คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จำรูญเนติศาสตร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2057/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกเงินค่าธรรมเนียมที่ได้รับมอบหมาย ความผิดตามมาตรา 131
เจ้าพนักงานซึ่งมีหน้าที่ปกครองรักษาเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมได้รับมอบเงินค่าธรรมเนียมเพื่อให้ออกใบอนุญาตอย่างหนึ่งกลับไปออกใบอนุญาตอีกอย่างหนึ่งซึ่งค่าธรรมเนียมน้อยกว่าและยักยอกเงินที่เกินนั้นไว้ ดังนี้คงมีผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131แต่ไม่ผิดมาตรา 135 เพราะเพียงแต่ได้รับมอบเงินธรรมเนียมนั้นไว้ มิได้เรียกเก็บเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2057/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกเงินค่าธรรมเนียมที่ได้รับมอบหมาย มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
เจ้าพนักงานซึ่งมีหน้าที่ปกครองรักษาเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม ได้รับมอบเงินค่าธรรมเนียมเพื่อให้ออกใบอนุญาตอย่างหนึ่งกลับไปออกใบอนุญาตอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งค่าธรรมเนียมน้อยกว่าและยักยอกเงินที่เกินนั้นไว้ ดังนี้ คงมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 แต่ไม่ผิดมาตรา 135 เพราะเพียงแต่ได้รับมอบเงินธรรมเนียมนั้นไว้ มิได้เรียกเก็บเอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2050/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิในทรัพย์สินยังไม่โอน จนกว่าจะมีการส่งมอบทรัพย์ที่แยกออกจากของผู้อื่นได้ชัดเจน
การซื้อขายทรัพย์ ซึ่งจะต้องมีการชั่งและส่งมอบกัน หากทรัพย์นั้นยังเก็บรวมไว้กับของผู้อื่น ยังไม่ได้แยกเอาออกมาชั่งและส่งมอบแก่ผู้ซื้อ แม้ผู้ซื้อจะชำระราคาแล้วกรรมสิทธิยังคงอยู่แก่ผู้ขาย ยังไม่โอนไปยังผู้ซื้อ เจ้าหนี้ของผู้ขายยึดทรัพย์นั้นได้
คดีที่มีผู้ร้องขัดทรัพย์ และโจทก์ผู้นำยึด โต้เถียงว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นกรรมสิทธิของลูกหนี้ ดังนี้ ที่ศาลวินิจฉัยเรื่องกรรมสิทธิเป็นการวินิจฉัยประเด็นแห่งคดีโดยตรง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2050/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนจนกว่าจะมีการชั่งและส่งมอบทรัพย์ที่ซื้อขาย แม้ชำระราคาสิ้นสุดแล้ว
การซื้อขายทรัพย์ ซึ่งจะต้องมีการชั่งและส่งมอบกัน หากทรัพย์นั้นยังเก็บรวมไว้กับของผู้อื่น ยังไม่ได้แยกเอาออกมาชั่งและส่งมอบแก่ผู้ซื้อ แม้ผู้ซื้อจะชำระราคาแล้วกรรมสิทธิ์ยังคงอยู่แก่ผู้ขาย ยังไม่โอนไปยังผู้ซื้อ เจ้าหนี้ของผู้ขายยึดทรัพย์นั้นได้
คดีที่มีผู้ร้องขัดทรัพย์ และโจทก์ผู้นำยึด โต้เถียงว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้ ดังนี้ ที่ศาลวินิจฉัยเรื่องกรรมสิทธิ์เป็นการวินิจฉัยประเด็นแห่งคดีโดยตรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดเดิม: แม้ความผิดเปลี่ยนเป็นฆ่าคนตายหลังพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ก็ฟ้องซ้ำไม่ได้
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว ภายหลังผู้ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย โจทก์จะฟ้องจำเลยใหม่ฐานฆ่าคนตายอีกไม่ได้ ไม่ว่าคดีเดิมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วจะถึงที่สุดเด็ดขาดแล้วหรือไม่ก็ดี เพราะการกระทำอันเดียวกันนั้นโจทก์ได้ฟ้อง และศาลได้พิพากษาแล้ว
คดีดังกล่าวหากศาลชั้นต้นยังมิได้พิพากษา โจทก์ได้แต่จะขอแก้ฟ้องตามมาตรา 163 ป.ม.วิ.อาญา หากศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์ก็ขอแก้ฟ้องไม่ได้.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/2492

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ - การกระทำอันเดียวกัน - แก้ฟ้อง - ศาลพิพากษาแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วภายหลังผู้ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย โจทก์จะฟ้องจำเลยใหม่ฐานฆ่าคนตายอีกไม่ได้ ไม่ว่าคดีเดิมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วจะถึงที่สุดเด็ดขาดแล้วหรือไม่ก็ดี เพราะการกระทำอันเดียวกันนั้นโจทก์ได้ฟ้อง และศาลได้พิพากษาแล้ว
คดีดังกล่าวหากศาลชั้นต้นยังมิได้พิพากษา โจทก์ได้แต่จะขอแก้ฟ้องตามมาตรา 163 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหากศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์ก็ขอแก้ฟ้องไม่ได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/92

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1937-1946/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิด พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด ต้องเจตนาใช้เครื่องชั่งที่รู้ว่าไม่ถูกต้อง
ที่จะเป็นผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่ง ตวง วัด 2466 มาตรา31 นั้น จำเลยจะต้องใช้โดยรู้อยู่แล้วว่าเครื่องชั่งนั้นไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1937-1946/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด ต้องมีเจตนาใช้เครื่องชั่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ที่จะเป็นผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31 นั้นจำเลยจะต้องใช้โดยรู้อยู่แล้วว่าเครื่องชั่งนั้นไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1934/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง พ.ร.บ.กำไรเกินควร, รางวัลผู้จับ และการแยกปรับฐานความผิด
คดีที่หาว่าจำเลยทำผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 อัยยการโจทก์ไม่มีอำนาจขอให้จ่ายสินบล คงมีอำนาจขอแต่ให้จ่ายเงินรางวัลผู้จับ (อ้างฎีกา 1043/2492 และ 1933/2492)
ในกรณีที่มีผู้นำจับ แต่โจทก์ขอให้จ่ายเพียงร้อยละ 15 จึงต้องจ่ายรางวัล ตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 8 แต่ให้จ่ายเพียงเท่าที่โจทก์ขอเท่านั้น ไม่มีปัญหาว่าจะต้องจ่ายตามวรรคแรกหรือวรรคสอง
คดีที่จำเลยทำผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรฯ และผิดกฎหมายอื่นด้วยนั้น ให้แยกปรับฐานผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรฯ เสียกะทงหนึ่งต่างหาก แล้วจึงให้จ่ายรางวับของค่าปรับในฐานนี้จากจำนวนค่าปรับที่ศาลวางโทษก่อนลดโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1933/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ให้บำเหน็จฯ กับ พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร: เงินรางวัลยังคงใช้ได้
พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 30 หาได้มีความทับในเรื่องเงินรางวัลตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 ไม่ เพราะไม่ได้กล่าวถึงเงินรางวัลไว้ คงบัญญัติแต่ในเรื่องเงินสินบลอย่างเดียว เงินรางวัลตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิดฯ จึงยังคงใช้ได้อยู่ และถือตามอัตราเดิม เพราะการบอกแก้ไขราชกิจจาฯ (ประกาศเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) นั้นใช้ไม่ได้ (อ้างฎีกา 1073/2492)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2492)
of 91