คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จำรูญเนติศาสตร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ครอบครองที่ดินโดยมีชื่อในโฉนดตามคำพิพากษา มีสิทธิได้เปรียบ ผู้ทวงสิทธิอื่นต้องพิสูจน์สิทธิที่เหนือกว่า
ฝ่ายที่ยึดถือที่ดินมีชื่อในโฉนดตามคำพิพากษาของศาลแล้ว เมื่อมีบุคคลอื่นอ้างว่าที่ดินเป็นของตน ก็เป็นหน้าที่ของบุคคลอื่นนั้นต้องนำสืบก่อน(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/92)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ครอบครองที่ดินโดยมีชื่อในโฉนดตามคำพิพากษา มีสิทธิเหนือผู้ที่อ้างกรรมสิทธิ์ภายหลัง เว้นแต่ผู้ที่อ้างจะพิสูจน์สิทธิที่ดีกว่าได้
ฝ่ายที่ยึดถือที่ดินมีชื่อในโฉนดตามคำพิพากษาของศาลแล้ว เมื่อมีบุคคลอื่นอ้างว่าที่ดินเป็นของตน ก็เป็นหน้าที่ของบุคคลอื่นนั้นต้องนำสืบก่อน.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/92

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1751/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่เคยถูกหยิบยกในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องว่า ได้ทวงค่าเช่าจากจำเลย แล้วจำเลยไม่ชำระให้ จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระค่าเช่าให้แล้ว ไม่ได้ให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ได้ทวงถาม จำเลยจะฎีกาว่าโจทก์ไม่เคยแจ้งเลิกสัญญาเช่า ทั้งที่มิได้ยกข้อนี้ขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์นั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนและคณะกรรมการสอบสวน ถือเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ แม้ฟ้องไม่ระบุคำว่า 'เจ้าพนักงาน'
พนักงานสอบสวน และคณะกรรมการผู้ทำการสอบสวน ซึ่งได้แต่งตั้งขึ้นโดยทางราชการถือว่าเป็นเจ้าพนักงาน
ในเรื่องฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องของโจทก์ระบุว่าแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้ไม่มีคำว่าเจ้าพนักงาน ก็ลงโทษฐานแจ้งความเท็จได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนและคณะกรรมการสอบสวน ถือเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
พนักงานสอบสวน และคณะกรรมการผู้ทำการสอบสวน ซึ่งได้แต่งตั้งขึ้นโดยทางราชการถือว่าเป็นเจ้าพนักงาน
ในเรื่องฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องของโจทก์ระบุว่าแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้ไม่มีคำว่าเจ้าพนักงาน ก็ลงโทษฐานแจ้งความเท็จได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1627-1632/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่ชัดเจนของวันกระทำผิดในฟ้องอาญา ทำให้ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2491 เวลากลางวัน จำเลยนี้ เป็นทหารกองเกินและได้รับหมายเรียกของคณะกรมการอำเภอให้มาให้คณะกรรมการ ตรวจเลือกเข้ากองประจำการทหารจำเลยบังอาจหลีกเลี่ยงไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกตามกำหนดเวลา ทั้งนี้เพื่อจะไม่เข้ารับราชการทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัติ เหตุเกิด ฯลฯดังนี้ จำเลยย่อมเข้าใจฟ้องของโจทก์ไม่ได้ดีว่าโจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดในวันใด ฟ้องโจทก์จึงไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1627-1632/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่ชัดเจนของวันกระทำผิดในฟ้องอาญา ทำให้ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2491 เวลากลางวัน จำเลยนี้ เป็นทหารกองเกินและได้รับหมายเรียกของคณะกรมการอำเภอให้มาให้คณะกรรมการ ตรวจเลือกเข้ากองประจำการทหารจำเลยบังอาจหลีกเลี่ยงไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกตามกำหนดเวลา ทั้งนี้เพื่อจะไม่เข้ารับราชการทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัติ เหตุเกิด ฯลฯดังนี้จำเลยย่อมเข้าใจฟ้องของโจทก์ไม่ได้ดีว่าโจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดในวันใด ฟ้องโจทก์จึงไม่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5) ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณา 'เคหะ' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ต้องดูเจตนาคู่สัญญาและเหตุแวดล้อมอื่นประกอบ ผู้เช่ามีหน้าที่นำสืบ
