พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักหนี้ค่าทำศพออกจากมรดก: จำเลยมิอาจอ้างหักหนี้ได้หากมิได้ฟ้องแย้งและเป็นคนละเรื่องกับข้อพิพาท
โจทก์เป็นทายาทของผู้ตาย ฟ้องเรียกทรัพย์คือที่ดินบ้านเรือนอันเป็นทรัพย์มฤดกของผู้ตายจากจำเลย ซึ่งเป็นภรรยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจะขอให้หักค่าทำศพผู้ตาย ซึ่งจำเลยว่าได้ออกไปเป็นส่วนตัว ออกจากกองมฤดก โดยมิได้ฟ้องหรือฟ้องแย้งขึ้นมาไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องการแบ่งมฤดกระหว่างโจทก์จำเลย ทั้งมูลหนี้ก็มีวัตถุต่างกัน ไม่อยู่ในสภาพที่จะหักกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักหนี้ค่าทำศพออกจากกองมรดก: จำเลยไม่มีสิทธิเรียกร้องหากมิได้ฟ้องแย้งหรือเป็นการแบ่งมรดก
โจทก์เป็นทายาทของผู้ตายฟ้องเรียกทรัพย์คือที่ดินบ้านเรือนอันเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายจากจำเลยซึ่งเป็นภรรยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจะขอให้หักค่าทำศพผู้ตาย ซึ่งจำเลยว่าได้ออกไปเป็นส่วนตัวออกจากกองมรดก โดยมิได้ฟ้องหรือฟ้องแย้งขึ้นมาไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องการแบ่งมรดกระหว่างโจทก์จำเลย ทั้งมูลหนี้ก็มีวัตถุต่างกัน ไม่อยู่ในสภาพที่จะหักกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 675/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีชั่งตวงวัดต้องระบุคำขอให้จ่ายเงินสินบน หากไม่มี ศาลไม่สามารถบังคับได้
บรรยายฟ้องว่า จำเลยทำผิด พ.ร.บ.ชั่วตวงวัด มาตรา 32 แต่ไม่กล่าวถึงเรื่องเงินสินบน และไม่มีคำขอบังคับให้จ่ายเงินสินบนด้วย แม้จะระบุ มาตรา 3 พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด2466 มาท้ายฟ้องด้วย ก็ต้องถือว่าฟ้องไม่มีคำขอให้จ่ายเงินสินบน ศาลไม่บังคับให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 675/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีชั่งตวงวัดต้องระบุคำขอให้จ่ายเงินสินบลชัดเจน หากไม่มีคำขอ ศาลไม่บังคับได้
บรรยายฟ้องว่า จำเลยทำผิด พ.ร.บ.ชั่งตวงวัดมาตรา 3 แต่ไม่กล่าวถึงเรื่องเงินสินบล และไม่มีคำขอบังคับ ให้จ่ายเงินสินบลด้วย แม้จะระบุมาตรา 3 พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด 2466 มาท้ายฟ้องด้วย ก็ต้อง+ว่าฟ้องไม่มีคำขอให้จ่ายเงินสินบล ศาลไม่บังคับให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบร่วมกันลักทรัพย์: พฤติการณ์ใกล้ชิดและการส่งของกลางเป็นหลักฐานบ่งชี้การสมคบ
แม้จะไม่มีพยานโดยตรงว่า จำเลยที่ 2 สมคบกับจำเลยที่ 1 มาแต่แรก แต่พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 เดินอยู่ใกล้ชิดจำเลยที่ 2 พอจำเลยที่ 2ล้วงกระเป๋าลักแว่นตามาได้ก็ส่งให้จำเลยที่ 1 ในเวลากระชั้นชิดนั้นเอง และจำเลยที่ 1 รับแล้วใส่ไว้ในอกเสื้อแสดงให้เห็นอยู่ในตัวว่าจำเลยทั้งสองได้สมคบแบ่งปันหน้าที่กันแต่แรกแล้ว ถือว่าเป็นตัวการลักทรัพย์โดยมีพรรคพวก ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมกันลักทรัพย์: พฤติการณ์ส่งมอบของกลางแสดงเจตนา
พฤตติการณ์ที่ถือ+เป็นตัวการลักทรัพย์โดยมีพรรคพวก ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 293
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จและบุกรุก: การกระทำโดยสุจริตและการพิสูจน์ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จโดยปลอมลายมือชื่อโจทก์ในใบแจ้งย้ายว่า จำเลยย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเลขที่ 91 โดยเป็นความเท็จ เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้เข้ามาอยู่ในห้องนั้นจริง และชี้ไม่ได้ว่าลายเซ็นของโจทก์ปลอม จำเลยก็ไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จและบุกรุก: จำเลยเข้าครอบครองโดยสุจริตและเจตนาไม่ทุจริต จึงไม่มีความผิด
ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จโดยปลอมลายมือชื่อโจทก์ในใบแจ้งย้ายว่า จำเลยย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเลขที่ 91 โดยเป็นความเท็จ เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้เข้ามาอยู่ในห้องนั้นจริง และชี้ไม่ได้ว่าลายเซ็นของดจทก์ปลอม จำเลยก็ไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่า จำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่า จำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องยกประเด็นข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้น/อุทธรณ์วินิจฉัยแล้วเท่านั้น การยกประเด็นใหม่ขัดต่อกฎหมาย
คดีมโนสาเร่ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย และจะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องยกประเด็นที่เคยยกขึ้นว่ากล่าวในศาลล่างเท่านั้น การยกประเด็นใหม่ในฎีกาเป็นเหตุต้องห้าม
คดีมโนสาเร่ฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย และจะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์