พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การได้กรรมสิทธิจากการครอบครองที่ดิน แม้ไม่มีหนังสือสำคัญ และผลของการยกที่ดินโดยไม่ได้จดทะเบียน
                        
                        หนังสือยกให้ที่ดิน แม้จะไม่สมบูรณ์เพราะมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และมิใช่พินัยกรรม์ เพราะไม่มีข้อกำหนดเผื่อตายก็ตาม ก็ยังเป็นการแสดงเจตนาว่าเจ้าของที่ดินได้สละสิทธิครอบครองให้แก่ผู้รับแล้ว
ที่สวนผลไม้และสวนจากนั้น เจ้าของต้องละทิ้งช้านานถึง 9-10 ปี จึงจะขาดกรรมสิทธิ
(ฎีกา 1071-1072/82)
ที่นาซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ครอบครองเกินกว่า 1 ปีย่อมได้สิทธิ.
                                    ที่สวนผลไม้และสวนจากนั้น เจ้าของต้องละทิ้งช้านานถึง 9-10 ปี จึงจะขาดกรรมสิทธิ
(ฎีกา 1071-1072/82)
ที่นาซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ครอบครองเกินกว่า 1 ปีย่อมได้สิทธิ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครอง โดยมีเอกสารยกที่ดินที่ไม่สมบูรณ์และระยะเวลาครอบครองที่แตกต่างกัน
                        
                        หนังสือยกให้ที่ดิน แม้จะไม่สมบูรณ์เพราะมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และมิใช่พินัยกรรม เพราะไม่มีข้อกำหนดเผื่อตายก็ตาม ก็ยังเป็นการแสดงเจตนาว่าเจ้าของที่ดินได้สละสิทธิครอบครองให้แก่ผู้รับแล้ว
ที่สวนผลไม้และสวนจากนั้น เจ้าของต้องละทิ้งช้านานถึง 9-10 ปี จึงจะขาดกรรมสิทธิ์
(ฎีกา 1071-1072/82)
ที่นาซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ครอบครองเกินกว่า 1 ปี ย่อมได้สิทธิ
                                    ที่สวนผลไม้และสวนจากนั้น เจ้าของต้องละทิ้งช้านานถึง 9-10 ปี จึงจะขาดกรรมสิทธิ์
(ฎีกา 1071-1072/82)
ที่นาซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ครอบครองเกินกว่า 1 ปี ย่อมได้สิทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจตรวจแก้รายงานการประชุมของนายอำเภอ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
                        
                        นายอำเภอมีอำนาจตรวจแก้ร่างรายงานการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านที่เสมียนจดรายงานการประชุมนั้นได้ ไม่มีความผิดฐานปลอมหนังสือ.
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจนายอำเภอแก้ร่างรายงานการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือ
                        
                        นายอำเภอมีอำนาจตรวจแก้ร่างรายงานการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านที่เสมียนจดรายงานการประชุมนั้นได้ ไม่มีความผิดฐานปลอมหนังสือ
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การคืนของกลางและการเรียกร้องค่าเสียหาย: เมื่อเจ้าทรัพย์ได้รับซากคืนแล้ว ไม่สามารถเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าไก่ทั้งตัวได้อีก
                        
                        ในคดีนี้จำเลยมีผิดฐานรับของโจร ไก่ตัวหนึ่งมีราคา 50 บาท แต่เจ้าทรัพย์ได้รับคืนซากไก่ของกลางไปแล้ว อัยยการโจทก์จะขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาไก่อีกไม่ได้.
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การคืนของกลางและสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย: เมื่อของกลางถูกคืนแล้ว ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายซ้ำได้
                        
                        ในคดีนี้จำเลยมีผิดฐานรับของโจรไก่ตัวหนึ่งมีราคา 50 บาทแต่เจ้าทรัพย์ได้รับคืนซากไก่ของกลางไปแล้ว
อัยการโจทก์จะขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาไก่อีกไม่ได้
                                    อัยการโจทก์จะขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาไก่อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่เคยยกขึ้นสู่การพิจารณาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับพิจารณา
                        
                        โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันตกลงเลิกหุ้นส่วนและคิดบัญชีแล้ว ขอให้จำเลยจ่ายเงินค่าหุ้นและกำไรให้โจทก์  จำเลยให้การว่า หุ้นส่วนยังไม่ได้เลิกกันดังนี้ จำเลยจะยกข้อต่อสู้ขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาว่าการตกลงนั้นไม่สมบูรณ์ เพราะหุ้นส่วนไม่ได้มาประชุมพร้อมกันหมดไม่ได้เพราะมิได้ยกข้อนี้ขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้น
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การตกลงเลิกหุ้นส่วนและการยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกา
                        
                        โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันตกลงเลิกหุ้นส่วนและคิดบัญชีแล้ว ขอให้จำเลยจ่ายเงินค่าหุ้นและกำไรให้โจทก์ จำเลยให้การว่า หุ้นส่วนยังไม่ได้เลิกกัน ดังนี้ จำเลยจะยกข้อต่อสู้ขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาว่า การตกลงนั้นไม่สมบูรณ์ เพราะหุ้นส่วนไม่ได้มาประชุมพร้อมกันหมดไม่ได้ เพราะมิได้ยกข้อนี้ขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้น.
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            คำพิพากษาผูกพันคู่ความจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยศาลสูงกว่าเท่านั้น ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำพิพากษาเดิมไม่ได้
                        