การพิจารณาว่าสิ่งปลูกสร้างใดเป็นเคหะตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯหรือไม่นั้นจะดูแต่เพียงผู้เช่าอาศัยอยู่ในสิ่งปลูกสร้างนั้นหรือไม่แต่อย่างเดียวยังหาเพียงพอกับความประสงค์ของกฎหมายไม่ แต่จะต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่กรณีในเวลาทำสัญญากัน ประกอบกับเหตุผลแวดล้อมอื่น ๆ เช่นสภาพของสิ่งปลูกสร้าง อัตราค่าเช่า ทำเลที่ตั้งสิ่งปลูกสร้างและการปฏิบัติของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายประกอบกันว่า การเช่าสิ่งปลูกสร้างนั้น เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือไม่
(อ้างฎีกาที่ 1099-1147/2491)
การเช่าจะอยู่ในความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของผู้เช่าจะต้องนำสืบแสดงเมื่อตามฟ้องคำให้การและคำแถลงรับรองของคู่ความไม่เพียงพอที่จะชี้ว่าทรัพย์รายนี้เป็นเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าเมื่อผู้เช่าไม่ติดใจสืบพะยาน ผู้เช่าก็ต้องแพ้คดี
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า โดยเรียกค่าเสียหายเป็นรายเดือน ๆ ละ 100 บาท คดีได้ความว่าจำเลยเช่าตึกรายนี้มีค่าเช่าเดือนละ 80 บาท ฉะนั้นเมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าต่อจำเลยโดยชอบแล้วจำเลยไม่ยอมออกไป โจทก์ย่อมต้องเสียหาย ศาลก็เห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายให้เดือนละ 80 บาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณา 'เคหะ' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ต้องดูเจตนาคู่สัญญาและเหตุแวดล้อมอื่นประกอบ ผู้เช่าต้องนำสืบ
การพิจารณาว่าสิ่งปลูกสร้างใดเป็นเคหะตามความหมายแห่งพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ หรือไม่นั้นจะดูแต่เพียงผู้เช่าอาศัยอยู่ในสิ่งปลูกสร้างนั้นหรือไม่แต่อย่างเดียวยังหาเพียงพอกับความประสงค์ของกฎหมายไม่ แต่จะต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่กรณีในเวลาทำสัญญากัน ประกอบกับเหตุผลแวดล้อมอื่นๆเช่นสภาพของสิ่งปลูกสร้าง อัตราค่าเช่า ทำเลที่ตั้งสิ่งปลูกสร้างและการปฏิบัติของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายประกอบกันว่า การเช่าสิ่งปลูกสร้างนั้น เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือไม่(อ้างฎีกาที่ 1099-1147/2491)
การเช่าจะอยู่ในความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของผู้เช่าจะต้องนำสืบแสดงเมื่อตามฟ้องคำให้การและคำแถลงรับของคู่ความไม่เพียงพอที่จะชี้ว่าทรัพย์รายนี้เป็นเคหะตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าเมื่อผู้เช่าไม่ติดใจสืบพยาน ผู้เช่าก็ต้องแพ้คดี
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า โดยเรียกค่าเสียหายเป็นรายเดือนๆ ละ 100 บาทคดีได้ความว่าจำเลยเช่าตึกรายนี้จำเลยมีค่าเช่าเดือนละ 80 บาท ฉะนั้นเมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าต่อจำเลยโดยชอบแล้วจำเลยไม่ยอมออกไป โจทก์ย่อมต้องเสียหาย ศาลก็เห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายให้เดือนละ 80 บาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1545/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงพิเศษนอกเหนือจากสัญญาซื้อขายและการวางมัดจำ ศาลไม่อาจรับฟังได้หากไม่ปรากฏในสัญญา
จำเลยได้ทำหนังสือสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์และได้มีการวางมัดจำด้วย แต่ความประสงค์ของทั้งสองฝ่ายมุ่งจะผูกมัดกันโดยหนังสือสัญญานี้ ส่วนการวางมัดจำเป็นแต่ข้อสัญญากันข้อหนึ่ง หาใช่ตกลงกันทำสัญญาด้วยการวางมัดจำไม่ กรณีเข้า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 คู่ความจะสืบว่ามีข้อตกลงเป็นพิเศษว่า จำเลยจะต้องให้ผู้เช่าออกไปจากที่ก่อนโอน โดยไม่ปรากฏในหนังสือสัญญาเช่นนี้ ศาลรับฟังไม่ได้โดยขัดกับมาตรา 94(ประชุมใหญ่ ครั้งที่21/92)
of 91