่ว่าจำเลยเป็นเจ้าของบ้าน ขณะเกิดเหตุจำเลยนอนเป็นไข้อยู่ชั้นบนไม่ได้ลงมาเกี่ยวข้องในการเล่นยังถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้จัดการให้มีการเล่นการพนัน
เพียงแต่ว่าจำเลยเป็นเจ้าของบ้าน ขณะเกิดเหตุจำเลยนอนเป็นไข้อยู่ชั้นบนไม่ได้ลงมาเกี่ยวข้องในการเล่นยังถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้จัดการให้มีการเล่นการพนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมร่วมเป็นโมฆะ การอ้างอิงพินัยกรรมเดิมที่ตกเป็นโมฆะไม่มีผล
สามีภรรยาเป็นเจ้าของทรัพย์ร่วมกันจึงร่วมกันทำพินัยกรรมฉบับเดียวกันยกทรัพย์ให้หลานนั้น เป็นการขัดกับ พระราชบัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม 2475 มาตรา 23 ที่ว่า 'บุคคลสองคนหรือมากกว่านั้นจะทำพินัยกรรมโดยเอกสารฉบับเดียวกันไม่ได้'
สามีภรรยาร่วมกันทำพินัยกรรมฉบับเดียวกันยกทรัพย์หลายอย่างให้หลาน รวมทั้งโจทก์ด้วย สำหรับโจทก์ได้ที่ดินและตึกภายหลังสามีผู้เดียวทำพินัยกรรมฉบับหลัง เพิกถอนข้อความในพินัยกรรมเดิมบางข้อในข้อที่ยกทรัพย์ให้หลานอื่นบางคน แล้วมีข้อความว่า ส่วนข้อความอื่นๆ ในพินัยกรรมนั้นคงเป็นไปตามเดิมดังนี้ เมื่อพินัยกรรมฉบับแรกไม่สมบูรณ์เพราะต้องห้ามตาม พระราชัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม 2475 แล้วก็ต้องถือว่าไม่มีการยกที่ดินและตึกให้โจทก์ด้วย ส่วนพินัยกรรมฉบับหลังแม้จะสมบูรณ์ก็ไม่มีข้อความว่าได้ยกที่ดินและตึกให้โจทก์ เป็นแต่กล่าวว่าส่วนข้อความอื่นๆ ในพินัยกรรมนั้นคงเป็นไปตามเดิม ซึ่งเมื่อพินัยกรรมเดิมใช้ไม่ได้แล้ว จะอ้างข้อความในเอกสารอื่นซึ่งมิใช่พินัยกรรมมาเป็นส่วนหนึ่งของพินัยกรรมจึงไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้ที่ดินและตึก
สามีภรรยาร่วมกันทำพินัยกรรมฉบับเดียวกันยกทรัพย์หลายอย่างให้หลาน รวมทั้งโจทก์ด้วย สำหรับโจทก์ได้ที่ดินและตึกภายหลังสามีผู้เดียวทำพินัยกรรมฉบับหลัง เพิกถอนข้อความในพินัยกรรมเดิมบางข้อในข้อที่ยกทรัพย์ให้หลานอื่นบางคน แล้วมีข้อความว่า ส่วนข้อความอื่นๆ ในพินัยกรรมนั้นคงเป็นไปตามเดิมดังนี้ เมื่อพินัยกรรมฉบับแรกไม่สมบูรณ์เพราะต้องห้ามตาม พระราชัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม 2475 แล้วก็ต้องถือว่าไม่มีการยกที่ดินและตึกให้โจทก์ด้วย ส่วนพินัยกรรมฉบับหลังแม้จะสมบูรณ์ก็ไม่มีข้อความว่าได้ยกที่ดินและตึกให้โจทก์ เป็นแต่กล่าวว่าส่วนข้อความอื่นๆ ในพินัยกรรมนั้นคงเป็นไปตามเดิม ซึ่งเมื่อพินัยกรรมเดิมใช้ไม่ได้แล้ว จะอ้างข้อความในเอกสารอื่นซึ่งมิใช่พินัยกรรมมาเป็นส่วนหนึ่งของพินัยกรรมจึงไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้ที่ดินและตึก