                        ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 คำพิพากษาของศาลย่อมผูกพันคู่ความจนคำพิพากษานั้นจะได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปแก้ไข กลับหรืองดเสีย  ถ้าหากมี การแก้ไขเปลี่ยนแปลงกลับหรืองดเสียนี้ตามปกติเป็นอำนาจของศาลสูงขึ้นไป คือศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณี  ศาลชั้นต้นจะเพิกถอนคำพิพากษาของตัวเองหาได้ไม่
เดิมจำเลยฟ้องขับไล่โจทก์ในคดีนี้ออกจากที่เช่า โจทก์ต่อสู้ในคดีเดิมนั้นว่ามติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าใช้ไม่ได้ ศาลชั้นต้นไม่ยอมให้โจทก์สืบในข้อนี้ พิพากษาขับไล่โจทก์ โจทก์อุทธรณ์ขอให้ทุเลาการบังคับ และให้รอการพิจารณาไว้ก่อนโดยโจทก์ได้ยื่นฟ้องทำลายมติคณะกรรมการแล้ว แต่โจทก์ยื่นอุทธรณ์เกินกำหนด ศาลจึงไม่รับอุทธรณ์
คดีนั้นถึงที่สุด ต่อมาศาลพิพากษาให้ทำลายมติคณะกรรมการโจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขอให้ทำลายคำพิพากษาในคดีเดิมที่ขับไล่โจทก์นั้นเสียดังนี้ โจทก์ย่อมฟ้องไม่ได้เพราะต้องห้ามตามมาตรา 144 ประกอบกับมาตรา 145 และ 148 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
                                    เดิมจำเลยฟ้องขับไล่โจทก์ในคดีนี้ออกจากที่เช่า โจทก์ต่อสู้ในคดีเดิมนั้นว่ามติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าใช้ไม่ได้ ศาลชั้นต้นไม่ยอมให้โจทก์สืบในข้อนี้ พิพากษาขับไล่โจทก์ โจทก์อุทธรณ์ขอให้ทุเลาการบังคับ และให้รอการพิจารณาไว้ก่อนโดยโจทก์ได้ยื่นฟ้องทำลายมติคณะกรรมการแล้ว แต่โจทก์ยื่นอุทธรณ์เกินกำหนด ศาลจึงไม่รับอุทธรณ์
คดีนั้นถึงที่สุด ต่อมาศาลพิพากษาให้ทำลายมติคณะกรรมการโจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขอให้ทำลายคำพิพากษาในคดีเดิมที่ขับไล่โจทก์นั้นเสียดังนี้ โจทก์ย่อมฟ้องไม่ได้เพราะต้องห้ามตามมาตรา 144 ประกอบกับมาตรา 145 และ 148 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            คำพิพากษาผูกพันคู่ความจนกว่าจะเปลี่ยนแปลงโดยศาลสูงขึ้นไป ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำพิพากษาเดิมไม่ได้
                        
                        ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 145 คำพิพากษาของศาลย่อมผูกพันคู่ความจนคำพิพากษานั้นจะได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปแก้ไข กลับหรืองดเสีย ถ้าหากมี การแก้ไขเปลี่ยนแปลงกลับหรืองดเสียนี้ ตามปกติเป็นอำนาจของศาลสูงขึ้นไป คือศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณี ศาลชั้นต้นจะเพิกถอนคำพิพากษาของตัวเองหาได้ไม่
เดิมจำเลยฟ้องขับไล่โจทก์ในคดีนี้ออกจากที่เช่า โจทก์ต่อสู้ในคดีเดิมนั้นว่ามติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าใช้ไม่ได้ ศาลชั้นต้นไม่ยอมให้โจทก์สืบในข้อนี้ พิพากษาขับไล่โจทก์ โจทก์อุทธรณ์ขอให้ทุเลาการบังคับ และให้รอการพิจารณาไว้ก่อนโดยโจทก์ได้ยื่นฟ้องทำลายมติคณะกรรมการแล้ว แต่โจทก์ยื่นอุทธรณ์เกินกำหนด ศาลจึงไม่รับอุทธรณ์ คดีนั้นถึงที่สุด ต่อมาศาลพิพากษาให้ทำลายมติคณะกรรมการ โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขอให้ทำลายคำพิพากษาในคดีเดิมที่ขับไล่โจทก์นั้นเสีย ดังนี้ โจทก์ย่อมฟ้องไม่ได้เพราะต้องห้ามตามมาตรา 144 ประกอบกับมาตรา 145 และ 148 ป.ม.วิ.แพ่ง.
                                    เดิมจำเลยฟ้องขับไล่โจทก์ในคดีนี้ออกจากที่เช่า โจทก์ต่อสู้ในคดีเดิมนั้นว่ามติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าใช้ไม่ได้ ศาลชั้นต้นไม่ยอมให้โจทก์สืบในข้อนี้ พิพากษาขับไล่โจทก์ โจทก์อุทธรณ์ขอให้ทุเลาการบังคับ และให้รอการพิจารณาไว้ก่อนโดยโจทก์ได้ยื่นฟ้องทำลายมติคณะกรรมการแล้ว แต่โจทก์ยื่นอุทธรณ์เกินกำหนด ศาลจึงไม่รับอุทธรณ์ คดีนั้นถึงที่สุด ต่อมาศาลพิพากษาให้ทำลายมติคณะกรรมการ โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขอให้ทำลายคำพิพากษาในคดีเดิมที่ขับไล่โจทก์นั้นเสีย ดังนี้ โจทก์ย่อมฟ้องไม่ได้เพราะต้องห้ามตามมาตรา 144 ประกอบกับมาตรา 145 และ 148 ป.ม.วิ.แพ่ง.